รวบ 7 ชาวจีน รับจ้างสอบภาษา

เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 10 ธันวาคม 2561 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการ สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. ,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 ,พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. ,ตำรวจท่องเที่ยว ชุดศปอส.ตร. ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนจำนวน 7 รายที่รับจ้างสอบภาษาแทนบุคคลอื่นโดยใช้หนังสือเดินทางปลอมเพื่อแสดงตนเข้าสอบ โดยจับกุมพร้อมของกลางพาสปอร์ตปลอม 15 เล่ม ซึ่งใช้คะแนนดังกล่าวประเมินการศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 14.00น. วันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ตม. จ.นครปฐม ได้รับแจ้งจากสถาบัน ACT (American College Testing) เป็นการสอบวัดระดับทักษะการสื่อสารสำหรับศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นที่ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา จ.นครปฐม ตรวจสอบพบว่ามีชาวจีนรายหนึ่ง ชำระเงินค่าสอบผ่านบัตรเครดิตให้กับชาวจีนที่เป็นผู้เข้าสอบจำนวน 5 ราย คือ นายหวัง จี่(MR.WANG JIE ) อายุ 27 ปี น.ส.ฮวง ลี่(MS.HUANG LI) อายุ 27 ปี น.ส.หลิน เจี่ย(MS.LIN JIA) อายุ 28 ปี น.ส.เชิน จวน(MS.CHEN JUAN ) อายุ 33 ปี และ นายเหยา ไมเคิล หลี่(MR.YAO MICHAEL LI) สัญชาติอเมริกัน อายุ 30 ปี ซึ่งทั้งหมดไม่สามารถตอบคำถามข้อมูลส่วนตัวตรงตามที่พาสปอร์ตระบุไว้ จึงประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

 

ต่อมา เมื่อสอบถามผู้สอบชาวจีน 5 ราย ได้รับสารภาพว่า พวกตนรับจ้างมาเข้าสอบ เอซีที. แทนผู้สมัครตัวจริง โดยมีเอเย่นต์ในประเทศจีนติดต่อหาลูกค้านักศึกษาชาวจีน พร้อมจัดการหาที่พักพิง ค่าเดินทาง และหนังสือเดินทางปลอมที่มีชื่อ และข้อมูลของผู้สมัครสอบตัวจริง โดยที่รูปในหนังสือเดินทางจะเป็นรูปของผู้รับจ้างมาสอบ จากนั้นเมื่อทำการทดสอบเสร็จ ก็จะนำหนังสือเดินทางปลอมนั้นทิ้งไป ก่อนเดินทางกลับประเทศด้วยหนังสือเดินทางจริง และเมื่อผลสอบออกมาว่าผ่าน พวกตนก็จะได้รับค่าจ้าง 1 หมื่นถึง 2 หมื่นหยวน ตกเป็นเงินไทยราว 4-8 หมื่นบาท

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับประสานจากผู้จัดสอบเอซีที โรงเรียนนานาชาตินิสท์ สุขุมวิท ซ.14 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ว่าได้ทำการตรวจสอบผู้เข้าสอบชาวจีน 2 ราย คือ นายเฮอ หลิน(MR.HE LIU) อายุ 28 ปี และนายฮวง เสี่ยวฟาน(MR.HUANG XIAOFAN) อายุ 39 ปี ไม่สามารถตอบคำถามข้อมูลส่วนตัวตรงตามหนังสือเดินทางเช่นเดียวกัน

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมยังพบว่า นายเฮอ หลิน(MR.HE LIU) มีหนังสือเดินทางปลอมถึง 8 เล่ม โดยรับสารภาพว่า เคยใช้หนังสือเดินทางดังกล่าวไปทำการสอบที่ประเทศ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และอีกหลายประเทศ

 

ทั้งนี้ จากพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำผิดตามลักษณะบุคคลต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 12(7) จึงได้เชิญตัวผู้กระทำผิดทั้ง 7 รายไปทำการบันทึกถ้อยคำ พร้อมยึดหนังสือเดินทางรวมทั้งหมด 15 เล่ม โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม โดยประทับตราของเจ้าพนักงานปลอมฯ” ขณะที่นายเฮอ หลิน ถูกแจ้งเพิ่มอีกข้อหา คือ “มีไว้เพื่อจำหน่ายหนังสือเดินทางปลอม” ก่อนจะเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อไป