ดึงลูกค้า SME ไทย-ญี่ปุ่น เพิ่มธุรกรรมการค้าระหว่างปท.

ดึงลูกค้า SME ไทย-ญี่ปุ่น เพิ่มธุรกรรมการค้าระหว่างปท.

กรุงศรีผนึก MUFG ดึงลูกค้า SME ไทย-ญี่ปุ่น เพิ่มธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ ตั้งเป้ารายได้และฐานเงินฝากและตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ประมาณ 7,000 ล้าน

นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “ธุรกิจ SME เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ในปีที่ผ่านมา กรุงศรีได้ดำเนินนโนบายเพื่อสนับสนุนการเติบโตของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง ในปี 2561กลุ่มธุรกิจ SME ขนาดกลางและขนาดเล็กของกรุงศรี มีพอร์ตเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นปี เติบโต 16.6% สูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม ด้วยปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของสินเชื่อใหม่ สินเชื่อซัพพลายเชน และสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ

ขณะที่เงินฝากต้นทุนต่ำ (Low-cost CASA) และค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยนมีการเติบโตสูงมาก ขณะที่ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง ณ สิ้นปี 2561 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีได้ปรับลดลงจากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 3.8% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าอุตสากรรมโดยรวม ผลงานที่โดดเด่นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกรุงศรี กรุ๊ป และการบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เรายังได้ประโยชน์จากการที่มีเครือข่ายทั่วโลกของ MUFG ทำให้สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมาก

“สำหรับปีนี้ กลุ่มงานธุรกิจลูกค้าเอสเอ็มอีจะให้ความสำคัญกับธุรกรรมระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่งและครอบคลุมระดับโลกของ MUFG โดยจะเริ่มจาก SME ที่ส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นและ SME สัญชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ลูกค้าจะสามารถทำธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยระยะเวลาที่สั้นลง และอัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ การที่ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายของ MUFG และกรุงศรีฯ จะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ด้านการค้าระหว่างประเทศประมาณ 7,000 ล้านบาท" นายสยามกล่าว