จี้สปส.จ่ายเงินทายาทสาวถูกน้ำกรดสาด 4 แสนบาท

จี้สปส.จ่ายเงินทายาทสาวถูกน้ำกรดสาด 4 แสนบาท

เอ็นจีโอ ระบุสปส.ต้องจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นทายาทสาวถูกสาดน้ำกรด 4 แสนบาท ตาม ม.63(7) พรบ.ประกันสังคมปี 58 ระบุชัดต้องช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นกรณีเกิดความเสียหายจากการรับบริการทางการแพย์เหมือนบัตรทอง

น.ส.สุภัทรา นาคะผิว ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ กล่าวถึงกรณีที่หญิงถูกสาดน้ำกรดเข้ารับการรักษาที่รพ.พระราม 2 และเสียชีวิตขณะเดินทางไปรักษาที่รพ.แห่งที่2ว่า กรณีนี้เข้าข่ายที่ทายาทของสาวที่ถูกสาดน้ำกรดจะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากการได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการเป็นแพทย์ จำนวน 4 แสนบาท ซึ่งเป็นตามข้อกำหนดในมาตรา63(7) พรบ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 ที่ระบุว่าประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจาก การทํางาน (๗) ค่าใช้จ่ายเป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตน ในกรณีที่ผู้ประกันตนได้รับความเสียหาย จากการรับบริการทางการแพทย์ เมื่อสํานักงานได้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนไปแล้ว ให้สํานักงานมีสิทธิไล่เบี้ยแก่ผู้กระทําผิดได้

“จริงๆแล้วกรณีนี้สำนักงานประกันสังคม(สปส.) จะตั้องทำงานเชิงรุกด้วยการนำเงินจำนวน 4 แสนบาทไปมอบให้กับทายาทของสาวที่ถูกสาดน้ำกรดและเสียชีวิต แต่ที่ผ่านมาไม่เห็นว่าสปส.จะดำเนินการอะไร และการได้รับเงินช่วยเหลือนี้เชื่อว่ายังมีผู้ประกันตนอีกจำนวนมากที่ยังไม่รับร็สิทธิ์ในเรื่องนี้ ทั้งที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2558 แต่สปส.เพิ่งจะออกประกาศคณะกรรมการการแพย์ตามพรบ.ประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพย์ ที่ลงนามโดยนพ.ชาตรี บานชื่น ประธานกรรมการกาแพทย์ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2561 และมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนม.ค.2561 แต่ให้มีผลย้อนหลังไปถึงปี 2558 ด้วย” น.ส.สุภัทรากล่าว

น.ส.สุภัทรา กล่าวอีกว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีของประกันสังคมเป็นเช่นเดียวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ได้รับความเสีหายจากการรับบริการทางการแพทย์ของสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง โดยในประกาศกำหนดไว้ให้จ่ายเงิน ดังนี้ การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้จ่ายให้แก่ผู้ประกันหรือกรณีที่ผู้ประกันตนเสียชีวิตให้เฉลี่ยจ่ายให้แก่สามีภรรญา บิดามารดา บุตร ซึ่งประเภทความเสียหายแบ่งเป็น 1. เสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร จ่ายตั้งแต่ 240,000-400,000 บาท 2.สูญเสียอวัยวะหรือพิการที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต จ่ายตั้งแต่ 100,000-240,000 บาท และ3.บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไม่เกิน 100,000 บาท