เอไอ-แมชีนเลิร์นนิง พลิกโฉมวงการสาธารณสุข

เอไอ-แมชีนเลิร์นนิง พลิกโฉมวงการสาธารณสุข

องค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จคือข้อมูลที่มีคุณภาพ

ทุกวันนี้ “ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)” และ “แมชีนเลิร์นนิง (เอ็มแอล)” เป็นเทคโนโลยีที่นอกจากมีการพูดถึงอย่างกว้างขวางแล้ว งานวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของคอมพิวเตอร์ในการคาดการณ์ถึงผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ สามารถนำมาใช้เป็นตัวช่วยของแพทย์ในงานหลากหลายแขนง

เช่นปีที่ผ่านมา องค์การอาหารและยาในสหรัฐอนุมัติการวินิจฉัยด้วยเอไอเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการทดสอบโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตาที่ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ โดยที่ไม่ต้องทำการทดสอบซ้ำโดยมนุษย์

อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น วงการสาธารณสุข (healthcare) จัดว่ามีความพร้อมที่จะนำเอไอและเอ็มแอลมาใช้ เพราะมีแหล่งข้อมูลจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านสุขภาพในระบบอิเล็กทรอนิกส์ การหาลำดับพันธุกรรม (genome sequences) อุปกรณ์โมบายล์ เซ็นเซอร์ที่ฝังอยู่ในระบบต่างๆ กระทั่งข้อมูลการจ่ายเงินของผู้ป่วย

‘ข้อมูล’ ตัวแปรความสำเร็จ

ปัจจุบัน โซลูชั่นที่เกี่ยวข้องกับสองเทคโนโลยีดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้ในองค์กรธุรกิจหลายพันแห่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ด้านการดูแลสุขภาพ ในการวางรากฐานรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโซลูชั่นเอไอและเอ็มแอลต้องอาศัยองค์ประกอบที่สำคัญนั่นคือ “ข้อมูล” 

เพราะข้อมูลเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับหน่วยงานด้านสาธารณสุข ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับปรุงผลลัพธ์ และยกระดับเรื่องของคุณภาพชีวิตสำหรับทั้งผู้ป่วยและสถานบริการให้ดีขึ้น

การรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์มักจะถูกมองข้าม เพราะมีความเร่งด่วนในการรักษาผู้ป่วยและการพัฒนาวิธีการรักษาแบบใหม่ๆ ซึ่งเครื่องมือใหม่ๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถนำเอาเทคโนโลยีเอ็มแอลและความสามารถอื่นๆ มาผนวกเข้าไปใช้ในขั้นตอนการพัฒนาและการให้การรักษาที่ทำเป็นประจำได้อย่างง่ายดาย ไม่ใช่แค่บริษัทเทคโนโลยีและนักวิจัยเท่านั้นที่จะเข้าถึงเอไอและเอ็มแอลแต่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

เมื่อมีกรณีการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้มากขึ้น ความสำเร็จขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่สำคัญนั่นคือข้อมูลปริมาณมากที่เป็นข้อมูลคุณภาพดี คือได้รับการคัดกรองและจัดเป็นระเบียบ ซึ่งอาจจะเป็นความท้าทายสำหรับวงการสาธารณสุข ที่มีข้อมูลค่อนข้างซับซ้อนและมักจะเป็นข้อมูลที่กระจัดกระจาย ขณะเดียวกันเป็นข้อมูลหลายรูปแบบ 

ดังนั้นชุดข้อมูลที่มีคุณภาพดีและเป็นระเบียบจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่เฉพาะสำหรับใช้ในระบบ แต่มีความสำคัญมากยิ่งไปกว่านั้น เพราะต้องป้อนข้อมูลเหล่านี้ให้กับโมเดลที่ใช้ฝึกการเรียนรู้ให้เอไอและเอ็มแอลด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องมีการปรับระบบอื่นๆ ให้มีการทำงานได้อย่างเหมาะสมสำหรับการทำงานของเอไอ ซึ่งเป็นงานที่ต้องอาศัยการประมวลผลอย่างหนัก พร้อมกับต้องมีการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้น รวมถึงส่วนประกอบต่างๆ ยังต้องมีการทำงานที่สอดคล้องตามมาตรฐานอุตสาหกรรม กฏระเบียบต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยและการรักษาความเป็นส่วนตัวของคนไข้และข้อมูลส่วนตัวสำคัญอื่นๆ แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ข้อมูลเป็นตัวแปรที่ทำให้การใช้เอไอนั้นประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว

'คลาวด์'หนุนนวัตกรรม

อีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นที่จัดเก็บข้อมูล สร้างความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และความสามารถด้านการวิเคราะห์ที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน พร้อมทั้งช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรม ก็คือ “คลาวด์”

แพลตฟอร์มการประมวลผลบนคลาวด์จะช่วยทำให้การย่อยข้อมูลพร้อมทั้งนำมาประมวลผลทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่มีระเบียบหรือกระจัดกระจาย ไม่มีแบบแผน หรือข้อมูลที่มีการรับส่งไปมาก็ตาม คลาวด์จะช่วยทำให้กระบวนการสร้าง ฝึกฝน และใช้งานโมเดลแมชีนเลิร์นนิงเป็นไปได้อย่างราบรื่น

องค์กรในวงการสาธารณสุขสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น และจะพัฒนาไปเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะถ้ามีการใช้งานเอไอเพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่ม

องค์กรด้านการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ตลอดจนสตาร์ทอัพรายเล็กๆ ต่างมีแผนนำเอไอและเอ็มแอลมาช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมกันมากยิ่งขึ้น พร้อมปฏิรูปองค์กรและอุตสาหกรรมทั้งหมด ด้วยเป้าหมายที่ต้องการประหยัดเวลาในการหาข้อมูลเชิงลึก

ขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับคนไข้ เนื่องจากข้อมูลมีอยู่พร้อมและจำนวนแหล่งข้อมูลยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จในการใช้งานจะยังคงเป็นเรื่องเดิมๆ นั่นคือข้อมูลที่มีคุณภาพสูง

ระบบงานที่ทำงานได้อย่างเหมาะสมและเต็มประสิทธิภาพ คลาวด์ และบริการเอ็มแอลที่ช่วยให้บรรดาผู้พัฒนาสามารถเข้าถึงเอ็มแอลได้โดยไม่ต้องเสียเวลากับการสร้าง การเทรน และการนำโมเดลต่างๆ มาใช้งาน 

เมื่อองค์ประกอบพื้นฐานเหล่านี้มีความพร้อม เอไอและเอ็มแอลก็จะให้ศักยภาพในการเป็นขุมพลังที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้การดูแลผู้ป่วยมีประสิทธิผลมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น และเป็นประโยชน์กับทั้งผู้ป่วยและผู้ให้บริการ