เผย10ชาติแหล่งเพาะมหาเศรษฐีโลกอีก5ปีข้างหน้า

เผย10ชาติแหล่งเพาะมหาเศรษฐีโลกอีก5ปีข้างหน้า

เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจอย่างสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น มีสัดส่วนมหาเศรษฐีโลกสูงที่สุด แต่หากพูดถึงโอกาสสร้างเศรษฐีใหม่ ประเทศที่จะมีจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นมากใน 5 ปีข้างหน้า กลับกลายเป็นม้ามืดที่ไม่ค่อยมีใครนึกถึง

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานอ้างข้อมูลจาก “High Net Worth Handbook 2019" ของบริษัทวิจัยความมั่งคั่ง “เวลธ์เอ็กซ์” ศึกษาบุคคลที่มีสินทรัพย์สุทธิสูง (1-30 ล้านดอลลาร์) กว่า 540,000 คน เพื่อคาดการณ์แนวโน้มความมั่งคั่งโลกในช่วง 5 ปีข้างหน้า วัดจากระดับความมั่งคั่งในปัจจุบัน คาดการณ์จำนวนประชากร และโอกาสการลงทุนในอนาคต

ผลการศึกษาพบว่า ประเทศที่มีประชากรมั่งคั่งขึ้นมากที่สุด เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ในแอฟริกา เอเชีย และยุโรปไม่กี่ประเทศ โดยไนจีเรียจากแอฟริกาตะวันตกครองแชมป์ ระหว่างนี้ถึงปี 2566 จะมีประชากรมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดปีละ 16.3% รองลงมาคืออียิปต์ 12.5% และบังกลาเทศ 11.4%

ประเทศร่ำรวยอยู่แล้วอย่างสหรัฐและจีน ที่มีมหาเศรษฐี 8.7 ล้านคน และ 1.9 ล้านคนตามลำดับยากที่จะทำได้แบบเดียวกัน แม้เศรษฐกิจจีนจะเติบโตมากก็ตาม

นอกจากนี้  รายงานค้นพบข้อมูลแปลกๆ ที่น่าสนใจบางอย่าง เช่น โปแลนด์และเคนยา ถือเป็นเคสที่น่าประหลาดใจ เพราะที่ผ่านมาสองประเทศไม่เคยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ชั้นนำเหมือนกับบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ที่เรียกกันว่า “บริกส์” หรือ เม็กซิโก อินโดนีเซีย ไนจีเรีย และตุรกี ในนามกลุ่ม “มินต์”

รายงานตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การจัดอันดับประเทศท็อปเท็นที่มีประชากรมั่งคั่งสูงเพิ่มจำนวนขึ้นเร็วที่สุดมีความหลากหลาย “หากวัดจากเศรษฐกิจเราคาดว่าประเทศที่ร่ำรวยน้อยจะมีคนมั่งคั่งน้อย แต่โปแลนด์กับเคนยาพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่เช่นนั้น”

หากพิจารณาจากแหล่งที่มีความมั่งคั่งของแต่ละประเทศก็แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ประเทศที่ร่ำรวยสินค้าโภคภัณฑ์อย่างไนจีเรียและอียิปต์ สามารถสั่งสมความมั่งคั่งจากการส่งออกพลังงานขณะที่บังกลาเทศ ที่มีประชากรร่ำรวยสุดๆ (สินทรัพย์สุทธิมากกว่า 30 ล้านดอลลาร์) โตเร็วมากที่สุดในโลกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จจากการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว และเพิ่มการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน

เวียดนาม อินเดีย ฟิลิปปินส์ และเคนยา ก็เป็นประเทศที่ได้รับผลจากการลงทุนเชิงโครงสร้างเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ยูเครนและโปแลนด์ได้ประโยชน์จากการเติบโตของภาคเทคโนโลยีช่วยหนุนเศรษฐกิจ

ส่วนจีน  ซึ่งเป็นแหล่งบ่มเพาะเศรษฐีใหม่ยังได้ประโยชน์ต่อไป จากนโยบายเศรษฐกิจแห่งชาติอย่างครอบคลุมของรัฐบาลคาดกันว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าเมืองมั่งคั่งสุทธิสูง 40 เมืองทั่วโลกจะอยู่ในจีนถึง 32 เมือง