พักบ้าง

พักบ้าง

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้น เช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาค ตอบรับความหวังที่ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน จะคลี่คลายลง

หลังมีการพบปะเจรจาการค้าอีกครั้งในวันที่ 14-15 ก.พ. นี้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นยังช่วยสนับสนุนหุ้นกลุ่ม ENERG ภายในประเทศ ขณะที่ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า 3,700 ลบ. ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,655.73 จุด (+13.24 จุด) Volume 4.5 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -1,374.36 ลบ. TFEX Net -1,658 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ +2,349 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดบวก 117.51 จุด รับความหวังเจรจาการค้า,คาดเฟดตรึงดบ.หลังเงินเฟ้อซบเซา

+น้ำมัน WTI ปิดบวก 80 เซนต์ รับคาดการณ์สหรัฐ-จีนบรรลุข้อตกลงการค้า

+"ทรัมป์" ส่งสัญญาณอาจลงนามร่างกม.งบประมาณพ่วงเงินสร้างรั้วกั้นชายแดน เพื่อเลี่ยงชัตดาวน์

+สหรัฐ-จีนเปิดฉากเจรจาการค้ารอบใหม่ที่กรุงปักกิ่งแล้ววันนี้

+"โกลด์แมน แซคส์"คาดราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาขึ้นในไตรมาส 2 เหตุอุปสงค์เพิ่มมากกว่าคาด

-สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองร่วงลงสัปดาห์ที่แล้ว แม้ดอกเบี้ยเงินกู้ปรับตัวลง

-เฟดนิวยอร์กเผยหนี้ภาคครัวเรือนสหรัฐเพิ่มในไตรมาส 4/61 เหตุสินเชื่อรถยนต์ขยายตัว

-ยูโรสแตทเผยการผลิตภาคอุตฯยูโรโซนร่วง 4.2% ในธ.ค. ทรุดหนักสุดรอบ 9 ปี

-การเมืองสเปนวุ่น หลังสภาผู้แทนฯคว่ำงบฯรายจ่ายประจำปี ปูทางยุบสภา,จัดการเลือกตั้งใหม่

+/-สหรัฐเผยดัชนี CPI ทรงตัวเป็นเดือนที่ 3 ในม.ค.

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ  YTD 3.8 พันล้านบาท ค่าเงินบาท 31.38 บาท/US

**14 ก.พ. 62 เวลา 13.30 น. ตุลาการศาล รธน. นัดพิจารณาคำร้องกรณีกกต.ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ

คาดดัชนี SET วันนี้มีโอกาสพักตัวจากค่าเงินบาทพลิกอ่อนตัวกดดัน fund flow ไหลออก ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอน โดยมีปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันที่ปิดเพิ่มขึ้น รวมทั้งข่าวดีเรื่องชัตดาวน์สหรัฐที่อาจจะไม่เกิดขึ้นอีก  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,660 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

  • หุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง VGI PLANB MACO CPALL MAKRO BJC TKS
  • ขยายเวลา VOA AOT CENTEL ERW
  • High Div : KAMART SIRI SNC ORI DIF BTSGIF SC MC AIT QH KKP TKS
  • CPALL MAKRO ช็อปตรุษจีนวันที่ 1-15 ก.พ.

หุ้นแนะนำพิเศษ

LHFG Analyst Meeting (ราคาปิด 1.48  Bloomberg Consensus 1.57) มุมมองบวก

ผู้บริหารเปิดเผยว่า CTBC เป็น Strategic partner ที่ช่วยเสริมธุรกิจด้าน Trade Finance ตอบรับกลยุทธ์ในการปรับพอร์ตสินเชื่อในการขยายสู่ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ผ่านเครือข่ายของ CTBCใน 14 ประเทศทั่วโลกและลูกค้าชาวจีนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย  ช่วยเสริมความแข็งแกร่งเรื่อง Wealth Management ที่ช่วยให้ธนาคารสามารถตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มได้มากขึ้น  รวมทั้งช่วยเสริมด้าน Digital platform ทั้งในส่วน E-Wallet, e-KYC และMobile Banking ที่เป็นอาวุธสำคัญในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีในการประกอบธุรกิจในยุคดิจิตอล

ปี 2562 ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 6-8% (รักษาระดับการเติบโตของสินทรัพย์ที่ 1.5 เท่าของ GDP) โดยจะคำนึงถึงคุณภาพของสินเชื่อ และรักษาระดับ %NPL ให้ต่ำกว่า 2% (1.93% ณ ปลายปี 61) และระดับ Coverage Ratio ที่ 110% เท่าเดิม ด้านธุรกิจจัดการกองทุนตั้งเป้าขยายขนาดกองทุนภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) เติบโต 10-20%

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของผลการดำเนินงานภายใต้การทำธุรกิจร่วมกับ CTBC และคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี Bloomberg Consensus คาดกำไรสุทธิปี 62 เฉลี่ย 3,115 ล้านบาท ทรงตัวใกล้เคียงกับปี 61 ที่มีกำไรสุทธิ 3,108 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 19%

หุ้นมีข่าว   

·        NER Analyst Meeting ราคาปิด 2.42 บาท แนะนำ “ซื้อ” มีมุมมองบวก ภายหลังจากการประชุมนักวิเคราะห์

หลังจากการประกาศกำไรงวดปี 61 ที่ 486 ลบ. + 117%YoY เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากปริมาณการขายสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 32.5% ประกอบกับ อัตราการทำกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นมาที่ระดับ 10.3% จากปี 60 อยู่ที่ระดับ 7%

ปี 62 ผบห.ยังคงมุมมองบวกอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดปริมาณการขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 266,000 ตัน เติบโตจาก ปี 61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 216,354 ตัน จากการเพิ่มสายการผลิตใหม่ในช่วงกลาง มี.ค.62 ในผลิตภันฑ์ RSS-Compound มี Capacity รวมที่ 60,000 ตัน/ปี พร้อมวาง U.Rate สำหรับสายการผลิตดังกล่าวในปี 62 ที่ 50%

นอกจากนี้ ยังให้มุมมองบวกเกี่ยวกับทิศทางราคายางพาราในปี 62 เฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับราว 50 บาท/กก. +6.4%YoY เนื่องจากมองว่าสินค้าเริ่มขาดตลาด ประกอบกับประเด็นการเลือกตั้งหนุน ซึ่งการที่ราคายางพาราเริ่มปรับตัวขึ้น ยังช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าหันมาเร่งตุนสต็อกสินค้ามากขึ้น เป็นผลบวกด้านปริมาณการขายของบริษัท ขณะที่ คาดว่า %GPM ปี 62 จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากการปรับปรุงกระบวนการผลิตยาง Mixture ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ ก.พ.61 ช่วยหนุน GPM ปี 61 เท่ากับ 10.3% ปรับตัวดีขึ้น 332 basis point จากปี 60 ขณะที่ปี 62 จะใช้กระบวนการดังกล่าวอย่างเต็มปี

อย่างไรก็ดี การที่ราคายางพาราปรับสูงขึ้น จะทำให้บริษัทจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในกิจการมากขึ้น ซึ่งตามมาด้วยการก่อหนี้ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลลบต่อต้นทุนทางการเงิน

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวก ทั้งในแง่แนวโน้มผลประกอบการปี 62 และปัจจุบันซื้อขายที่ PE ค่อนข้างถูก ราว 7 เท่า ต่ำกว่า PE อุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 10 เท่า (อยู่ในระหว่างจัดทำบทวิเคราะห์และประมาณการปี 62)

·         AOT (ราคาปิด 69 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 71.38 ) รายงานกำไรสุทธิ 1Q62 อยู่ที่ 6,375 ลบ. ทรงตัว YoY ถึงแม้รายได้รวมของบริษัทจะเติบโตราว 5% สู่ 15,798 ลบ. จากค่าบริการผู้โดยสารขาออก และส่วนแบ่งรายได้จากร้านค้าเพิ่มมากขึ้น แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเช่นกันราว 7% สู่ 7,766 ลบ. โดยรวมบริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิให้ใกล้เคียงเดิมได้ที่ระดับ 40%

·         + COMAN ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 10-20% จากขยายฐานลูกค้ากลุ่มโรงแรม ,เตรียมเปิดให้บริการแพลตฟอร์มจองตั๋วออนไลน์

·         ประเด็นบวกรับเหมา “ร.ฟ.ท.” เร่งเครื่องประมูลงานโยธารถไฟไทย-จีนที่เหลือ 12 สัญญา ให้ครบภายใน พ.ค. 2562 ล่าสุดเปิดรับฟังวิจารณ์ร่าง TOR อีก 5 สัญญา วงเงินรวมกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท คาดขายซองได้ภายในเดือนนี้ และยื่นข้อเสนอ เม.ย. 2562 (ที่มาข่าวหุ้น)

·         PTTEP (ราคาปิด 124 ราคาเหมาะสม 141) เล็งเซ็นสัญญาสัมปทานระบบแบ่งปันผลผลิต (PSC) แหล่งบงกชและเอราวัณใน Q1/2562 คงเป้าปริมาณขายปิโตรเลียมปีนี้ 3.18 แสนบาร์เรลต่อวัน จัดทัพลงทุนไทย-อาเซียน-ตะวันออกกลาง ตั้งงบลงทุนปีนี้ 1.35 พันล้านดอลลาร์พร้อมสรุปลงทุนขั้นสุดท้าย 3 โครงการ โมซัมบิก-แอลจีเลีย-เวียดนาม ครึ่งแรกปี 2562 (ที่มา ทันหุ้น)

·         + III ไฟเขียวทุ่มงบ 511.3 ล้านบาท ซื้อหุ้น Around Logistics ในฮ่องกง 50% คาดทำรายการแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค. 2562 หวังสยายปีกขยายธุรกิจเติบโตระดับภูมิภาค (ที่มา ข่าวหุ้น)