ระยะสั้นอาจกระทบจากการปรับประมาณการเศรษฐกิจและ Brexit แต่ภาพใหญ่ยังคงบวก

ระยะสั้นอาจกระทบจากการปรับประมาณการเศรษฐกิจและ Brexit แต่ภาพใหญ่ยังคงบวก

เฟดคงดอกเบี้ย ปรับลด GDP เล็กน้อย โทนผ่อนคลายมากกว่าตลาดคาด

เฟดปรับลด GDP ปี 62 เป็น 2.1% (จาก 2.3%) และปี 63 เป็น 1.9% (จาก 2.0%) อย่างไรก็ตามมุมมองของเฟดผ่อนคลายกว่าที่ตลาดคาดมาก โดย ส่งสัญญาณถึงการไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกแล้วในปีนี้ (ขณะที่การประชุมคครั้งก่อนยังมีโอกาสปรับขึ้น 2 ครั้ง) อีกทั้งชะลอการปรับลดงบดุลจากระดับ 3 หมื่นล้านเหรียญ เหลือเพียง 1.5 หมื่นล้านเหรียญ แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจได้รับปัจจัยลบระยะสั้นจากการปรับลด GDP แต่โทนของการผ่อนคลายที่มากกว่าคาดเป็นบวกต่อค่าเงินตลาดเกิดใหม่ รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์

ผู้นำยุโรปประชุมตัดสินต่อเวลา Brexit วันนี้ เริ่มมีกระแสข่าวว่าผู้นำยุโรปอาจตัดสินใจไม่ขยายเวลา Brexit ให้อังกฤษ หากรัฐสภาอังกฤษไม่รับรองร่างการออกจากสหภาพยุโรปของนายหรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ นั่นคือบีบให้สภาอังกฤษ เลือกระหว่างร่างฉบับดังกล่าว กับ no-deal Brexit ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันและความเสี่ยงเกี่ยวกับเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรป โดยมีรายงานว่า “อาจจะ” มีประชุมผู้นำยุโรปอีกครั้ง 28 มี.ค.ก่อนหน้ากำหนดการออกจากยุโรป เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวขั้นสุดท้าย สถานการณ์เฉพาะหน้ามีโอกาสเป็นลบ แต่ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจยุโรป จะส่งผลดีต่อเงินทุนไหลเข้าเอเชียและตลาดเกิดใหม่ที่มีการเติบโตสูงกว่า และมีความเสี่ยงต่ำกว่า

แกว่งตัว แนวต้าน 1,635 ถ้าผ่านอาจยกกรอบขึ้นไป 1640-1670 จุด เรายังคงมุมมองภาพการลงทุนโดยรวมมีโอกาสดีขึ้นช่วงปลายเดือน หุ้นขนาดกลางที่มีการถือครองน้อยมีโอกาสถูกเก็งกำไรโดดเด่น นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นใหญ่เมื่ออ่อนตัวโดยเรายังชอบหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น ปิโตรฯ ที่ราคาสะท้อนผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อาทิ PTT, PTTEP, TOP, BCP, PTTGC, SCC รวมถึง หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ CPF, TU, CPALL, AOT, ERW, MINT,STEC, GPSC, EGCO, BTS, BEM / กลุ่มร.พ. เราชอบ RJH, BCH

ภาพรวมกลยุทธ์: ทยอยสะสมรายตัว หรือเก็งกำไรพลังงานซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องเลือกตั้ง // หุ้นแนะนำวันนี้ PTT, TOP, SQ* (เป้า 2.70 ตัดขาดทุน 2.24), GUNKUL* (เป้า 3.50 ตัดขาดทุน 3.00)

แนวรับ 1617 / แนวต้าน : 1635-1645 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

FED คงดอกเบี้ย พร้อมลดคาดการณ์ Dot Plot – ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.25-2.50% ตามคาด พร้อมปรับลด Dot Plot การขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ลง ส่งผลให้ปี 62 คาดว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากคาดการณ์เดิมที่คาดว่าจะขึ้น 2 ครั้ง

กนง.คงดอกเบี้ย 1.75% – กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ 7:0 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.75% เพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสอดคล้องกับเงินเฟ้อในปัจจุบัน พร้อมปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP ไทยปี 62 ลงสู่ระดับ 3.8% (จากเดิมที่ 4%) จากผลของยอดส่งออกที่ชะลอตัวลง

ค้านผูกขาดดิวตี้ฟรี – สมาคมฯค้าปลีก เดินหน้าคัดค้าน AOT กรณีเปิดประมูลดิวตี้ฟรีและยืนยันให้ล้มการประมูลดังกล่าว เนื่องจากเป็นการประมูลหาผู้ประกอบการเพียงรายเดียวซึ่งถือเป็นการผูกขาด พร้อมเสนอให้แยก TOR สิทธิบริหารออกเป็น 3 ฉบับ

สงครามการค้าฉุดธุรกิจเอเชียเชื่อมั่นต่ำสุด3ปี - ผลสำรวจความเห็น ภาคธุรกิจของธอมสัน รอยเตอร์/อินซีด บ่งชี้ บริษัทในเอเชียมีความเชื่อมั่นลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ3ปี

หุ้นที่มีการถือครองต่ำ – สามารถเลือกเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน MCOT, SAWAD, JMART, SAMART, SINGER, NER, III, PRM, JMT, DCC, SQ, STPI

ประเด็นติดตาม: 21 มี.ค. – ผู้นำยุโรปลงมติขยายเวลา Brexit ให้อังกฤษ, 24 มี.ค. – เลือกตั้ง, 28 มี.ค. – รายงาน GDP ไตรมาส 4/61 ของสหรัฐฯ, 29 มี.ค. – ตัวเลขการค้าไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)