รมว.พม. ชื่นชมเด็กสาวอำนาจเจริญ รับจ้างหาเลี้ยงย่าชรา

รมว.พม. ชื่นชมเด็กสาวอำนาจเจริญ รับจ้างหาเลี้ยงย่าชรา

รมว.พม. ชื่นชมเด็กสาวยอดกตัญญู รับจ้างทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงินเลี้ยงย่าแก่ชรา ที่ จ.อำนาจเจริญ พร้อมกำชับทีม พม. One Home จ.อุตรดิตถ์ เร่งช่วยเหลือเด็กสาวที่ถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายร่างกาย

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 61 เวลา 08.30 น. พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 141/2561 พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

พลเอก อนันตพร กล่าวว่า จากกรณีเด็กสาววัย 16 ปี ที่พ่อและแม่แยกทางกัน ต้องรับภาระเพียงลำพังในการดูแล ย่าแก่ชราวัย 80 ปี ที่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง โดยต้องรับจ้างทำงานทุกอย่างและร้อยพวงมาลัยขาย เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว และเป็นทุนการศึกษา ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดอำนาจเจริญ นั้น ตนขอชื่นชมในความขยันหมั่นเพียร ที่ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากและอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ซึ่งน่ายกย่องเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ทั้งนี้ ได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอำนาจเจริญ (พมจ.อำนาจเจริญ) พร้อมทีม พม. One Home จังหวัดอำนาจเจริญ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือ ในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กและผู้สูงอายุ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และอุปกรณ์การศึกษา อีกทั้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการสนับสนุนการศึกษาของเด็กสาวอย่างต่อเนื่อง และการรักษาพยาบาลของหญิงชราอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อขอรับสิทธิสวัสดิการที่พึงได้รับตามกฎหมาย และการประกอบอาชีพเพื่อ สร้างรายได้ที่มั่นคงในระยาว

พลเอก อนันตพร กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีหญิงวัย 53 ปี พิการทางแขนและนิ้ว และพูดไม่ชัด ได้พาลูกสาววัย 13 ปี ที่สมองมีพัฒนาการช้า เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ลูกสาวถูกสามีใหม่ของตนเองบังคับข่มขืนกระทำชำเรา และทำร้ายร่างกายตนเองและลูกสาวเป็นประจำในขณะมีอาการมึนเมา ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ นั้น ได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุตรดิตถ์ (พมจ.อุตรดิตถ์) พร้อมทีม พม. One Home จังหวัดอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อีกทั้งเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กหญิงคนดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและให้การคุ้มครองช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 อีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการตรวจสุขภาพและรักษาพยาบาลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการติดตามการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

"ทั้งนี้ สำหรับกรณีเด็กหญิงวัย 13 ปี ถูกบังคับข่มขืนกระทำชำเราและทำร้ายร่างกาย ที่มีการนำเสนอผ่านสื่อมวลชน นับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญในสังคมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องเร่งป้องกันและแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ด้วยความร่วมมืออย่างเข้มแข็งของภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และสังคม โดยเฉพาะครอบครัว ชุมชน และโรงเรียน สำหรับเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็น "เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี” ทาง กระทรวง พม. จึงขอฝากให้หน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมกันรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัว และความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ ด้วยการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ ปลูกจิตสำนึก และปรับเจตคติของคนในสังคม ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและท้องถิ่นในการเฝ้าระวังป้องกันการกระทำความรุนแรงในทุกรูปแบบ หากพบการกระทำความรุนแรงเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัว และความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ สามารถโทรแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 บริการฟรี 24 ชั่วโมง โดยกระทรวง พม. พร้อมประสานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่” พลเอก อนันตพร กล่าวในตอนท้าย