สภาพัฒน์ เผยตัวเลขจ้างงานไตรมาส3โต1.7%

สภาพัฒน์ เผยตัวเลขจ้างงานไตรมาส3โต1.7%

สภาพัฒน์ เปิดตัวเลขการจ้างงาน ไตรมาส3/61 ขยายตัวในรอบ 3 ปี โต 1.7% ห่วงหนี้ครัวเรือนขยายตัวต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 29 พ.ย.61 นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช)เปิด เผยรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส3/2561 ว่า สถานการณ์การจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.7% โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งภาคเกษตรและนอกภาคเกษตรเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ไตรมาส โดยภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1.9% และภาคนอกเกษตรเพิ่มขึ้น 1.6% เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน และขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี เป็นผลจากเศรษฐกิจขยายตัวโดยเฉพาะ สาขาการขนส่งและเก็บสินค้าเพิ่มขึ้น 10.7% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557, สาขาโรงแรมและภัตตาคารเพิ่มขึ้น 3.0%, สาขาผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2.8% ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3, สาขาการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 2.6 % ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี และสาขาการขนส่ง การขายปลีก เพิ่มขึ้น 0.9

อย่างไรก็ตาม ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 1.2% ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/60 โดยลดลงทั้งผู้ว่างงานที่เคยทำงานและที่ไม่เคยทำงาน 11.5% และ 22.2 % ตามลำดับ โดยะเมื่อพิจารณาการว่างงานตามระดับการศึกษา พบว่า อัตราว่างงานลดลงทุกระดับการศึกษา แต่ผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษามีอัตราว่างงานสูงกว่าระดับการศึกษาอื่น

นายทศพร กล่าวถึงแนวโน้มการจ้างงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 61 สถานการณ์การจ้างงานและตลาดแรงงานมีแนวโน้มในทิศทางที่ดี ตามแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความผ่อนคลายของแรงกดดันต่อการส่งออกและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าต่างๆ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ต.ค.ที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์สูง

สำหรับแนวโน้มหนี้ครัวเรือนยังขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาส 3/61 ยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคในส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ ขยายตัว 8.4% ส่วนความสามารถในการชำระหนี้เมื่อพิจารณาสัดส่วนหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่ไม่ก่อเกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจาก 2.72% ในไตรมาส 2/61 เป็น 2.73% ในไตรมาสนี้ แต่ยังไม่มีสัญญาณปัญหาการชำระหนี้ โดยการผิดนัดชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อบัตรเครดิตยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน โดยยอดสินเชื่อผิดนัดชำระเกิน 3 เดือนขึ้นไปของสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ เพิ่มขึ้น 9.7% ขณะที่ยอดสินเชื่อผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือนขึ้นไปของสินเชื่อบัตรเครดิตลดลง 0.2 %