‘เบอร์เกอร์คิง’ รุกเปิดสาขาบุกเมืองท่องเที่ยว

‘เบอร์เกอร์คิง’ รุกเปิดสาขาบุกเมืองท่องเที่ยว

เบอร์เกอร์คิง เทงบ 200-300 ล้านบาท ลุยสยายปีกมุ่งเจาะแหล่งท่องเที่ยว รับดีมานด์พุ่ง พร้อมเร่งพัฒนาสินค้าใหม่ลงตลาดเพิ่มทางเลือก  หวังกู้ยอด 2 เดือนแรกชะลอตัว

นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (ฟาสต์ฟู้ด) ภายใต้แบรนด์ “เบอร์เกอร์คิง” กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี 2562 ว่า วาง 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย เร่งขยายเครือข่ายสาขาอย่างต่อเนื่อง พัฒนาเมนูใหม่ๆ เป็นทางเลือกมากขึ้น และการขยายฐานตลาดบริการส่งตรงถึงบ้าน หรือ ดีลิเวอรี่ รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ การเปิดสาขาใหม่จะมุ่งขยายเข้าสู่ทำเลแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้นรองรับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รู้จักแบรนด์เบอร์เกอร์คิงเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยมองทำเล อาทิ ภูเก็ต กะบี่ เกาะพีพี ซึ่งเป็นครั้งแรกในการเปิดให้บริการบนพื้นที่เกาะ โดยเป้าหมายขยายสาขาใหม่ทั้งหมด 16 แห่งในปีนี้ จะเป็นสาขาที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวราว 8 แห่ง ทั้งนี้แต่ละสาขาลงทุนเฉลี่ย 10-20 ล้านบาท มีทั้งรูปแบบร้านให้บริการในศูนย์การค้า สแตนอะโลน และไดร์ฟทรู 

แต่ละปีเบอร์เกอร์คิง ขยายสาขาเฉลี่ย 15 แห่ง โดยปีที่ผ่านมาสามารถเปิดบริการตามเป้าหมายดังกล่าว พร้อมปิดสาขาเก่า 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และอาคารออลล์ซีซัน เนื่องจากหมดสัญญาเช่า ส่งผลให้ปัจจุบันเบอร์เกอร์คิงมีสาขาให้บริการรวม 103 สาขาทั่วประเทศ

“นอกจากเร่งขยายสาขา ในปีนี้เบอร์เกอร์ คิง มีแผนพัฒนาเมนูใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น ควบคู่การทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นยอดขายเติบโตตามเป้าหมาย หลังจาก 2 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ.)  ยอดขายค่อนข้างชะลอตัวส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนออกจากบ้านน้อยลง เนื่องจากปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ”

อย่างไรก็ดี แม้ยอดขายผ่านหน้าร้อนจะค่อนข้างชะลอตัว แต่พบว่ายอดขายในช่องทางส่งตรงถึงบ้าน หรือดีลิเวอรี่ ขยายตัวสูงถึง 30%  จากพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่นิยม “ความสะดวก” ดังนั้นการขยายฐานลูกค้าและการขยายตลาดของเบอร์เกอร์คิงจากนี้จะให้ความสำคัญกับช่องทางขายดีลิเวอรี่มากขึ้น ล่าสุดได้เข้าร่วมเป็น1ใน7แบรนด์ที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น “1112Delivery” สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้พร้อมกันทั้ง 7 แบรนด์ในเครือไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ได้ภายใต้เบอร์เดียว เพิ่มความสะดวกและทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น ซึ่งหลังจากทดลองให้บริการตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ลูกค้ามีการตอบรับที่ดี

นายประพัฒน์ กล่าต่อว่า การเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องจะผลักดันยอดขายปีนี้เติบโตสูงกว่าปี 2561 ที่เติบโตในระดับ 20% ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 30% เป็นผลจากกำลังซื้อ เศรษฐกิจ และนักท่องเที่ยวที่หดตัวลง ซึ่งขณะนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องกลับสู่ภาวะปกติ