คุก 1 ปีไม่รอลงอาญา 'ธาริต เพ็งดิษฐ์'

คุก 1 ปีไม่รอลงอาญา 'ธาริต เพ็งดิษฐ์'

ศาลฎีกาพิพากษากลับ จำคุก 1 ปีไม่รอลงอาญา "ธาริต เพ็งดิษฐ์"

เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.495/2556 ที่ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” อายุ 69 ปี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง “นายธาริต เพ็งดิษฐ์” อายุ 60 ปี อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 กรณีขณะดำรงตำแหน่ง “อธ.ดีเอสไอ” เมื่อปี 2556 นายธาริต ได้ให้สัมภาษณ์ กล่าวหา นายสุเทพ เป็นผู้สั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่ง จากเป็นรายภาค ให้เป็นรวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว ซึ่งคดีนี้ "นายสุเทพ" โจทก์ยื่นฟ้อง "นายธาริต" ต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 7 ก.พ.56 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 21 ม.ค. - 4 ก.พ.56 นายธาริต ขณะดำรงตำเเหน่งอธ.ดีเอสไอ แถลงแถลงข่าวข่าวผ่านสื่อมวลชนกล่าวหาว่า นายสุเทพ โจทก์ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการไม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งเป็นรายภาค ตามที่ สตช.เสนอ แต่กลับให้รวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว ทำให้บริษัทพีซีซี ดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล จนเกิดปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จทันตามกำหนด ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

โดยวันนี้ "นายธาริต" อดีต อธ.ดีเอสไอ วัย 60 ปี เดินทางมาถึงศาล ตั้งแต่เวลา 07.30 น. พร้อมรอฟังคำพิพากษา ขณะที่คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาวันที่ 26 มี.ค.58 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าการแถลงข่าวของจำเลยเป็นการตรวจสอบโครงการก่อสร้างโรงพัก และให้ความเห็นในทางกฎหมายในฐานะอธิบดีดีเอสไอ ไม่ได้มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้กระทำการทุจริต การแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ของจำเลยเป็นการสรุปความคืบหน้าของคดีตามพยานหลักฐาน ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานที่ได้ปฎิบัติตามอำนาจหน้าที่ และเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ต่อมาวันที่ 3 พ.ค.59 มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งยืนยกฟ้องเช่นกัน เห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังเพียงพอได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โดย "นายสุเทพ" โจทก์ ได้ยื่นฎีกาตามระบบด้วยการขออนุญาตฎีกา ขณะที่ก่อนถึงวันนัดอ่านคำพิพากษานี้ "นายธาริต" ได้ยื่นคำแถลงต่อศาลฎีกาใหม่ จากปฏิเสธต่อสู้คดี ขอเป็นให้การรับสารภาพแทน และเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา ยังได้มอบอำนาจให้ทนายความ นำเงิน 100,000 บาท มาวางต่อศาลเป็นการแสดงความประสงค์จะเยียวยา "นายสุเทพ" โจทก์  เพื่อเป็นการบรรเทาผลร้ายด้วย

โดยวันนี้ เมื่อถึงเวลานัด "ศาลฎีกา" ได้อ่านคำพิพากษา ซึ่งระบุว่า เมื่อศาลตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันเเล้ว เห็นว่า การเเถลงข่าวเรื่องเกี่ยวกับเสนอราคาในการประมูลโครงการก่อสร้างโรงพัก 396 เเห่งของนายธาริตเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์นายสุเทพตามฟ้อง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้นศาลฎีกาไม่เห็นด้วย จึงพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำคุก "นายธาริต" จำเลย เป็นเวลา 1 ปี ส่วนที่จำเลย ขอถอนคำให้การ แล้วขอให้การเป็นรับสารภาพนั้น "ศาลฎีกา" เห็นว่า ไม่อาจถอนคำให้การได้ในชั้นฎีกานี้ จึงให้ยกคำร้อง ส่วนที่จำเลยอ้างว่า ได้มีการบรรเทาผลร้ายเเละการเจรจาไกล่เกลี่ยเป็นผลสำเร็จ มีการทำตามข้อตกลงสิทธิในการดำเนินคดีอาญาต้องระงับไป "ศาลฎีกา" ก็เห็นว่า กรณีนั้นยังอยู่ระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ย เเละการเจรจาไกล่เกลี่ยนั้นต้องคำนึงถึงคู่ความทั้งสองฝ่าย เมื่อโจทก์ไม่ประนีประนอม ดังนั้นศาลจึงให้จำเลยนำเงินที่มาวางศาลไว้ นำกลับคืนไปได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลฎีกา มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก "นายธาริต" เป็นเวลา 1 ปี โดยไม่มีการรอการลงโทษแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็จะนำตัว อดีต อธ.ดีเอสไอ ไปคุมขังยังเรือนจำเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาต่อไป