ไปไหนไม่ไกล

ไปไหนไม่ไกล

SET Index วานนี้ปรับตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังอัตราพันธบัตรสหรัฐฯเกิดรูปแบบ Invert Yield Curve ซึ่งส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง

รวมทั้งข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่อาจยืดเยื้อออกไป นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง ยังเป็นปัจจัยกดดันต่อกลุ่ม ENERG อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสถาบันยังคงมีสถานะซื้อสุทธิที่ 470.95 ลบ. ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,653.73 จุด (-18.59 จุด) Volume 3.8 หมื่นลบ. จาก Foreign Net -814.97 ลบ. TFEX Net -8,099 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +7,572 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 231,000 ราย

+"วิษณุ" คาดหารือพรรคการเมืองพรุ่งนี้ มีความชัดเจนกำหนดวันเลือกตั้ง

-ดาวโจนส์ปิดลบ 79.40 จุดวิตกข้อพิพาทสหรัฐ-จีนบานปลายหลังจากทางการแคนาดาได้จับกุมตัวผู้บริหารของบริษัทหัวเว่ย

-น้ำมันปิดร่วงจากนักลงทุนผิดหวังหลังจากผลการประชุมโอเปกวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยโอเปกต้องรอจนกว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงกับรัสเซียในวันนี้

-การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 179,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. จากระดับ 225,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

-สหรัฐเผยขาดดุลการค้าพุ่งสู่ระดับ 5.55 หมื่นล้านดอลาร์สูงสุดรอบ 10 ปี และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานร่วงลง 2.1% มากที่สุดรอบกว่า 1 ปี

-ม.หอการค้าฯ เผยปี 61 หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 5.8% ตามค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น

- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. 61 ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ลดลง 3 เดือนติดต่อกัน จากกังวลปัญหานักท่องเที่ยวจีนลดลง ส่งผลต่อรายได้อุตฯท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องขยายตัวน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

+/-ดัชนีภาคบริการ(ISM)ของสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 60.7 สวนทางกับดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐปรับตัวลงสู่ 54.7

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.80 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.83 บาท/US

**7 ธ.ค.โอเปกประชุมกับรัสเซียหารือลดกำลังการผลิต / การนัดหารือแม่น้ำ 5 สายกับพรรคการเมืองชี้แจงภาพรวมเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง**

คาดวันนี้ดัชนีจะเคลื่อนไหว sideway แม้ว่าเพื่อนบ้านจะมีการรีบาวด์แต่ด้วยปัจจัยลบที่ยังคงกดดันจากทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด คาดดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,645-1,665 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

- 11 ธ.ค. เปิดซองราคารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน CK STEC

-  งานมอเตอร์เอ็กซ์โป KKP TISCO TCAP

- Low Beta High Dividend ASK TISCO KKP TOP TKS

- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

 

หุ้นแนะนำพิเศษ

CHO Analyst Meeting ราคาปิด 1.46 บาท มุมมอง “Neutral”

  • โครงการรถ NGV 489 คันกับขสมก.ศาลได้ยกคำฟ้องทำให้สามารถดำเนินการส่งมอบได้ต่อ โดยส่งมอบไปแล้ว 200 คัน และจะส่งมอบอีก 100 คัน ในวันที่ 27 ธ.ค.61 ส่วน 187 คันที่เหลือ จะส่งมอบภายในช่วง 1Q62 ขณะที่ Backlog ปลาย 3Q61 อยู่ที่ 4 พันล้านบาทโดยมาจากงานซ่อมบำรุงรถ NGV ขสมก. งานติดตั้ง E-ticket และงานซ่อมปืนใหญ่ โดยแบ่งรับรู้ในปี 61 เท่ากับ 160.37 ลบ. และทยอยรับรู้ส่วนที่เหลือจนถึงปี 70
  • แผนการเติบโตในอนาคต : 1) มีแผนเปิดศูนย์ซ่อมรถบรรทุก “สิบล้อ 24 ชั่วโมง” อีก 7 แห่งจากในปัจจุบันเปิดดำเนินการแล้ว 1 แห่งที่ชลบุรี 2) ร่วมทุนกับบริษัท ALL S (สัดส่วน 6.25%) โดยมีแผนเปิดให้บริการเช่ารถ London Taxi ซึ่งบริษัทฯ ได้ซื้อไลน์การผลิตจากประเทศจีนซึ่งจะนำมาประกอบในประเทศไทยส่งผลให้ต้นทุนการการประกอบรถลดลงเมื่อเทียบกับการนำเข้า และ 3) โครงการรถรางที่ จ.ขอนแก่น
  • ความเห็น : ถึงแม้บริษัทฯ มีแผนการเติบโตในอนาคต และคลายความกังวลประเด็นโครงการรถ NGV อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลจากบริษัท Macquarie Bank Limited ที่ได้ซื้อหุ้น PP อาจจะขายหุ้นที่ใช้สิทธิการเพิ่มทุนไปแล้วทั้งหมด 26 ล้านหุ้น(คงเหลือการใช้สิทธิอีก 159 ล้านหุ้น) นอกจากนี้บริษัทฯมีการขออนุมัติผู้ถือหุ้นในการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีกไม่เกิน 355 ล้านหุ้นซึ่งจะทำให้เกิด Diluted ต่อ EPS ในอนาคต

CHEWA ราคาปิด 17 บาท “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 1.61 บาท (เตรียมปรับประมาณการเชิงบวก)

         CHEWA ปักหมุดรายได้ปี 2562 แตะระดับ 2,800 ล้านบาท เติบโต 20% ลุยเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่า 15,041 ล้านบาท ส่วนรายได้ปี 2561 เป็นไปตามเป้าหมายที่ 2,400 ล้านบาท แย้มเจรจาพันธมิตรด้านอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หวังรุกขยายฐานแนวราบตลาดภูมิภาค (ที่มา ทันหุ้น)

          ความเห็น : คาดว่ารายได้ปี61-62 จะเป็นไปตามเป้าที่บริษัทฯตั้งไว้ เนื่องจากรายได้ใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ โดยเราคาดรายได้ปี61-62 ราว 2,440 ลบ. และ 2,924 ลบ. ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม กำไร 9M61 อยู่ที่ 244.38 ลบ. สูงกว่าที่เราคาดทั้งปี61 ซึ่งอยู่ที่ 232.4 ลบ. (คิดเป็น 105.2% ของประมาณการปี61) เนื่องจากสามารถควบคุมต้นทุนการผลิต และค่าใช้จ่ายในการบริหารได้ดีขึ้น (เตรียมปรับประมาณการเชิงบวก) แนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว   

·      +ประเด็นบวกกลุ่ม Media กสทช.เร่งเยียวยากลุ่มทีวีดิจิทัลซึ่งเบื้องต้นคาดจะชดเชยให้โดยไม่เก็บค่าใบอนุญาตฯ เป็นจำนวน 2 งวดสุดท้าย (ไม่รวมดอกเบี้ย) ซึ่งคิดเป็นวงเงินรวมประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนผู้ที่ชำระค่าใบอนุญาตฯ ครบหมดแล้ว เช่น ช่อง 7 และ WORK ก็ให้นำมาเบิกคืนไปได้ ในจำนวน 2 งวดสุดท้าย เช่นกัน ขณะที่ค่าเช่าบริการโครงข่ายโทรทัศน์ดิจิทัล (MUX) และค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปก็จะมีการพิจารณาปรับลดราคาค่าเช่าลง คาดสรุปเกณฑ์ชดเชย ก.พ.-มี.ค.62 (ที่มา : IQ)

·      + BTS เปิดทดลองเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ แล้ว พร้อมเดินรถจริง 15 เมษายน 2562 ด้าน "คีรี" พร้อมเจรจากทม.สรุปค่าโดยสารเส้นสีเขียวทั้งเส้น หลัง กทม.ต้องการให้เรียกเก็บไม่เกิน 65 บาท ขณะที่ราคาจริง 140 บาท(ที่มาทันหุ้น)   

·      SISB วันนี้ศาลปกครองนัดไต่สวนกรณี “จุติ” ยื่นฟ้อง ก.ล.ต. ฐานอนุมัติขายหุ้นไอพีโอ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (* บล.โกลเบล็กเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้*)  คำสั่งศาลฯ อาจจะมีผลเชิงลบและเชิงบวกต่อหุ้น SISB อย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ 1) หากศาลฯ มีคำสั่งรับคำฟ้องและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว จะเป็นเชิงลบอย่างหนักต่อราคาหุ้น 2) หากศาลฯ มีคำสั่งรับคำฟ้องแต่ไม่คุ้มครองชั่วคราว จะมีผลเชิงลบแต่ไม่เท่ากรณีแรก 3) หากศาลฯ มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องจะเป็นผลเชิงบวกอย่างมาก(ที่มา ข่าวหุ้น)

·      + BANPU เดินหน้าขยายฐานพลังงานสะอาด เปิดตัว Banpu Power Japan สาขาโตเกียว อย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่า 400 เมกะวัตต์ จากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น ตอกย้ำกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน(ที่มาทันหุ้น)   

·      + PSTC จ่อบุ๊กกำไรพิเศษ 280 ล้านบาท หลังบอร์ดไฟเขียว “BIGGAS” ขายหุ้น TPN จำนวน 8% มูลค่ารวม 450 ล้านบาท ให้ “GLES” ซัพพอร์ตลงทุนโครงการระบบท่อขนส่งน้ำมันฯ ปิดประตูไม่ต้องเพิ่มทุนแน่นอน(ที่มาข่าวหุ้น)

·      + WHAUP (ราคาปิด 12.10  ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 14.46) แจ้งให้ทราบว่าบริษัท ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอ็นจีดี2 ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าที่บริษัทฯถือหุ้นทางอ้อม 35% ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติทางท่อให้แก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมดับเบิลเอชเอ อิสเทิร์นซีบอร์ด 2 โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 198 ลบ. มีความสามารถรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติติดตั้งจำนวน 2 ล้านบีทียูต่อปี (ที่มา :  SET)

·      +RATCH เข้าซื้อหุ้น 50% ใน FRD เข้าร่วมพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำในอินโดฯ มูลค่า 2.69 พันลบ.

·      +รฟท. เผยกลุ่ม BSR-กลุ่มซีพี ผ่านข้อเสนอเทคนิครถไฟเชื่อม 3 สนามบิน