ยิบอินซอย 4.0ตอบโจทย์เกษตร-เอสเอ็มอี

ยิบอินซอย 4.0ตอบโจทย์เกษตร-เอสเอ็มอี

“ยิบอินซอย” ชูเซอร์วิส โซลูชั่น เชื่อมธุรกิจไอที เกษตรและพลังงาน ประเดิมนำไอโอทีเพิ่มประสิทธิภาพโรงงานเอสเอ็มอี

“ยิบอินซอย” ชูเซอร์วิส โซลูชั่น เชื่อมธุรกิจไอที เกษตรและพลังงาน ประเดิมนำไอโอทีเพิ่มประสิทธิภาพโรงงานเอสเอ็มอี เล็งต่อยอดสู่เกษตรกรในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตยางพารา- ข้าว รวมถึงการจัดการสตอเรจในสถานีไฟฟ้าขนาดเล็กที่ต้องจ่ายไฟตามเวลา

สุภัค ลายเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด กล่าวถึงโรดแมพการเติบโตของบริษัทใน 3-5 ปีว่า ขณะนี้ทุกองค์กรในโลกนี้กำลังถูกท้าทายจากเทคโนโลยีอย่างรุนแรง โลกธุรกิจได้เปลี่ยนแปลงไป วิธีคิดแบบเดิมเริ่มใช้ไม่ได้ในบริบทใหม่ ดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมหาศาลในการสร้างความท้าทายครั้งนี้ทำให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างรวดเร็ว

ชู “เซอร์วิสโซลูชั่น” ขยายฐาน

จากพื้นฐานยิบอินซอยที่เป็น Systems Integrator (SI) รายใหญ่มีประวัติความเป็นมายาวนานร่วม 40 ปี อยู่เบื้องหลังโครงการไอทีขนาดใหญ่ของหน่วยงานรัฐและเอกชน คาดการณ์ว่า SI จะถูกดิสรัปจากเทคโนโลยีคลาวด์ ดังนั้น การปรับตัวเข้าหาคลาวด์ ถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตามความต้องการของลูกค้าเพื่อเสริมประเด็นด้านขีดความสามารถในการแข่งขัน

“ในอดีตเป็นยุคของสเปเชียลลิสต์ ที่ช่างคนหนึ่งเรียนรู้ในเชิงลึกเฉพาะด้านเดียว แต่ในยุคใหม่ต้องปรับเปลี่ยนให้สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ได้เร็วและต่อเนื่อง พร้อมที่จะกระโดดสู่เทคโนโลยีใหม่ ได้เร็วขึ้น เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว และปรับเปลี่ยนทีมให้เป็นในลักษณะโซลูชั่นแอร์เรียมากขึ้น เช่น แยกออกมาเป็นทีมด้านซิเคียวริตี้ หรือทีมบิ๊กดาต้าที่ดูแลงานแบบเบ็ดเสร็จในตัว”

อย่างไรก็ตามจากพื้นฐานและทักษะด้าน SI สุภัคได้นำมาต่อยอดพัฒนาให้เป็น “เซอร์วิส โซลูชั่น” เริ่มต้นจากการตั้งทีมขึ้นพัฒนาเทคโนโลยี Internet of Things หรือ ไอโอที สนับสนุน 3 ธุรกิจหลักในเครือ ได้แก่ ไอที เกษตรและพลังงาน โดยไม่เน้นการทำกำไร หลังจากดำเนินงานได้ 1 ปี จึงมองเห็นโอกาสที่จะเข้าไปในโรงงานขนาดกลางและเล็ก ซึ่งต้องการเทคโนโลยีควบคุมเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้ไอโอทีช่วยตรวจติดตามการผลิตหาจุดที่มีปัญหาเพื่อแก้ไขได้ทันที

“ส่วนใหญ่เป็นโรงงานที่มีเครื่องจักรอยู่แล้ว เราเข้าไปช่วยเสริมโดยทำงานร่วมกับผู้ผลิตเครื่องจักรเชื่อมต่อดาต้าและพัฒนาระบบให้อัจฉริยะ ในระดับราคาที่จับต้องได้ โซลูชั่นไม่ซับซ้อนเพื่อขยายตลาดกว้างขึ้น จะเริ่มต้นปี 2562 ในกลุ่มโรงงานอาหาร เครื่องดื่มหรือแม้แต่การขนส่ง เป็นต้น”

นอกจากนี้ สุภัคยังพยายามนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานในธุรกิจที่ทำอยู่ในเครือ อย่างธุรกิจจำหน่ายปุ๋ยที่เติบโตแบบก้าวกระโดดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยอีโคโนมีออฟสเกลเมื่อเทียบกับผู้เล่นรายใหญ่จึงลำบาก เนื่องจากแข่งกันที่ ราคา วัตถุดิบและช่องทางจำหน่ายในร้านค้าปลีกค้าส่ง จึงมีแนวคิดผันจากผู้ผลิตปุ๋ยเป็นผู้ให้บริการแก่เกษตรกรในการบริหารจัดการกิจกรรมในแปลง มีการใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์ ไอโอที เข้าไปบริหารจัดการ การคาดการณ์ประเมินว่า ในช่วงเวลาต่างๆ จะให้น้ำและปุ๋ยอย่างไร จากเดิมแนวคิดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของสวน เท่านั้น

“แต่จากจุดขายของ การเป็นผู้จำหน่ายปุ๋ย ยาฆ่าแมลง น่าจะทำให้ได้รับการยอมรับจากเกษตรกร เพราะช่วยบริหารต้นทุนการผลิตให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด ในกลุ่มเกษตรกรขนาดกลางและเล็ก และเป็นการเชื่อมโยงจากธุรกิจไอทีของยิบอินซอย คาดว่าใช้เวลาพัฒนาอย่างน้อย 1 ปี”

จับตาเทคโนฯกักเก็บพลังงาน

ในส่วนกลุ่มธุรกิจพลังงาน ธุรกิจหลักยังคงเป็นการรับเหมาสร้างโรงไฟฟ้าย่อยและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งธุรกิจนี้มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีพอสมควรเมื่อเทียบกับในอดีต

“ตอนนี้ต้องรอดูพัฒนาการด้านแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีหลายรูปแบบ หวังว่าจากประสบการณ์ในการทำโรงไฟฟ้าย่อยจะมาช่วยการจัดการสตอเรจในระบบของสถานีไฟฟ้าขนาดเล็กที่ต้องจ่ายไฟตามเวลา”

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของยิบอินซอยมาจากกลุ่มธุรกิจไอที 70-80% กลุ่มธุรกิจเกษตรรองลงมาโดยเฉพาะปุ๋ย มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น ในแง่การลงทุนเกี่ยวกับสตาร์ทอัพทางผู้บริหารมองไว้ แต่ไม่มีเป้าหมายที่จะดึงเข้ามาช่วยในการพัฒนาธุรกิจในเครือ ส่วนภาพรวมในอนาคตจะเป็นผู้นำที่มีความชัดเจนในเรื่องทักษะที่ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและลูกค้า

“2 ปีที่ผ่านมา เราเห็นแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ความที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ทำให้ขยับตัวไม่เร็วมาก แต่ขณะนี้ได้ปรับโครงการการทำงานใหม่จากแอคเคาท์เบสเป็นแอเรียเบส ทำให้ทีมกระทัดรัดลง โฟกัสเป็นพื้นที่ชัดเจนขึ้น หวังว่าการปรับตัวในปีนี้จะทำให้องค์กรกระฉับกระเฉงมากขึ้น” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ยิบอินซอย กล่าว