เล่นในกรอบ

เล่นในกรอบ

SET Index วานนี้ในช่วงเช้าสามารถปรับตัวขึ้นได้ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค แต่ถูกแรงขายออกมาในช่วงบ่าย ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง

โดยปัจจัยกดดันหลักยังคงเป็นราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในสัปดาห์นี้ โดยวานนี้ซื้อสุทธิที่ 1,872.29 ลบ. ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,636.49 จุด (-4.14 จุด) Volume 3.6 หมื่นลบ. จาก Foreign Net          -579.66 ลบ. TFEX Net 7,783 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +3,482 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ราคาน้ำมันฟื้นตัวแรงหลังจากรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวรายงานว่ารัสเซียกำลังเพิ่มความพยายามโน้มน้าวสมาชิกโอเปกให้เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องลดกำลังผลิต

+สหรัฐเผยการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่ง 0.6% สูงสุดรอบ 7 เดือนในต.ค. และดัชนี PCE พื้นฐานรายปีเพิ่มขึ้น 1.8% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ 2%

+หอการค้า ลุ้น GDP ไตรมาส 4/61 โต 3.5-4% หนุนทั้งปีโตได้ 4-4.2% ตามเป้า รอดูสัญญาณศก.ช่วงที่เหลือ

-ดาวโจนส์ลดลงหลังนักลงทุนวิเคราะห์คำแถลงของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ตีความหมายว่าธนาคารกลางแห่งนี้อาจไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปมากกว่านี้ ปรับเปลี่ยนจากท่าทีที่ดูแข็งกร้าวก่อนหน้า

-สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการเพิ่มขึ้น 10,000 รายสู่ระดับ 234,00 รายสูงสุดรอบ 6 เดือน และดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลง 2.6%

-ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจีนเดือนพ.ย. ชะลอตัวลงสู่ระดับ 50 และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการชะลอตัวลงสู่ 53.4

-"ทรัมป์"พูดเป็นปริศนา "ใกล้ทำบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับการค้ากับจีน"

-แบงก์ชาติอังกฤษออกรายงานเตือนเศรษฐกิจอังกฤษเสี่ยงหดตัวรุนแรงหากถอนตัวจาก EU แบบไร้ข้อตกลง

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.88 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.91 บาท/US

*จับตา 30 พ.ย.-1 ธ.ค.ประชุมกลุ่ม G20 ซึ่งปธน.สหรัฐและจีนจะพบปะกันนอกรอบ

Fund Flow นักลงทุนต่างชาติที่ยังคงมีสถานะขายแต่นักลงทุนสถาบันยังมีแรงซื้อหนุน ทำให้เราคาดว่าดัชนีจะยังไม่มีทิศทางชัดเจน อีกทั้งนักลงทุนรอดูผลการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนในการประชุม G20 ในสุดสัปดาห์ทำให้ในวันนี้คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,629-1,651

กลยุทธ์การลงทุน  

- มาตรการช็อปช่วยชาติ SE-ED GYT IRC HFT NDR

- งานมอเตอร์เอ็กซ์โป KKP TISCO TCAP

- Low Beta High Dividend ASK TISCO KKP SPRC TOP TKS

- เงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.91 หนุนกลุ่มส่งออก CPF SVI XO

- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- MSCI Global Standard หุ้นเข้า : GULF MTC Small Cap หุ้นเข้า : CBG MBK PRINC

หุ้นแนะนำพิเศษ

XO Analyst Meeting (ราคาปิด 12.10 ซื้อ ราคาเหมาะสม 13.00)

  • รายงานกำไร 3Q61 ที่ 67 ล้านบาท +56%QoQ และ+252%YoY และสูงกว่าที่เราคาดไว้ 39% โดยรายได้เติบโต 34%YoY สู่ระดับ 301 ล้านบาทซึ่งทำจุดสูงสุดใหม่จากการขยายตลาดสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องและการเริ่มปรับขึ้นราคาในไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นสู่ 39% จาก 37% ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาจากต้นทุนน้ำตาล พริก และกระเทียมที่ลดลง ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวลง 5 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนสู่ 47 ล้านบาท โดยกำไร 9M61 ที่ 157 ล้านบาท+218%YoY คิดเป็น 86% ของประมาณ
  • ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี62-64 เติบโตเฉลี่ย 10-15% ต่อปี(เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ 10%) อีกทั้ง มีปัจจัยบวกหลังจากที่ บริษัทฯ สามารถขยายระยะเวลาล็อคต้นทุนวัตถุดิบ ได้แก่ น้ำตาล(สัดส่วน 13% ของต้นทุน) และกระเทียม(สัดส่วน 5% ของต้นทุน) ได้ถึงช่วง 1H63 และ 2H63 ตามลำดับ จากเดิมที่สามารถล็อคได้ถึงแค่ 1H62 ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 39-40% นอกจากนี้ช่วงต้นปี62 จะทำการย้ายฐานการผลิตบางส่วนมายังโรงงานแห่งใหม่ซึ่งจะได้รับผลประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม
  • ความเห็น แนวโน้ม Q4 เราคาดว่ารายได้จะใกล้เคียง 3Q61 ขณะที่อัตรากำไรขึ้นต้นจะยังทรงตัวในระดับสูงที่ 39-40% แต่คาดว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะปรับตัวขึ้นเนื่องจากมีการจ่ายโบนัสและค่าคอมมิชชั่น โดยเราคาดว่ากำไรจะเติบโต YoY แต่อาจอ่อนตัว QoQ ขณะที่เรามีมุมมองในระยะยาวเนื่องจากผลประกอบการปี 62-63 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากการล็อคต้นทุนวัตถุดิบไว้แล้วและการใช้กำลังการผลิตได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

หุ้นมีข่าว   

·      PACE ชี้แจงแนวทางแก้ไขเครื่องหมาย C ว่ามี 2 แนวทาง 1) สร้างกำไรจากธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจอาหารร้าน Dean & Deluca 2) ปรับโครงสร้างทางการเงินด้วยการลดทุน/เพิ่มทุน ในส่วนของธุรกิจอสังหาฯ 4Q61 จะโอนต่อเนื่องโครงการมหาสมุทรที่มี backlog ราว 500 ลบ. กลางปี 62 จะเริ่มโอนโครงการนิมิตหลังสวน มูลค่า 8 พันลบ. ขายแล้ว 91% และโครงการวินด์เชลล์-นราธิวาส มูลค่า 3 พันลบ. ขายแล้ว 28% สำหรับธุรกิจร้านอาหาร Dean & Deluca ปัจจุบันมี 75 สาขา บริษัมทีแผนขยายสาขาในตปท.ผ่านระบบแฟรนไชล์ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้เงินลงทุนต่ำและใช้ประโยชน์สูงสุดจากมูลค่าแบรนด์ รวมทั้งหาช่องทางการจำหน่ายอื่นๆเพื่อเพิ่มรายได้

·      งวด 3Q61 ขาดทุน 971 ลบ.เพิ่มขึ้น 38%YoY งวด 9M61 ขาดทุน 4.97 พันลบ.พลิกจากกำไร 2.38 พันลบ.ในงวด 9M60 ณ ปลายงวด 3Q61 ส่วนของผู้ถือหุ้น เท่ากับ 1,432 ลบ. -37%YTD โดยมีสัดส่วนลดลงเหลือ 12% ของทุนชำระแล้ว จาก 20% ณ ปลายงวด 2Q61 ปัจจุบันมีผลขาดทุนสะสม 9.8 พันลบ.  D/E Ratio 14 เท่าเพิ่มขึ้นจากปี 60 ที่ 13.3 เท่า แนะนำ ชะลอลงทุน

·      + AOT (ราคาปิด64.75 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 72.01 ) รายงานกำไรสุทธิปี 61 อยู่ที่ 25,170 ลบ. +22%YoY จากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นราว 10% โดยมีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นราว 6% และจำนวนผู้โดยสารรวมเพิ่มขึ้นราว 8% สวนทางกับค่าใช้จ่ายรวมที่เพิ่มขึ้นเพียง 2% ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปี 60 ที่ 47% สู่ 51% และอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 60 ที่ 36% สู่ 40%

·      + TIGER ได้งานรับเหมาก่อสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ ไทรม้า เฟส 2 มูลค่า 147 ลบ.รับรู้รายได้ใน Q4/61

·      + JKN คาดเริ่มออกอากาศช่อง CNBC ใน Q2/62 พร้อมรุกธุรกิจผลิตคอนเทนท์ป้อนทีวีดิจิทัล,ยกเลิกดีลซื้อหุ้นช่อง Money Channel

·      + ITD ได้งานโครงการท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลวหนองแฟบที่ระยอง 5.3 พันลบ.

·      +/- SISB เลขา ปชป.เรียกร้อง รมว.ศึกษาฯ ร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องระงับการซื้อขายหุ้น SISB ขณะที่ก.ล.ต.แจงสอบถาม สช.ก่อนอนุญาต SISB ขายหุ้น IPO ยันหนังสือชี้ชวนระบุไม่แสวงหาผลกำไรสูงสุด ทั้งนี้ศาลปกครองออกหมายนัดก.ล.ต. มาไต่สวนทำคำชี้แจงใน วันที่ 7 ธ.ค. 2561 (บล.โกลเบล็กเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในการจัดจำหน่าย)

·      + CPF (ราคาปิด 25.25 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 30.46 ) เข้าซื้อกิจการธุรกิจผลิตพิซซ่าแช่แข็งและทานเล่นในตลาดอเมริกาเหนือ มูลค่า 515 ลบ. (ที่มา : IQ)

·      ก.คลังเตรียมเสนอค.ร.ม.อนุมัติโครงการช็อปช่วยชาติภายใน 4 ธ.ค.โดยจะเปิดให้ประชาชนซื้อสินค้า 3 กลุ่มหลัก (ยืนยันไม่ขยายขอบเขตสินค้า) เพื่อนำใบเสร็จมายื่นหักลดหย่อนภาษี เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนเสพติดการออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายท้ายปี ทำให้การซื้อขายหยุดชะงัก รายการสินค้าได้แก่ ยางรถยนต์ผลิตในประเทศไทย สินค้าOTOP และหน้งสือ+E-book