รองหัวหน้าพรรคพปชร. พร้อมคณะ นำทีมลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัครทั้ง 3 เขตในจังหวัดตรัง เตรียมขึ้นเวทีปราศรัยชู "พล.อ.ประยุทธ์" เป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน มั่นใจกวาด 3 ที่นั่ง
(23ก.พ.62) ที่ตลาดทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำพรรค และนายทวี สุระบาล ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์การเลือกตั้งฝั่งอันดามัน พรรคพลังประชารัฐ นำทีมลงพื้นที่เขตเลือกตั้งที่3ช่วยนายดิษฐ์ธนิน ภาคย์อิชณน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่3หมายเลข9ของพรรคหาเสียง ทั้งการแวะพบปะกับประชาชนที่ร้านน้ำชา กาแฟ การแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตลาดทุ่งยาว อ.ปะเหลียน การร่วมพิธีงานบำเพ็ญศพของญาติหัวคะแนนในพื้นที่ และการพบปะแนะนำตัวกับประชาชนที่มาร่วมงานนับร้อยคน และการลงพื้นที่พบปะกับผู้นำศาสนาอิสลาม และพี่น้องมุสลิมภายในงานการกุศลของมัสยิดฉ่ำสุดดีน หมู่1ต.ปะเหลียน จ.ตรัง ทั้งนี้ นอกจากการแจกบัตรแนะนำตัว และขอคะแนนเสียงจากประชาชนที่มาร่วมงานแล้ว ยังร่วมปรุงอาหาร และทอดโรตีภายในงานพร้อมแนะนำนโยบายพรรคในการช่วยเหลือประชาชนของพรรคให้ประชาชนได้รับทราบ ทั้งนี้ ได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วคนตรังและภาคใต้จะต้องเปลี่ยนแปลง เพราะตรังมีศักยภาพในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจการเกษตร การท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางการศึกษาฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะการตั้งมหาวิทยาลัยอันดามันให้เกิดขึ้น โดยพรรคพลังประชารัฐซึ่งชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย ทั้งผลงานในระยะเวลาที่ผ่านมาที่ทำให้กับคนตรัง และมีคนรุ่นใหม่ที่อาสาเข้ามาทำงานเป็นผู้สมัครทั้ง3เขตล้วนเป็นคนคุณภาพ มั่นใจว่าในจังหวัดตรังพรรคพลังประชารัฐจะสามารถกวาดได้ทั้ง3ที่นั่ง ด้วยเหตุผลกระแสเปลี่ยนของคนตรัง และคนภาคใต้ที่พบว่าพรรคเก่าที่ยึดครองพื้นที่มายาวนานกว่า26ปี ไม่ได้ทำประโยชน์ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่พรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคของรัฐบาลที่ตลอดระยะภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีได้สร้างผลงานเพื่อจังหวัดตรัง เช่น การพัฒนาสนามบิน การพัฒนาขุดคลองระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วม การประกาศนโยบายแก้ปัญหา ยางพาราและปาล์มน้ำมัน และผลักดันให้จังหวัดตรังเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาฝั่งอันดามัน โดยพรรคพลังประชารัฐมองว่าภาคใต้เป็นยุทธศาสตร์การเชื่อมโยงอาเซียนเข้าด้วยกัน ทั้งอาเซียนส่วนเหนือซึ่งเป็นชาวพุทธ กับอาเซียนส่วนใต้ซึ่งเป็นพี่น้องมุสลิมจะต้องผ่านการเชื่อมโยงภายใต้นโยบายด้ามขวานยุค4.0 จังหวัดตรังและภาคใต้ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนเลือกคนรุ่นใหม่ พรรคใหม่คือ พลังประชารัฐ
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่ากระแสต้องการเปลี่ยนผู้แทนในพื้นที่ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐจะกลายเป็นพรรคทางเลือกในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า กระแสเปลี่ยนตัวผู้แทนของชาวภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐจะไม่เป็นทางเลือก แต่จะเป็นทางหลักในการเปลี่ยนแปลงจังหวัดตรัง และเปลี่ยนแปลงภาคใต้ เชื่อว่าชาวใต้จะเทคะแนนให้พรรคพลังประชารัฐแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถ้าผู้สมัครทั้ง3เขต ของจังหวัดตรัง เอาชนะพรรคเก่าไม่ได้ แต่ทำคะแนนให้พรรคพลังประชารัฐท่วมท้น ผู้สมัครเหล่านี้จะไปอยู่ตรงส่วนไหนของพรรค นายสุวิทย์ กล่าวว่า ผู้สมัครตรังทั้ง3เขต มีศักยภาพ และพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายชูคนหนุ่มสาวเข้ามาทำงาน ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาท ส.ส.หรือบทบาทที่จะมาช่วยผลักดันนโยบายพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนกลางในการจัดตั้งรัฐบาลจะมีงานให้ทำอีกมากมาย
ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค จะลงมาช่วยหาเสียงหรือไม่ ขณะนี้กำลังหารือข้อกฎหมายอยู่กับ กกต. ส่วนกระแสที่กล่าวหาว่าพรรคพลังประชารัฐหาเสียงไปก็แค่นั้น แต่จ้องจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะมีเสียง ส.ว.อยู่ในมือแล้ว นายสุวิทย์ กล่าวว่า พรรคก็เคารพกติกาและอย่าลืม ส.ว.ทุกท่านก็มีความคิดความอ่านของเขา เราคิดแค่ว่าเราจะทำอย่างไรให้คะแนนเลือกตั้งเป็นอันดับ1เพื่อจะจัดตั้งรัฐบาลมีหน้าที่อยู่แค่นี้ ส่วนที่กล่าวหาอย่างนั้น เป็นแค่วาทกรรมทางการเมืองเท่านั้น ที่จะมากล่าวหาพรรคนู้นพรรคนี้ชิงความได้เปรียบมากกว่า