เตรียมขึ้นทดสอบแนวต้านแรกที่ 1660-1670 จุด หลังมีปัจจัยหนุนรอบด้าน

ซึ่งมีกำหนดเรียกเก็บในวันที่ 1 ม.ค.62 ออกไปอีกเป็นเวลา 90 วัน เพื่อเปิดทางการเจรจาในส่วนที่เหลือ ประกอบกับการบรรลุข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ของทางสหรัฐฯกับแคนาดา-เม็กซิโก เป็นปัจจัยที่ช่วยคลายแรงกดดันเรื่องการค้าโลกต่อภาพรวมการลงทุนของสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น-กลาง และคาดหนุนราคาหุ้นโลกฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (EMs) ที่ได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการอ่อนตัวของค่าเงินเหรียญฯและผลตอบแทนพันธบัตรตามอัตราเร่งของการขึ้นดอกเบี้ยเฟดที่ลดลงในปีหน้า

สำหรับตลาดหุ้นไทย พัฒนาการเชิงบวกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ประกอบกับแรงซื้อจากกองทุน LTF/RMF ช่วงปลายปีและกรอบเวลาการเลือกตั้งที่ชัดเจน โดยในสัปดาห์นี้จะมีการหารือเพื่อปลดล็อคพรรคการเมือง (7 ธ.ค.) คาดช่วยหนุนความเชื่อมั่นภายในและสร้างบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกต่อเนื่องจนถึงต้นปีหน้า (Election rally+January effect) ประเมินดัชนีขึ้นทดสอบแนวต้านแรกที่ระดับ 1660-1670 จุด หากผ่านจะมีโอกาสยกตัวขึ้นทดสอบ 1720 จุด เรามองเป็นจังหวะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP, IRPC, BCP // ธนาคาร BBL, KBANK, KTB // รับเหมาฯ STEC // ค้าปลีก CPALL, ROBINS; รวมถึงหุ้นที่ราคาปรับลงมามาก (ลุ้นรีบาวน์) อาทิ BANPU, ADVANC, INTUCH

Investment Theme หุ้นใหญ่และกลุ่มหุ้นเลือกตั้ง BBL, KTB, STEC, CPALL, AMATA/ หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, DTC*, EASTW*, AEONTS* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล TPCH*, TPIPP*, CPNREIT*, JASIF*, PSH, SPF*, EA*, BCPG / หุ้นพลังงาน ทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว PTT, PTTEP

ภาพรวมกลยุทธ์: คาดฟื้นตัวขึ้นทดสอบ 1660-1670 จุด หลังปัจจัยการลงทุนทั้งภายใน-นอก ปรับสู่เชิงบวก โดยเน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่คาดเป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบันและเงินลงทุนใน LTF/RMF รวมถึงหุ้นที่ราคาปรับลงมามาก // หุ้นแนะนำวันนี้ PTT, PTTEP, KBANK, BBL /เก็งกำไร BANPU (เป้า 20 ตัดขาดทุน 16), ADVANC* (เป้า 190 ตัดขาดทุน 174)

แนวรับ 1624 / แนวต้าน : 1660-1670 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

ประเด็นการลงทุน

ทรัมป์-สี จิ้นผิง เลื่อนเวลาขึ้นภาษีออกไป 90 วัน – ทรัมป์-สี จิ้นผิงเห็นพ้องกันให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกไป 90 วัน จากเดิมในวันที่ 1 ม.ค.2562 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกันต่อไป

ธปท.ยังคงประมาณการ GDP 4-4.4% – ธปท.เผย ศก. ไทยมีสัญญาณชะลอตัวจากประเมินครั้งก่อน รอดู 2 เดือนสุดท้าย แต่คาดทั้งปีอยู่ในกรอบ 4-4.4%

รัสเซียเผยยืดหยุ่นได้ขึ้นอยู่กับผลประชุมโอเปก – รัสเซีย เผย จะคงระดับกรผลิตน้ำมันดิบปีหน้าเท่ากับปีนี้ อย่างไรก็ตามมีการส่งสัญญาณสามารถยืดหยุ่นได้ขึ้นอยู่กับการเจรจาของกลุ่มโอเปก-นอนโอเปก ในการประชุมวันที่ 6 ธ.ค.นี้

 

ประเด็นติดตาม: 3 ธ.ค. – ตัวเลขเงินเฟ้อไทย เดือน พ.ย. / 6 ธ.ค. – ประชุม OPEC, ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ, FED Beige book / 7 ธ.ค. – หารือปลดล็อคพรรคการเมือง, EU GDP 3Q18

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)