'จักรทิพย์' เผยสิ่งที่ทำทุกตำแหน่ง อยู่รอดปีที่ 4 ชู 'ผบ.ซีล' ผู้กล้าในวิกฤต

'จักรทิพย์' เผยสิ่งที่ทำทุกตำแหน่ง อยู่รอดปีที่ 4 ชู 'ผบ.ซีล' ผู้กล้าในวิกฤต

“จักรทิพย์” ขึ้นเวทีบรรยายพิเศษ โครงการฝึกอบรมพัฒนาผู้บริหาร เผยภาวะผู้นำต้องรู้จักจุดอ่อนตัวเรา-จุดอ่อนองค์กร และต้องเป็นผู้นำในภาวะวิกฤตได้ ต้องรู้จักแก้ปัญหาหน่วยงานได้ ชู "ผบ.ซีล" ผู้กล้าในวิกฤต

เมื่อวันที่ 18 ก.พ.62 ที่ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) บรรยายพิเศษแก่ผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จัดอบรมแก่ผู้นำหน่วยจากองค์กรภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ 18 กุมภาพันธ์ - 30 มีนาคม 2562 โดยมี พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าร่วมรับฟังบรรยาย

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวบรรยาย ตอนหนึ่งว่า ทุกคนมีความรู้ประสบการณ์ การบริหารอยู่แล้ว ซึ่งการบริหารไม่มีหลักสูตร ทฤษฎีตายตัวต้องปฏิบัติจริง ยกตัวอย่างตำแหน่งบริหารของตำรวจมีเพียง 4 -5 ตำแหน่ง คือ สารวัตร ผู้กำกับการ(ผกก.) ผู้บังคับการ(ผบก.) ผู้บัญชาการ(ผบช.) .และ ผบ.ตร.ที่มีหน้าที่บริหารงาน พอเป็นหัวหน้า บริหารเต็มที่ จากประสบการณ์

“การบริหารต้องมีภาวะผู้นำ ผู้นำมีหลายแบบ การบริหารมี 2 แบบ คือการบริหารแบบปกติ กับการบริหารงานแบบวิกฤต การบริหารแบบวิกฤตนี่รู้เลย ใครมีกึ๋นไม่มีกึ๋น ใครกล้าไม่กล้า ตรงนี้ต้องกลับไปคิด ตัวท่านเป็นอย่างไร ตัวตนเป็นอย่างไร สิ่งที่ผมดำเนินการ ได้อย่างอยู่รอดปลอดภัยเสมอมา คือผมจะได้รับแต่งตั้งตำแหน่งอะไรก็แล้วแต่ ผมดูก่อนว่าคนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เสียงตอบรับ เสียงผู้ใต้บังคับบัญชาสิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่เราต้องเอามาปรับแผน ผู้ใต้บังคับบัญชาว่าอย่างไรที่ผ่านมา จุดอ่อนตัวเรา จุดอ่อนองค์กรเป็นอย่างไร เท่านั้น นโยบายปีนี้ ผมมอบเป็นปีที่ 4 ผมไม่พูดอะไรมาก ให้เอาข้อบกพร่อง ผิดพลาดของปีที่แล้ว มาปรับปรุงทุกหน่วย 20กว่ากองบัญชาการ ให้ผบช.ไปดูภัยคุกคามตัวเอง เอกชนก็ดูบริษัทของตัวเอง ไปดูภัยคุกคามของตัวเอง มีเรื่องทุจริตไหม ลูกน้องเป็นอย่างไร ผมสั่งแค่นี้ให้เอาข้อบกพร่องปีก่อนไปปรับแก้ เอกชนกับราชการโครงสร้างก็คล้ายๆกัน การบริหารอยู่ที่ภาวะผู้นำ มีเมตตาธรรม จริยธรรม เป็นคนขี้เหนียว ขี้บ่น จู่จี้ บางอย่างมีส่วนดี บางอย่างต้องแก้ไข” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า หลักสูตรทุกหลักสูตรคือการสร้างเพื่อความสัมพันธ์ที่ดี บางคนมาเป็นเพื่อนกันตอนแก่ เป็นคู่ชีวิตกันตอนแก่ ขอให้ทุกคนดำรงการติดต่อกันไว้ ทั้งนี้เชื่อว่าทุกคนในห้องนี้มีความสามารถ ผู้บริหารต้องมีไม่กี่อย่าง ต้องมีวิสัยทัศน์ และที่สำคัญคือการแก้ปัญหาให้หน่วย ใครเก่งไม่เก่งอยู่ที่การแก้ปัญหาหน่วย หัวหน้าหน่วยเหมือนจีพีเอสที่จะนำพาหน่วยไปตามทาง ต้องดูภัยคุกคามหน่วย ต้องแก้ไข เอาอะไรใหม่ๆให้เขาทำ เวลาน้อยอย่าลองผิดลองถูก มาขนาดนี้เชื่อทุกคนมีภาวะผู้นำ อารมณ์ต้องเก็บให้ได้

“ผมปกครองรุ่นพี่ๆมาเกือบตลอดทุกตำแหน่ง ผมไม่มีเคยมีปัญหา ทุกครั้งที่ผมประชุมกับพี่ๆผมจะยกมือไหว้ก่อนทุกครั้ง ขออนุญาตทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ผมไม่เคยถือตัว อ่อนน้อมถ่อมตนมาตลอด สมัยอยู่นครบาลเป็น ผบช.น. ตอนประชุมผมทำอย่างนี้ไม่มีอะไร เป็นกันเอง แล้วแต่สไตล์คน บางคนก็มีตัวตน ทุกครั้งผมประชุมผมเป็นแบบนี้ ผมเป็นแบบนี้ ผมเล่าสู่กันฟังในอะไรที่มันดี” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว

ผบ.ตร.กล่าวว่า ทุกคนในห้องนี้มีประสบการณ์สูง ยกตัวอย่าง ตอนเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ที่ช่วยชีวิต 13 หมูป่าอะคาเดมี

“ตอนเหตุที่ถ้ำหลวง พี่น้อย (พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล หนึ่งในผู้เข้าอบรมในหลักสูตรฯ) มีภาวะผู้นำ ตอนนั้นมีข่าวว่าไฟช็อตในถ้ำ มีพี่น้อยคนเดียวกล้าลุยน้ำในขณะที่ไฟช็อตถ้ำหลวง เดินในน้ำไม่มีอะไร ซีลใช้ประสบการณ์ทหารเรือ ซีลได้ประสบการณ์จากต่างชาติ ส่วนผมอยู่บนเขา ผมได้ประสบการณ์เยอะมาก อะไรต้องปรับปรุง ผมอยู่บนเขา พี่น้อยอยู่ในถ้ำ ตอนนั้นการไปหาน้อง 13คน มี 2ทาง คือปากถ้ำที่ซีลอยู่ และถ้ำบนเขาที่ตชด.อยู่ ซีลเข้าๆออกในถ้ำ ลักษณะทางกายภาพยากมาก นี่คือผู้นำในภาวะวิกฤต ผู้นำในวิกฤติจะรู้ว่าว่าต้องทำอย่างไรผมผ่านม็อบ ทั้งช่วงแดงพีค เหลืองพีค ผู้นำต้องมีเสนาธิการที่ดีด้วย” ผบ.ตร.บรรยายตอนหนึ่ง