พักตัว

พักตัว

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นแรง ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ยกว่า 2%

หลังจากที่สหรัฐฯ-จีน บรรลุข้อตกลงยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว อีกทั้ง จีนได้ตกลงที่จะลดและยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่กลับทิศปรับตัวขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่ม ENERG นำโดย PTT และ PTTEP ขณะที่นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวานนี้ซื้อสุทธิที่ 9,493.56 ลบ. ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,672.61 จุด (+30.81 จุด) Volume 6.1 หมื่นลบ. จาก Foreign Net +2,676.95 ลบ. TFEX Net +10,598 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ –2,019 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดพุ่งขานรับสหรัฐ-จีนสงบศึกการค้าชั่วคราว

+น้ำมันปิดพุ่งรับสหรัฐ-จีนยุติศึกการค้าชั่วคราว,รัสเซีย-ซาอุฯร่วมมือรักษาเสถียรภาพน้ำมัน

+"ทรัมป์"เผยสหรัฐ-จีน-รัสเซียอาจเปิดการเจรจายุติแข่งขันสร้างอาวุธ

+พาณิชย์ เผย CPI เดือน พ.ย.61 โต 0.94% ส่วน Core CPI โต 0.69%

-สหรัฐเผยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างร่วงลง 0.1%

-ดัชนี PMI ภาคการผลิตยูโรโซนปรับตัวลงสู่ 51.8 ซึ่งขยายตัวต่ำสุดรอบกว่า 2 ปีในเดือนพ.ย.

-FETCO ระบุดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าลดลง ในเกณฑ์ทรงตัว จากความกังวลปัจจัยนอกปท. แม้ในปท.หนุน

+/-ดัชนีภาคการผลิต ISM สหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 59.3 ในเดือนพ.ย. สวนทางกับดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐที่แตะระดับต่ำสุดรอบ 3 เดือนในพ.ย.

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.84 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.74 บาท/US

**จับตาการประชุมครม.พิจารณาอนุมัติมาตรการช็อปช่วยชาติสินค้า 3 รายการ และสรท.แถลงสถานการณ์ส่งออกเดือนพ.ย.

แม้ว่าปัจจัยบวกจะสนับสนุนทั้งการปรับตัวขึ้นดาวโจนส์และราคาน้ำมันแต่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เริ่มมีการพักฐานทำให้ในวันนี้คาดว่าตลาดบ้านเราจะพักตัวด้วย หลังจากที่วานนี้ปรับตัวขึ้นมาแรง คาดดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,685

กลยุทธ์การลงทุน  

- 6 ธ.ค. เปิดซองเทคนิครถไฟเชื่อม 3 สนามบิน CK STEC

-  งานมอเตอร์เอ็กซ์โป KKP TISCO TCAP

- Low Beta High Dividend ASK TISCO KKP TOP TKS

- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- MSCI Global Standard หุ้นเข้า : GULF MTC Small Cap หุ้นเข้า : CBG MBK PRINC

หุ้นแนะนำพิเศษ

KKP (ราคาปิด 72.50 ถือรับเงินปันผล Bloomberg Consensus 81.61)

  • สินเชื่อสุทธิ 10M61 โต 16% ขยายตัวสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร และมีโอกาสเร่งตัวขึ้นในไตรมาสสุดท้ายเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น และได้รับอานิสงส์จากงานมอเตอร์เอ๊กซ์โปและการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์
  • คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นต่อเนื่อง NPL ปลาย 3Q61 เท่ากับ 4.2% ลดลงเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน Coverage ratio เพิ่มขึ้นมาที่ 116%
  • ผลประกอบการไตรมาส 4/61 มีแนวโน้มเติบโตสูงจากงาน IB ทั้ง ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ โอสถสภา และรพ.พระรามเก้า Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 3 พันลบ. +9% IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 6.9%

หุ้นมีข่าว   

·      - SCB (ราคาปิด 141.50 ถือ Bloomberg Consensus 155.86)  : อดีตผถห.WEH ฟ้องศาลอังกฤษกรณี WEH ซึ่งเป็นลูกหนี้ของธนาคารตามข้อกล่าวหาปลอมแปลงใบหุ้น WEH เรียกค่าเสียหายกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีนายณพ ณรงค์เดช ประธานกรรมการ WEH ในฐานะผถห.ใหญ่ เป็นจำเลย และกรรมการ SCB เป็นจำเลยร่วมในการพิจารณาปล่อยกู้ให้กับ WEH

ทั้งนี้หากการเจรจาระหว่าง SCB และ WEH ในฐานะลูกหนี้ไม่เป็นผลสำเร็จ อาจกระทบต่อการชำระดอกเบี้ยของ WEH ที่จ่ายอยู่เดือนละเป็นหลักร้อยล้านบาท และอาจจะกระทบกับมูลหนี้ทั้งหมด (ที่มา อินโฟเควสท์)

ความเห็น เป็นประเด็นที่เพิ่มความกังวลต่อ NPLของธนาคาร เนื่องจากยังมีลูกหนี้ธุรกิจรายอื่นๆที่มีปัญหาสภาพคล่อง ฝ่ายวิจัยแนะนำ ถือ เนื่องจาก SCB เป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจ

·      + TRC รัฐมนตรีคลังหนุนอาเซียนโปแตชชัยภูมิ หรือ APOT เร่งหาบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจเข้าร่วมทุนแทนคลัง ตามสัญญาความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน ด้านทีอาร์ซีมั่นใจได้ลงนามสัญญารับเหมาก่อสร้าง (ที่มาข่าวหุ้น)

·      + SYNTEC บอร์ดมีมติซื้อหุ้นคืนจำนวน 60 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.76% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว วงเงิน 200 ล้านบาท โดยจะซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดฯ ระหว่าง 17 ธ.ค. 2561 - 16 มิ.ย. 2562

·      + BPP (ราคาปิด 24.30 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 27.36) เผยโรงไฟฟ้านาริไอสึ ที่ญี่ปุ่น กำลังการผลิต 20.46 เมกะวัตต์ เริ่ม COD แล้ว ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 358.76 เมกะวัตต์ ขณะที่เดินหน้าหาการลงทุนใหม่ๆ ต่อเนื่อง ตั้งเป้ามีกำลังการผลิต 4300 เมกะวัตต์(ที่มา : ทันหุ้น)

·      + EA (ราคาปิด 50.00 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 63.00) เล็งศึกษาลงทุนพลังงานในเวียดนาม กำลังการผลิตไม่เกิน 100 เมกะวัตต์ คาดสรุปได้ต้นปีหน้า ดันผลงานนิวไฮต่อเนื่องจากปีนี้ พร้อมเดินหน้าจ่ายไฟฟ้าโครงการลมหนุมาน 260 เมกะวัตต์ เต็มสูบ คาด COD ครบ 260 เมกะวัตต์ในไตรมาส 1/2562 หนุนกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 664 เมกะวัตต์ ขณะที่ตั้งงบลงทุน 2.6 หมื่นล้านบาท ใช้ลงทุนในช่วง 2 ปี (2561-2562) (ที่มา : ทันหุ้น)

·      ประเด็นบวกรับเหมา ผู้ว่า รฟม. คาดเปิดประมูล PPP โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม 1.4 แสนลบ. ราวก.พ.-มี.ค.62 เลื่อนจากแผน ธ.ค.61

·      BTS ยอมแบกหนี้กว่าแสนล้านแทนกทม. แลกสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสีเขียว 2 เส้น(ใต้และเหนือ) โดย กทม.จะให้สัมปทาน 24 ปี เพื่อให้หมดสัญญาพร้อมกับรถไฟฟ้าสายเดิม (สีลม สุขุมวิท ส่วนต่อขยายช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และตากสิน-บางหว้า) ในปี 2585 และผู้รับงานต้องชำระหนี้ให้หมดในช่วง 10 ปีแรก หรือภายในปี 2572 จากนั้นตั้งแต่ปีที่ 11 ก็จะต้องแบ่งผลประโยชน์ให้ กทม.(ที่มา ข่าวหุ้น)