รีบาวด์ต่อเนื่อง

รีบาวด์ต่อเนื่อง

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นแรง ท่ามกลางความผันผวนจากต่างประเทศในประเด็น Brexit

อย่างไรก็ตาม ตลาดภายในประเทศปรับตัวขึ้น จากการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยของ FTSE ที่จะมีผลบังคับใช้ 15 มี.ค.นี้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวขึ้นยังช่วยสนับสนุนหุ้นกลุ่ม ENERG ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,639.67 จุด (+12.08 จุด) Volume 4.5 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  +290.25 ลบ. TFEX Net +4,708 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ +645 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดบวก 148.23 จุด รับข้อมูลศก.สดใส,รัฐสภาอังกฤษไม่เห็นชอบ Brexit ไร้ข้อตกลง

+น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.39 ขานรับสต็อกน้ำมันดิบร่วงสวนทางคาดการณ์

+สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองเพิ่มขึ้น 2.3% เหตุดอกเบี้ยเงินกู้ปรับตัวลง ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 0.1% น้อยกว่าคาดในเดือนก.พ. และการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างพุ่ง 1.3% เกินคาดในเดือนม.ค.

+ยูโรสแตทเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซนเพิ่มขึ้น 1.4% เกินคาดในเดือนม.ค.

-บอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 28 เดือน

-พาณิชย์ เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ ก.พ. ลดลง 10% MoM แต่เพิ่มขึ้น 3% YoY, 2 เดือนโต 4%

+/-รัฐสภาอังกฤษมีมติ 321 ต่อ 278 ไม่เห็นชอบกรณี Brexit ไร้ข้อตกลง

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย  YTD 6.6 พันล้านบาท ค่าเงินบาท 31.59 บาท/US

**จับตาอังกฤษโหวตขอขยายเวลาการออกจาก EU จากวันที่ 29 มี.ค.

คาดดัชนี SET วันนี้มีโอกาสรีบาวด์ต่อเนื่องจากวานนี้ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศและและราคาน้ำมันที่ปิดพุ่งขึ้น   แม้ยังมีความไม่แน่นอนของ BREXIT    คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มรพ.
  • FTSE Large Cap : HMPRO GULF EA MINT MAKRO BEM DIF
  • FTSE Mid Cap : MTC GPSC

        * HMPRO MTC มีผลตอบแทน YTD น้อยกว่าดัชนี

  • หุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง : VGI PLANB MACO CPALL MAKRO BJC TKS
  • ขยายเวลา Visa On Arrival :  AOT  CENTEL ERW

หุ้นแนะนำพิเศษ

HMPRO (ราคาปิด 15.40 Bloomberg Consensus 16.64)

HMPRO ติดรายชื่อหุ้นเข้าคำนวณดัชนี FTSE Large Cap มีผล 15 มี.ค. โดยราคาหุ้นมีผลตอบแทน YTD น้อยกว่าดัชนี SET

          ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวที่มีศักยภาพในการเติบโตของรายได้และกำไรต่อเนื่องตามการเปิดสาขา และกลยุทธ์ในการเปิดสาขาขนาดเล็กที่ช่วยให้เข้าถึงชุมชนได้ดี ปลายปี 61 มีทั้งสิ้น 109 สาขา (เปิดเพิ่ม 7 สาขาจากปี 60) แบ่งเป็น 1) HomePro 82 สาขา 2) HomePro(S) 9 สาขา 3) HomePro-Malaysia 6 สาขา และ 4) MegaHome 12 สาขา

ปี 61 มียอดขาย  6.16 หมื่นล้านบาท คิดเป็น CAGR เฉลี่ย 5 ปี เท่ากับ 5.12% กำไรสุทธิ 5.6 พันล้านบาท + 15% จากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมและสาขาใหม่  แม้ว่ายอดขายสาขาเดิมไม่เป็นไปตามเป้า และใน 4Q61 ไม่มีมาตรการช้อปช่วยชาติเหมือนปีก่อนหน้า %GP เพิ่มขึ้นเป็น 27.5% จาก 26.5% ในปี 60 จาก product mix ที่มี % สินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทเองเพิ่มขึ้นเป็น 19.6% จาก 19.1% ในปี 60  บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.20 บาท คิดเป็น yield 1.3% XD 19 เม.ย. วันจ่าย 8 พ.ค.

          ปี 62 บริษัทมีแผนเปิดสาขาโฮมโปร 2-3 แห่ง  โฮมโปร S 3-4 แห่ง เมกาโฮม 2 แห่ง โดยยังไม่มีแผนเปิดสาขาเพิ่มในมาเลเซียเนื่องจากมีการแข่งขันที่รุนแรง ยอดขายปีนี้มีศักยภาพเติบโตจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับดีขึ้นเป็นครั้งแรกในเดือนม.ค.หลังจากที่ก่อนหน้านั้นดัชนีปรับลดลงติดต่อกัน 4 เดือน ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 6.4 พันล้านบาท +14%

หุ้นมีข่าว   

  • + BIZ ลุ้นประมูลงานใหม่เพิ่มมูลค่ารวม 500-600 ลบ. คาดรู้ผล Q2/62 , เปิดรพ.ชลบุรี Q4/62 หนุนผลงานปี 63 พุ่ง (ที่มา IQ)
  • + SQ ชนะประกวดราคางาน Hongsa Power จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 2.3 พันลบ.(ที่มา IQ)
  • +นักลงทุนต่างชาติ-กองทุนไล่เก็บหุ้นใหญ่ 7 ตัว เข้าคำนวณดัชนี FTSE ALL WORLD ASIA-PACIFIC เชื่อวันนี้ซื้อต่อเนื่องถึงพรุ่งนี้ เป้าหมาย DIF, MAKRO, MTC, GPSC, CPN, CPF, GULF รับเม็ดเงินลงทุน 5 พันล้านบาท คิวต่อไป 29 มี.ค.จับตา MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย จาก 2.5% เป็น 3.0% (ที่มาข่าวหุ้น)
  • PACE เผยบ.ย่อยขายหุ้น 50% ในบริษัทร่วมทุน"ดีน แอนด์ เดลูก้า คาเฟ่ เจแปน" มูลค่าราว 311 ลบ. (ที่มา : IQ)
  • +SUPER เผยก.ล.ต.อนุมัติตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน รอลุ้นโรงไฟฟ้าได้ใบอนุญาตใหม่ครบในเม.ย. ก่อนขายหน่วยลงทุน(ที่มา : IQ)
  • +MVP มั่นใจปีนี้พลิกกลับเป็นกำไรหลังหมดภาระตั้งสำรอง-ลุยจัดงานต่อเนื่องตลอดปี,เดินหน้าร่วมทุนพันธมิตรขยายงาน(ที่มา : IQ)
  • +BGRIM (ราคาปิด 29.75 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 42) ซื้อ SPP1 จาก GLOW สำเร็จแล้ว เตรียมรับรู้รายได้ 124 เมกะวัตต์ เมษายนนี้ หนุนผลงานโตทันที ด้านโรงไฟฟ้าเกาหลี 100 เมกะวัตต์ คืบตั้งบริษัทย่อยแล้ว ปีนี้มั่นใจรายได้แตะ 4.2 หมื่นล้านบาท COD ไฟฟ้าเพิ่มอีก 697 เมกะวัตต์ มั่นใจมีกำลังการผลิตไฟฟ้าแตะ 5 พันเมกะวัตต์ เร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้ในปี 2565 (ที่มา : ทันหุ้น)
  • +BJC (ราคาปิด 51.00 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 50) ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2562 เติบโต 7-9% ทุกกลุ่มธุรกิจ ปั๊มอัตรากำไรขั้นต้น 19.2% พร้อมวางลงทุนปีนี้ 10,000 ล้านบาท เดินเกมใช้ลงทุนขยาย Big C รวม 7,000-8,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนำไปปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เตรียมออกหุ้นกู้ เดือนมีนาคม มูลค่า 16,000 ล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)
  • +BTS (ราคาปิด 10.80 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 37) สบช่องรัฐบาลเปิดประมูลแบบ PPP วางเกมใหญ่ให้กิจการร่วมการค้า BSR รุกประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานพรึบ ทั้งทางด่วนดาวคะนอง-พระราม 3, ระบบ O&M มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี พร้อมเปิดโมเดลธุรกิจรถสมาร์ทบัสประจำทางครอบคลุมทั่วประเทศ เร่งขยายฐานแรบบิทลุยอีเพย์เมนต์ (ที่มา : ทันหุ้น)
  • +KTC(ราคาปิด 31.25 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 77) ใส่เกียร์ลุยอีคอมเมิร์ซเต็มสูบ หวังดันยอดออนไลน์กระฉูด 45% ส่วนปี 2562 วางเป้ายอดรูดรวมไว้ราว 2.2 แสนล้านบาท รับพอร์ตลูกค้าโตต่อเนื่อง แถมเดินเกมเจาะคนเงินเดือนขั้นต่ำ 3 หมื่นบาท หนุนบัตรใหม่เพิ่ม 2.8 แสนใบ(ที่มา : ทันหุ้น)
  • +TMILL รุกขยายฐานลูกค้า SME ภาคเหนือ-อีสานต่อเนื่อง ตุนออเดอร์ล่วงหน้ากว่า 50% ควักงบลงทุน 10 ล้านบาทติดตั้งหุ่นยนต์เฟส 2 หวังลดต้นทุน-เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (ที่มา : ทันหุ้น)
  • +BRR อานิสงส์ราคาน้ำตาลฟื้น ดีมานด์พุ่ง หนุนยอดหีบปีนี้แตะระดับ 2.8-2.9 ล้านตัน พร้อมทุ่มงบ 700 ล้านบาท ปั้นน้ำตาลรีไฟล์ บรรจุภัณฑ์ชานอ้อยเสริมทรัพย์แกร่ง (ที่มา : ทันหุ้น)
  • +STPI แจ้งเซ็นสัญญาก่อสร้างรางสลับทางของรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Switch Beam Fabrication) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง มูลค่า 325 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาตามสัญญาภายในไตรมาส 3/2563 (ที่มา : ทันหุ้น)
  • BBL (ราคาปิด 210 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 70) วางเป้าหมายสินเชื่อรวมปีนี้โต 4-6% ชี้ผลงานรัฐบาลที่ผ่านมา หนุนเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 4% ส่งผลให้อุตสาหกรรมแบงก์ปีนี้เติบโต 4-6% ส่วนมาตรฐานบัญชี IFRS 9 ไม่กระทบกลุ่มแบงก์ เหตุได้รับสัญญาณจากแบงก์ชาติมานานทำให้รับมือได้ดี (ที่มา : ข่าวหุ้น)