‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 31.96 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 31.96 บาทต่อดอลลาร์

เงินทุนเคลื่อนย้ายสู่ตลาดเกิดใหม่กระทบเงินบาทระยะสั้น หากภาพสงครมการค้าดีขึ้น หนุนบาทแข็งค่าต่อได้

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.96 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจาก 32.05 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อน

สัปดาห์นี้ เราเชื่อว่าการหารือเรื่องการค้ารวมถึงความคืบหน้าเรื่องงบประมาณของสหรัฐจะเป็นเรื่องที่ตลาดให้ความสนใจมากที่สุด แม้ทั้งสองเรื่องจะไม่ได้ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ แต่จะสร้างความผันผวนในตลาดแน่นอน

ฝั่งของค่าเงินบาท ในช่วงสั้นยังคงมีแรงกดดันจากการเคลื่อนย้ายเข้าสู่สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) เพราะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงและดอกเบี้ยสหรัฐที่อาจหยุดขึ้น จึงมีโอกาสไม่มากที่จะปรับตัวอ่อนค่ากลับได้ จุดที่ต้องติดตามคือภาพรวมสงครามการค้าและการเปิดรับความเสี่ยงของตลาดทุน (Risk Sentiment) ซึ่งถ้าทั้งคู่มีแนวโน้มดีขึ้นอีก อาจยิ่งหนุนให้เงินบาทแข็งค่าลงต่อได้ต่อ

มองกรอบเงินบาทระหว่างวัน 31.90 - 32.00 บาทต่อดอลลาร์ และกรอบเงินบาทในสัปดาห์ 31.80 - 32.30 บาทต่อดอลลาร์

ในสัปดาห์นี้มีเรื่องที่ต้องติดตามทั้งการเจรจาการค้าและเศรษฐกิจสหรัฐ เริ่มที่วันจันทร์ ผู้แทนการค้าของฝั่งสหรัฐจะเดินทางไปกรุงปักกิ่ง เพื่อหาข้อตกลงในด้านการค้ากับจีน เตรียมสำหรับการพบกันระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์และสี จิ้งผิงซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังมาตรการชะลอการเก็บภาษีของสหรัฐสิ้นสุดในปลายเดือนกุมภาพันธ์

นอกจากนี้ ก็จะมีการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคการผลิตในสหรัฐ (ISM Non-Manufacturing PMI) คาดว่าจะปรับลดลงเพียงเล็กน้อยมาที่ 59จุด ดีกว่าภาคอุตสาหกรรมเนื่องจากไม่ได้รับแรงต้านจากสงครามการค้าและเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่

ตามมาด้วยในวันพุธ การแถลงรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในเดือนธันวาคม ตลาดกำลังจับตาไปที่ความเห็นของเฟด และตั้งคำถามว่าความผันผวนในปัจจุบัน ต้องมีนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เช่นการหยุดขึ้นดอกเบี้ย เข้ามาสนับสนุนหรือไม่

ในวันศุกร์ ตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐ (CPI) คาดว่าจะปรับตัวลง 0.2% ในเดือนธันวาคมจากผลของราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐยังน่าจะทรงตัวได้ระดับ 2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน