กกต.คลอดระเบียบหาเสียงเลือกตั้ง ห้ามดึงสถาบันฯ มาใช้หาเสียง ห้ามใช้ถ้อยคำรุนแรง หยาบคาย ปลุกระดม ขณะที่ป้ายหาเสียงลงรูปผู้สมัครคู่ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายก-สมาชิกพรรคเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากกต. มีมติเห็นชอบ ร่างระเบียบกกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งส.ส. 2561 แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยสาระสำคัญของระเบียบดังกล่าวกำหนดเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติ ข้อห้ามไม่ให้ปฏิบัติสำหรับผู้สมัคร พรรคการเมืองและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น โดยสามารถแจกเอกสาร วีดิทัศน์ที่เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งในเขตชุมชน สถานที่ งานพิธีต่างๆได้ รวมทั้งจัดรถหาเสียงและเวทีหาเสียง ใช้เครื่องขยายเสียงช่วยหาเสียงได้ ขณะที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องแจ้งรายละเอียดให้ผอ.การเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบภายใน 10 วันหลังปิดการรับสมัคร ซึ่งทั้งเอกสารวีดีทัศน์ ประกาศการโฆษณา ป้ายโฆษณาที่จะติดตั้งบนรถหาเสียง เวทีหาเสียง สามารถระบุชื่อ รูปภาพและ หมายเลขผู้สมัคร ชื่อสัญลักษณ์นโยบายของพรรค คติพจน์คำขวัญ ข้อมูลประวัติเฉพาะที่เกี่ยวกับผู้สมัคร พรรคการเมืองและ นำภาพของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายก หัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรค ลงโฆษณาหาเสียงได้เท่านั้น โดยการดำเนินการในส่วนของรถหาเสียงและเวทีหาเสียง ให้นับรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หาเสียงผ่านจดหมาย สิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ ทำเอกสาร ที่มีการกากบาทในช่องคะแนนเลือกตั้งให้กับตนเองได้แต่เอกสารต้องไม่มีลักษณะหรือสีคล้ายกับบัตรเลือกตั้ง
นอกจากนี้ สามารถตั้งผู้ช่วยหาเสียงได้โดยผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งมีผู้ช่วยหาเสียงในเขตได้ไม่เกิน 20 คนต่อเขต ส่วนของพรรค ที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ มีผู้ช่วยหาเสียงได้ไม่เกิน 10 เท่าของจำนวนเขตที่พรรคนั้นส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขต อย่างไรก็ตามกรณีพบมีการหาเสียงไม่เป็นไปตามที่กกต. กำหนด ผอ. กกต.จังหวัด จะแจ้งให้ผู้สมัคร พรรคการเมืองแก้ไข ภายใน 5 วัน หากไม่ดำเนินการกกต.สามารถรื้อถอน ปลดออกหรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยคิดค่าใช้จ่ายกับผู้สมัคร พรรคการเมืองนั้น และนำมาเป็นเหตุสืบสวนวินิจฉัยได้
ส่วนการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น กำหนดให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง สามารถหาเสียงด้วยตนเองหรือว่าจ้างบุคคลนิติบุคคลดำเนินการได้ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท ทั้งยูทูปเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น อีเมล์ เอสเอ็มเอส โดยผู้สมัครต้องแจ้งวิธีการรายละเอียดช่องทางระยะเวลาการหาเสียงรวมถึงหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ให้ผอ. กกต. ประจำจังหวัดทราบตั้งแต่วันสมัครหรือก่อนหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้สมัครหรือสมาชิกพรรคหาต้องการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับผู้สมัครพรรคการเมืองใดต้องแจ้งชื่อสกุลนิติบุคคล หรือเครื่องหมายใดๆที่สามารถเจาะจงตัวบุคคลที่ดำเนินการได้ โดยค่าใช้จ่ายในการหาเสียงส่วนนี้หากเกินกว่า 10,000 บาทต้องแจ้งให้ผู้สมัครพรรคการเมืองทราบและให้แจ้งต่อ ผอ. กกต.จังหวัดเลขากกตทราบ และการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ให้นับรวมเป็นค่าใช้จ่ายของผู้สมัคร พรรคการเมืองนั้น กรณีกกต.พบว่ามีการใช้ถ้อยคำรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดมหรือนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้อง สามารถสั่งให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง ลบข้อมูลนั้น หากผู้สมัครพรรคการเมืองไม่ดำเนินการในเวลาที่กำหนด เลขากกต.สามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้บริการ ดำเนินการโดยผู้สมัครพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย และการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ลบข้อมูล ไม่สามารถลบล้างความผิดที่ได้กระทำสำเร็จแล้วได้ ซึ่งกกต. สามารถนำมาสืบสวนและวินิจฉัยได้
ส่วนข้อห้ามไม่ควรปฎิบัติในการหาเสียงนั้นกำหนดไว้กว้างๆ คือห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใด ให้ผู้ประกอบอาชีพ เจ้าของกิจการวิทยุโทรทัศน์ สื่อมวลชน สื่อโฆษณา หรือนักแสดง นักดนตรีพิธีกร ใช้ความสามารถทางวิชาชีพเอื้อประโยชน์ในการหาเสียงให้แก่ตน แต่ถ้าผู้สมัครมีความรู้ความสามารถทางศิลปะเป็นของตนเอง สามารถใช้หาเสียงให้กับตัวเองได้แต่ต้องไม่ใช้อุปกรณ์ในการแสดง. นอกจากนี้ยังห้ามไม่ให้มีการ แจกจ่ายเอกสารที่เกี่ยวกับการหาเสียงโดยใช้วิธีการวาง หรือโปรยในที่สาธารณะ ไม่ใช้ถ้อยคำรุนแรงก้าวร้าว หยาบคาย หรือปลุกระดม และไม่ช่วยเหลือเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ให้แก่ผู้ใดตามประเพณี