SVOA ความเสี่ยงขาลงจำกัด

SVOA ความเสี่ยงขาลงจำกัด

จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส

ฟินันเซีย แนะนำซื้อ SVOA จาก Valuation ที่น่าสนใจ และแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ยังมีการเติบโตใน 3 ปีข้างหน้า ตามการลงทุนด้านไอทีของรัฐฯและเอกชน เราคาดกำไรสุทธิปี 2018 ชะลอ 13% Y-Y อยู่ที่ 165 ล้านบาท เพราะปี 2017 มีกำไรจากการขาย LIT 73 ล้านบาท ถ้าหักออกกำไรจากการดำเนินงานปกติจะเติบโต 22% Y-Y ส่วนปี 2019 คาดกำไรสุทธิที่ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% Y-Y ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PE Band ล่างในรอบ 10 ปีเพียง 6-7 เท่า และคิดเป็นครึ่งหนึ่งของมูลค่าทางบัญชีที่ 2.30 บาท/หุ้น เราประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2019 โดยอิง PE 10 เท่า (จากการ Implied ด้วย DDM) ได้เท่ากับ 2.00 บาท มี Upside 61% ซึ่งถือว่าระมัดระวังกว่าเดิมที่เคยประเมินมูลค่าโดยอิง PE เฉลี่ยในอดีตที่ 15 เท่า ขณะที่ มูลค่าตามราคาตลาดของของ LIT และ IT เมื่อคิดกลับมาเป็นส่วนของ SVOA ณ วันที่ 12 ธ.ค. 18 รวมกันอยู่ที่ 0.93 บาท/หุ้น Downside ณ ปัจจุบันจึงจำกัดมากทั้งในเชิงของ Intrinsic Value และ Market Value

 

ทุกธุรกิจของ SVOA ยังทำกำไรได้ดี ลูกค้าหลักยังขยายการลงทุนต่อเนื่อง

ธุรกิจของ SVOA ประกอบไปด้วย (1) งานโครงการด้านไอทีให้กับภาครัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการศึกษา (2) งานโครงการด้านไอทีให้กับภาคเอกชน เป็นลักษณะให้เช่าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ อายุ 3-5 ปี (3) ธุรกิจวางระบบไอทีหรือ SI ให้กับกลุ่มแบงก์และประกันฯ (4) ธุรกิจค้าส่งสินค้าไอที (5) ถือหุ้นในกิจการที่เกี่ยวข้อง เช่น LIT และ IT โดยในส่วนของงานโครงการ เริ่มเปลี่ยนจากการขายแบบดั้งเดิมเป็นการให้เช่า ทำให้ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนสูง แต่อัตรากำไรขั้นต้นจะดีกว่าแบบขายขาด ส่วนงานวางระบบให้กลุ่มแบงก์ เนื่องจากเป็นส่วนของ Core Network จึงยังมีความจำเป็น แม้กำลังจะเปลี่ยนจากสาขาและตู้ ATM ไปเป็น Digital Banking ก็ตาม ขณะที่ ธุรกิจค้าส่งสินค้าไอทีถือว่ามีการแข่งขันรุนแรง แต่เพราะมีการขายให้บริษัทในกลุ่ม จึงสามารถโตตามกลุ่มไปได้ เราประเมินว่าธุรกิจ SI ให้แบงก์และประกันภัย จะมีการเติบโตโดดเด่นกว่าธุรกิจอื่นในปี 2019 จากการลงทุนทั้ง Core Network และระบบรักษาความปลอดภัยของสถาบันการเงินที่เข้มข้นมากขึ้น   

 

แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q18 จะกลับมาสดใส จากงานที่เลื่อนจาก 3Q18

กำไรสุทธิ 3Q18 เพิ่มขึ้น 15% Q-Q ตามฤดูกาล แต่ลดลง 5% Y-Y อยู่ที่ 44 ล้านบาท แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.7% จาก 11.1% ใน 3Q17 แต่เพราะมีลูกค้าแบงก์บางรายเลื่อนรับมอบงานเป็น 4Q18 จึงทำให้รายได้รวมลดลง 17% ทั้ง Q-Q และ Y-Y เหลือ 1,888 ล้านบาท FSS คาดว่ากำไรสุทธิ 4Q18 จะกลับมาโต 13% Q-Q และ 15% Y-Y อยู่ที่ 50 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ส่วนที่เลื่อนมาจาก 3Q18 การเร่งรับมอบงานโครงการของภาคเอกชน และเป็น High Season ของธุรกิจค้าส่งสินค้าไอที

 

มูลค่าถูกเกินไปเมื่อเทียบอดีต และสินทรัพย์ที่ถืออยู่ แนะนำซื้อ

ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 1.24 บาท คิดเป็น PE2018-19 เพียง 7 และ 6 เท่า ตามลำดับ ซึ่งเป็นกรอบล่างของ PE Band ใน 10 ปีที่ผ่านมา และคิดเป็น PBV2018-19 เพียง 0.5 เท่า (มูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 2.30 บาท/หุ้น) ขณะที่การลงทุนใน LIT (36.02%)  และ IT (38.99%) มีมูลค่าตาม Market Cap. (ณ 12 ธ.ค. 2018) เท่ากับ 887.62 ล้านบาท หรือ 0.93 บาท/หุ้น จะเห็นได้ว่า SVOA มีความน่าสนใจในเชิง Valuation อย่างมาก แม้ว่าจะถูกบั่นทอนจากการกระจายความเสี่ยงในหลายธุรกิจ บริษัทลักษณะนี้อัตราการเติบโตจะไม่โดดเด่นแต่มีความั่นคง FSS แนะนำซื้อ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2019 เท่ากับ 2.00 บาท อิง PE 10 เท่า จากการ Implied ด้วย DDM (Payout 50%, Ke 8%, Terminal growth 3%)