นายกฯ ระบุเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เกี่ยวเรื่องความขัดแย้งทางศาสนา

นายกฯ ระบุเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เกี่ยวเรื่องความขัดแย้งทางศาสนา

นายกรัฐมนตรีระบุการก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งทางศาสนา ขอประชาชนอย่าตกหลุมพรางทางความคิด

เมื่อวันที่ 22 ม.ค.62 เวลา 12.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังการประชุมครม.ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ล่าสุดมีการยิงพระสงฆ์ จนเกิดความเป็นห่วงว่าจะถูกทำให้เข้าใจผิดในเรื่องของศาสนาว่า เราก็อย่าเข้าใจผิด มันไม่ใช่เป็นเรื่องความขัดแย้งทางศาสนาหรอก เพราะทางโอไอซีหรือประเทศผู้แทนมุสลิมมาเยี่ยมเยือนเราหลายครั้ง จัดคณะทำงานไปดูในพื้นที่ภาคใต้ ไปสอบถามประชาชนในพื้นที่เขาก็บอกไม่ใช่ความขัดแย้ง เรื่องนี้เป็นความขัดแย้งที่ไม่ใช่รูปแบบเดิมๆ ที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ ดังนั้น เราอย่าเอาหลายอย่างไปพันกัน ขณะนี้เรายังไม่ถึงตรงนั้น

“สิ่งที่ผมอยากให้ความสำคัญก็คือสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้ จะเห็นได้ว่าช่วงนี้สถานการณ์รุนแรงขึ้นเพราะอะไร เนื่องจากเสถียรภาพทางการเมืองหรือเปล่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งอะไรหรือไม่ เกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องไปดูให้ชัดเจน วันนี้ก็มีหลายกลุ่ม หลายฝ่ายที่ออกมาสร้างเหตุรุนแรงในขณะนี้เพื่อยกระดับตัวเองให้มีเกรดสูงขึ้น ดังนั้น เราอย่าไปขยายให้เขา เราต้องไม่ไปเข้าล็อกเขา เขาต้องการที่จะทำอย่างไรก็ได้ให้สังคมตื่นตระหนก หรือให้สังคมกดดันรัฐบาล กดดันภาครัฐเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่เขาต้องการ เป็นสงครามแย่งชิงทางความคิด ดังนั้น เราอย่าเอาความคิดของเราไปตกหลุมพรางเขา เราก็จะหามาตรการทางกฎหมาย และเรื่องการพูดคุยสันติสุข มันต้องทำทั้งหมด ให้ต่างประเทศเห็นว่าเราไม่ได้ใช้กำลังอย่างเดียว เพราะเรื่องนี้คณะกรรมการต่างๆ เขาดูอยู่ทั้งกรรมการสิทธิมนุษยชน หรือยูเอ็น เขาดูกันหมด ข้อสำคัญคือปัญหาของเราแตกต่างจากหลายประเทศ ดังนั้นก็ต้องแก้ปัญหากันต่อไป” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนได้กำชับไปหลายอย่าง จุดอ่อนไหวที่สุดมีจำนวนมาก ทั้งวัด โรงเรียน เด็ก ครู สถานที่ประกอบการธุรกิจทั้งหมดถือเป็นพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด แม้แต่ทหารก็ยังเสี่ยงเลยเพราะถูกแวดล้อมด้วยประชาชนทั้งหมด ดังนั้น จึงต้องหามามาตรการทางการข่าวที่เหมาะสม การระมัดระวังป้องกันฐานตัวเอง และระมัดระวังผู้ที่เข้ามาติดต่อราชการ ต้องเข้มงวดทั้งหมด โดยประชาชนในพื้นที่ก็ต้องร่วมมือด้วย บางครั้งการกำหนดมาตรการอะไรออกมาก็ปฏิบัติได้ยากเพราะประชาชนที่ไม่เดือดร้อนก็กลัวว่าจะกระทบกับสิทธิของตัวเอง มันหลายอย่าง ถ้าเราต้องการสิทธิ เสรีภาพมาก ความไม่ปลอดภัยก็จะเกิดตามมา และเมื่อวานตนได้ออกแถลงการณ์เรื่องนี้ไปแล้วว่ามีมาตรการอะไรบ้าง อย่าให้ใครมาบิดเบือนว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ทั้งที่ทำตั้งหลายอย่าง ดังนั้น ต้องช่วยกัน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ทางการข่าวยังไม่มีอะไรที่บ่งชี้ว่าจะขยายความรุนแรงเกิดขึ้นอีก