ตร.แจ้ง 6 ข้อหา แก๊งถล่มสนามสอบโรงเรียนวัดสิงห์

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ก.พ.2562 พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รองผกก.สส.สน.บางขุนเทียน ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจ และทหาร สังกัด พล.ร.9 รวม 30 นาย ควบคุมตัว นายวัลลภ นุชแฟง หรือ “เอกไฝ” อายุ 32 ปี หัวโจกคดีบุกถล่มสนามสอบโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ และทำร้ายร่างกายคณะครูอาจารย์ นักเรียน และ รปภ. จนได้รับบาดเจ็บ พร้อมพวกที่ร่วมก่อเหตุ รวม 16 คน เข้าตรวจค้นบ้านพักทำการตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย โดยแบ่งกำลังปฏิบัติงานออกเป็น 3 ชุด ท่ามกลางการอารักขาอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ฯ เพื่อป้องกันเหตุชาวบ้านรวมตัวประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา

 

สำหรับบ้านพักของ นายวัลลภ หรือ “เอกไฝ” ซึ่งถูกบุกเข้าตรวจค้นเป็นจุดแรกเลขที่ 19 หมู่ 8 ซอยกำนันแม้น 13 แยก 12 เขตบางบอน กรุงเทพฯ มีลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ปลูกในรั้วรอบขอบชิด ชั้นล่างตั้งเป็นคณะกระตั้วศิษย์หลวงพ่อขาว โดย นายวัลลภ ได้นำพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นด้วยตนเอง ซึ่งจุดนี้ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด เบื้องต้น นายวัลลภ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวผ่านไปถึงประชาชนสั้นๆ ว่า ตนอยากขอโทษทุกคนในสังคม เหตุการณ์ครั้งนี้ ตนยอมรับผิดทุกอย่าง ที่ทำลงไปเป็นเพราะความเมา จริงๆ ต้องการแค่เข้าไปในโรงเรียน เพื่อพบผู้อำนวยการทำการเจรจาเท่านั้น

 

ขณะที่บ้านพักของผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุอีก 15 คน กระจัดกระจายอยู่ตามห้องเช่า อพาร์ทเมนท์ และหอพัก ภายในซอยกำนันแม้น 13 แยก 12 ซอยกำนันแม้น 13 แยก 14 ซอยกำนันแม้น 7 ซอยกำนันแม้น 11 ซอยกำนันแม้น 32 ซอยเอกชัย 30 ซอยเอกชัย 46 และ ซอยเอกชัย 49 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ทยอยควบคุมตัวแยกย้ายไปตามที่พักจุดต่างๆ รวม 16 จุด เพื่อตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายนำมาประกอบสำนวนคดีต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาจนถึงช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งการนำตัวผู้ต้องหาเข้าตรวจค้นที่พักทุกจุดจะมีการคุมตัวขึ้นรถตู้ ท่ามกลางการอารักขาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารอย่างแน่นหนา ป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น

 

พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รองผกก.สส.สน.บางขุนเทียน เปิดเผยว่า คดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตำรวจ สน.บางขุนเทียน สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.9 ดำเนินการเข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหา 16 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 24 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จากการปฏิบัติภาระกิจในครั้งนี้ ยังไม่พบว่ามีสิ่งกฎหมายซุกซ่อนอยู่ในที่พักของผู้ต้องหาทั้ง 16 รายแต่อย่างใด หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม คาดว่าจะมีเพิ่มอีก 3 คน ส่วนคดีซ่องโจรกับคดีคุกคามทางสิทธิเสรีภาพ ตอนนี้ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

 

สำหรับคดีอนาจารนั้น เมื่อวานนี้ผู้เสียหายที่เป็นเยาวชน ได้เดินทางเข้าให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว คาดว่าจะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มได้ทันที เนื่องจากผู้ก่อเหตุหอมแก้มผู้เสียหาย ก็อยู่ในกลุ่ม 24 คน ที่เราจับกุมมาได้ก่อนหน้านี้ โดยขณะนี้กำลังตรวจสอบความชัดเจน โดยจะให้ผู้เสียหายชี้ตัวอีกครั้ง

ส่วนความคืบหน้าด้านการดำเนินการกับผู้ต้องหาทั้ง 24 คนนั้น วันนี้ผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 20 คน จะถูกส่งตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี ส่วนเยาวชน 4 คน จะนำตัวส่งฝากขังที่ศาลเยาวชนตามวิธีการปฏิบัติ สำหรับประเด็นที่โลกโซเชียล มีการระบุว่า มีผู้ต้องหาพกพาปืนเข้าไปก่อเหตุในโรงเรียนด้วยนั้น เบื้องต้นจากการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ขณะนี้ยังไม่พบแต่อย่างใด และผลการตรวจสอบปัสสาวะผู้ต้องหาทั้ง 24 ราย ก็ไม่พบสารเสพติด ข้อมูลประวัติผู้ต้องหาเหล่านี้ไม่เคยมีหมายจับคดีอุกฉกรรจ์และคดีทะเลาะวิวาทติดตัว มีบางรายเคยต้องโทษเสพยาเสพติด แต่คดีเสร็จสิ้นแล้ว

  

ทางด้าน พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน เปิดเผยว่า สำหรับข้อหาที่ผู้ต้องหาทั้ง 24 ราย จะถูกพนักงานสอบสวนแจ้งความทั้งหมด ก่อนคุมตัวส่งศาลขณะนี้ มีทั้งหมด 6 ข้อหาหนัก คือ 1.ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี 2.ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี 3.ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี 4.ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตราย ต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5.มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดการวุ่นวายในบ้านเมือง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

6.บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลในวัด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของผู้ต้องหาที่ถูกผู้เสียหายชี้ตัวในคดีลวนลามจะถูกแจ้งข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใด หรือใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ต่อไป

  

มีรายงานว่าระหว่างที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาชุดแรกรวม 8 คน รวมถึง นายวัลลภ นุชแฟง หรือ “เอกไฝ” อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นหัวโจก ไปนำค้นยังบ้านพัก ปรากฏว่า นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ “เสี่ยโป้” อายุ 27 ปี ได้เดินทางมาที่ สน.บางขุนเทียน พร้อมพวกกว่า 100 คน ทำให้ พ.ต.ท.รัตน์เกล้า อาณานุการ รอง ผกก.ป.สน.บางขุนเทียน ต้องเข้าไปเจรจาให้เสี่ยโป้ นำพรรคพวกออกนอกพื้นที่ ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ต้องการเดินทางมาดูหน้าตาผู้ต้องหากลุ่มนี้ เนื่องจากรู้สึกไม่พอใจที่ชอบโพสต์ข้อความในลักษณะยิ้มแย้มแจ่มใส ท้าทายต่อยตีกับชาวบ้านในโลกโซเชียลไปทั่ว จากนั้น เสี่ยโป้ก็ได้นำกำลังออกจากพื้นที่โรงพักไป