LIT - ซื้อ

LIT - ซื้อ

คาดกำไรปี 62 เติบโตต่อเนื่องราว 16%

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • กำไรสุทธิปี 61 เติบโต 2% ตามคาด และยังเป็นสถิติ All Time High : ผลการดำเนินงานปี 61 มีรายได้รวม 419 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%YoY และมีกำไรสุทธิ 149 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2%YoY และยังเป็นสถิติ All Time High เป็นปีที่ 11 และเป็นไปตามคาดการณ์ของฝ่ายวิจัยโดยมีพอร์ตลูกหนี้สินเชื่อ 2,548 ล้านบาท ในปี 61 ยอดปล่อยสินเชื่อ 10,980 ล้านบาท เติบโต 7% ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังแผ่วลงจากการจัดโครงสร้างรายได้ในการชะลอการปล่อยสินเชื่อในภาคก่อสร้างเหลือไม่เกิน 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายสำรองค่าเผื่อหนี้สูญปลายปี 61 คิดเป็น 6.24% ของยอดลูกหนี้คงเหลือซึ่งสูงกว่าระดับ 4.92% ณ ปลายปี 60 เพื่อรองรับการบังคับใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9 ที่จะเริ่มบังคับใช้ 1 ม.ค. 63 บริษัทประกาศจ่ายเงินสดปันผลหุ้นละ 0.33 บาท Yield 2% XD 5 มี.ค. วันจ่าย 3 พ.ค.
  • ปี 62 มีแผนยอดปล่อยสินเชื่อเติบโต 20% : ปี 62 ผู้บริหารตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโต 20% โดยเน้นกลุ่มสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) บริการรับซื้อหนี้การค้า (Factoring) และสินเชื่อเพื่อออกหนังสือค้ำประกันซองประมูล (Bid Bond) ให้กับผู้ประกอบการ SME ให้มีแหล่งเงินทุนหมุนเวียน และบริษัทยังเดินหน้าพัฒนาการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing) รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้อนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
  • คงประมาณการกำไรสุทธิปี 62 ซึ่งเติบโต 16%: ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการรายได้รวมและกำไรสุทธิสำหรับปี 62 ใกล้เคียงกับประมาณการเดิมที่ราว 435 ล้านบาทและ 175 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 20% และ 16% ตามลำดับ โดยได้ปรับคาดการณ์ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น 66% เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น แต่ได้ชดเชยจากคาดการณ์ค่าใช้จ่ายที่ลดลง 27% ทำให้ประมาณกำไรยังใกล้เคียงกับประมาณการเดิม
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 10.40 บาท : ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของบริษัทตามการทยอยเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการSME ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน  ในการประเมินราคาเหมาะสมซึ่งอิง Prospect PE ที่ปรับลดเหลือ 16 เท่าจากเดิม 17 เท่าได้ราคาเหมาะสมใหม่เท่ากับ 10.40 บาท(เดิม 11 บาท) ซึ่งยังมี upside จากราคาปิดล่าสุด  จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง : 1. ยอดปล่อยสินเชื่อชะลอตัว 2. ต้นทุนการเงินสูงขึ้น 3. NPL สูงขึ้น