VGI PLANB - ซือ

VGI PLANB - ซือ

The V-PLAN assemble

เรามองว่าการประกาศเข้าลงทุนของ VGI ใน PLANB วานนี้ถือเป็นก้าวสาคัญไม่ใช่เพียงแค่ของทั้งสองบริษัท แต่เป็นก้าวสำคัญของประเทศไทย ทุกวันนี้เราเสียรายได้เม็ดเงินโฆษณาจำนวนมากให้กับบริษัทต่างชาติอย่าง Facebook และ YouTube การผนึกกำลังกันของบริษัทไทยที่เสียภาษีอย่างถุกต้องตามกฏหมายจะสร้างความแข็งแกร่งเพื่อสามารถแข็งขันกับบริษัทต่างชาติได้ เรามองดีลนี้เป็นบวกต่อทั้ง VGI, PLANB และอุตสาหกรรมสื่อไทย

VGI ประกาศเข้าลงทุนใน PLANB

เมื่อวานนี้ VGI ประกาศเข้าลงทุนใน PLANB โดยการเสนอซื้อหลักทรัพย์เพิ่มทุนที่ออกใหม่จานวน 353 ล้านหุ้นและซื้อหุ้นสามัญจานวน 369 ล้านหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม (โดยหลักๆมาจากบริษัท PLANB Investment Holding, Outdoor Media Investment, PT Elang Mahkota Teknologi TBK, และดร. พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์) รวมทั้งสิ้น 722 ล้านหุ้น (คิดเป็น 18.59% ของหุ้นทั้งหมดของ PLANB หลังจากการออกและเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ตามธุรกรรมดังกล่าว) ในราคา 6.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 4.6 พันล้านบาท ราคาซื้อขึ้นอยู่กับการเจรจาโดยอ้างอิงราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักในช่วง 7 วันทำการก่อนหน้า นอกจากนี้ VGI ตกลงที่จะสละสิทธิ์ในการรับเงินปันผลสำหรับการดำเนินงานในปี 2561 สำหรับหุ้นที่ออกใหม่

การเข้าซื้อดังกล่าวคิดเป็น PER ที่ 31 เท่า ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าปัจจุบันของ VGI ราว 26% ทั้งนี้ VGI จะจัดหาเงินทุนสำหรับการเข้าซื้อเป็นเงินสดจากการดำเนินงานจำนวน 2.9 พันล้านบาทและเงินกู้จำนวน 1.7 พันล้านบาท (เราไม่เห็นปัญหาใดๆ เนื่องจากงบดุลในปี 2561 ที่มีเงินสดในมือและเงินลงทุนระยะสั้น 3 พันล้านบาท ด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่เพียง 0.1 เท่า)

สัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ

VGI และ PLANB ได้เข้าทำสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้ 1) ความร่วมมือสำหรับใช้ทรัพยากรของสื่อโฆษณาและการบริหารจัดการทรัพยากรสื่อโฆษณาร่วมกัน รวมทั้งการใช้ประโยชน์ของระบบ/เทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยให้เกิดการประหยัดต่อขนาด และการลดภาระต้นทุน และ 2) ความร่วมมือด้านการตลาด, การ Cross Selling สื่อโฆษณาให้แก่ลูกค้า หรือการซื้อขายสื่อโฆษณาระหว่างกันภายใต้แพ็คเกจการขายร่วมกันเพื่อนาเสนอสื่อนอกบ้านที่มีความหลากหลายและครบวงจรยิ่งขึ้น ดีลดังกล่าวนี้จะหนุนมูลค่าสื่อนอกบ้านในมือขึ้นมากกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อดีลนี้ เนื่องจากจะเสริมสร้างจุดแข็งของกลุยทธ์ทั้ง VGI และ PLANB จากการควบรวมเครือข่ายสื่อนอกบ้านและแพลตฟอร์ม โดยจะส่งผลให้ VGI ได้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นทันทีและจะเป็นอีกปัจจัยหนุนแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว เราประมาณการในเบื้องต้นว่ากำไรส่วนเพิ่มของ VGI จะอยู่ที่ 4-5% ในปี 2562

ทำลายอำนาจการต่อรองของเอเจนซี่

VGI เป็นเพียงบริษัทเดียวในประเทศไทยที่มีธุรกิจโฆษณา, การชำระเงิน และการขนส่งในเครือ อีกทั้ง PLANB คือบริษัทที่มีเครือข่ายสื่อดิจิตัลนอกบ้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมทั้ง Engagement marketing ดังนั้นทั้งสองบริษัทจึงเป็นส่วนเติมเต็มซึ่งกันและกัน อีกทั้งดีลนี้จะทำให้ทั้งสองบริษัทแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ในอดีต VGI และ PLANB จะให้ส่วนลดกับเอเจนซี่โฆษณา/ผู้ซื้อสื่อเพื่อแลกกับเม็ดเงินโฆษณา แต่ด้วยสถานะการร่วมมือของสองบริษัทซึ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เราไม่คิดว่าจะต้องจ่ายส่วนลดมากเหมือนแต่ก่อนให้กับเอเจนซี่อีกต่อไป บริษัทจะกลายเป็นผู้ให้บริการสื่อแบบครบวงจรโดยการรวมเข้ากับการวางแผนสื่อตั้งแต่ต้นน้ำที่มีกำลังการผลิตสื่อนอกบ้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเสริมความสามารถในการช่วยลูกค้าในการพัฒนาแผนการใช้เม็ดเงินโฆษณา ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการที่เป็นปลายทางของเม็ดเงินโฆษณา

เพิ่มทางเลือกและขนาดให้กับลูกค้า

ระฆังวิวาห์ที่ลั่นขึ้นครั้งนี้ทำให้ V-PLAN เป็นผู้เล่นที่ทรงอิทธิพลในพื้นที่สื่อนอกบ้านและเปิดโอกาสมากมายให้กับเจ้าของแบรนด์ ทั้งนี้ V-PLAN จะสามารถเสนอกลยุทธ์ที่ดีกว่าให้กับผู้ลงโฆษณาในการทำการตลาดสื่อนอกบ้าน สื่อดิจิตัลและ engagement marketing เนื่องจากทั้งสองบริษัทสร้างรูปแบบโฆษณาแบบ programmatics, เปิดโอกาสสำหรับนักการตลาดที่จะเข้าถึงผู้บริโภค และมีศักยภาพที่ชัดเจน ซึ่งทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้น และยิ่งกว่านั้นการรวมงบประมาณเพื่อซื้อสื่อดูเหมือนว่าจะคุ้มค่ากว่าการซื้อแยก เราคาดว่าทั้งสองบริษัทมีโอกาสจะดึงผู้เล่นที่เป็นบริษัทขนาดเล็กลงเข้ามาอยู่ในเครืออีก ในอนาคตบริษัทผู้ผลิตสื่อจะลดปริมาณลง แต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น

สื่อนอกบ้านกำลังเดินไปสู่การควบรวม

สื่อนอกบ้านดูเหมือนเป็นกลุ่มที่เดินหน้าสู่เทรนด์การควมรวมกิจการ ความร่วมมือกันระหว่าง VGI และ PLANB สามารถเพิ่มขนาดในธุรกิจสื่อที่ไม่ได้ถูกคุกคามจากเทรนด์ของ Mobile app และที่ผ่านมาเติบโตเร็วกว่าอุตสาหกรรมโฆษณาในวงกว้าง—Global (บริษัทสื่อวิทยุเชิงพาณิชย์) เดินหน้าซื้อสื่อนอกบ้านอย่าง Outdoor Plus และ Primesight อีกทั้ง Google เองก็มีแผนที่จะรุกเข้าตลาดสื่อนอกบ้านในเยอรมัน, อังกฤษและสหรัฐ ทั้งนี้สื่อยักษ์ใหญ่ทั่วโลกต่างสนใจจะขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมสื่อนอกบ้าน เราเชื่อว่าการรวมพลังกันของบริษัทสื่อนอกบ้านของไทยจะสร้างรายได้และแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว