อ่อนตัว

อ่อนตัว

SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบตลอดวัน และปิดบวกเล็กน้อยด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง

โดยมีปัจจัยบวกลบสลับกันได้แก่ ประเด็นบวกในเรื่องสงครามการค้าที่จีนแสดงถึงความตั้งใจที่จะเปิดกว้างทางการค้า แต่มีปัจจัยลบจากตัวเลข GDP ไตรมาส 3/61 ของสภาพัฒน์ เผย โตเพียง 3.3% ชะลอตามอุปสงค์ต่างประเทศ คาดปี 62 โต 3.5-4.5% ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,636.48 จุด (+1.48 จุด) Volume 2.9 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  +469.51 ลบ. TFEX Net +3,169 สัญญาตราสารหนี้ -903 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+น้ำมันปรับตัวขึ้นหลังอียูสนับสนุนรัฐบาลฝรั่งเศสคว่ำบาตรพลเมืองอิหร่านที่เกี่ยวข้องกับแผนวางระเบิด นอกจากนี้การประชุมโอเปกเดือนหน้าลุ้นปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม

+ธปท. คาดศก.ไทย Q4/61 จะเติบโตดีกว่า Q3 สอดคล้องกับ"สมคิด"มั่นใจ GDP ทั้งปีนี้ยังโตถึง 4% ลุ้นท่องเที่ยวฟื้น-ใช้จ่ายภาครัฐเข้าเป้า

+ BOI คลอดมาตรการชุดใหญ่เร่งรัดลงทุนปี 62 เน้นโครงการใหญ่-ศก.ฐานราก-เมืองอัจฉริยะ พร้อมดันธุรกิจเข้าตลาดหุ้น

-ดาวโจนส์ ลดลง 395.78 จุด ขยับลงตามแรงฉุดของแอปเปิลหลังวอลล์สรีทเจอร์นัลรายงานว่าช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผานมา แอปเปิล ปรับลดคำสั่งผลิต iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่น

-สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงต่ำสุดรอบกว่า 2 ปีในเดือนพ.ย.

-ประธานเฟดนิวยอร์กส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

-สภาพัฒน์ เผย GDP ไตรมาส 3/61 โต 3.3% ชะลอตามอุปสงค์ต่างประเทศ คาดปี 62 โต 3.5-4.5%

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.78 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.92 บาท/US

*จับตา 21 พ.ย. กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ถูกกดดันจากความกังวล FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า  เพิ่มเติมจากเรื่องสงครามการค้าโลกระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังตกลงกันไม่ได้ รวมทั้ง Fund flow ไหลออก โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันบวกต่อและความคาดหวังว่าเศรษฐกิจประเทศไทยไตรมาสสุดท้ายจะฟื้นตัวจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ  1,625 -1,645 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

- หุ้นแนะนำประจำเดือน พ.ย. AUCT XO KKP

-Low Beta High Dividend ASK TISCO KKP SPRC TOP TKS

-เงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.92 หนุนกลุ่มส่งออก CPF SVI XO

-หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- MSCI Global Standard หุ้นเข้า : GULF MTC Small Cap หุ้นเข้า : CBG MBK PRINC

หุ้นแนะนำพิเศษ

JKN Analyst Meeting (ราคาปิด 11.30 แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่างการปรับประมาณการเชิงบวก)

  • ผบห.ได้พูดถึงประเด็นความกังวลเรื่องการชำระหนี้ของลูกหนี้การค้า บริษัทมีมาตรการที่จะรับเป็นเช็คล่วงหน้าหรือเงินสดวางมัดจำก่อนส่งมอบคอนเทนต์ชุดใหม่ให้กับลูกค้า ทำให้มีเงินสดชำระเข้ามามากในช่วง 4Q61 ทั้งนี้รายการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 6 ล้านบาทในงวด 3Q61 ได้มีการชำระเข้ามาแล้วในเดือนพ.ย.
  • ในด้านของผลการดำเนินงาน รายได้ปี 61 มีโอกาสเติบโตตามเป้า 20% ปลายงวด 3Q61 มี Backlog ในมือราว 335 ลบ. บริษัทยังสามารถขายคอนเทนต์เพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่องอานิสงส์จากการโรดโชว์ 3 ครั้งในเดือนมี.ค. มิ.ย. และต.ค. ซึ่งเหลืออีก 1 ครั้งในเดือนธ.ค. (งาน ATF ที่ประเทศสิงคโปร์) ส่งผลให้ผลประกอบการในช่วง 4Q61 มีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดดและสูงสุดรายไตรมาสเนื่องจากฐานที่ต่ำในช่วง 4Q60 และแนวโน้มผลประกอบการปี 62 คาดจะสามารถสร้างอัตรากำไรที่สูงขึ้น (9M61 มีอัตรากำไรขั้นต้น 40%) จากรายได้ที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่าค่าตัดจำหน่ายสิทธิ์ พร้อมทั้งมีปัจจัยหนุนจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายคอนเทนต์ให้กับ BEC ไปยังต่างประเทศด้วย โดยมีแผนโรดโชว์ 7 ครั้งในปี 62
  • ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพการเติบโตในอนาคตและอยู่ระหว่างปรับประมาณการเชิงบวกจากที่คาดการณ์กำไรปี 61 ราว 225 ลบ. เติบโต 20%YoY 9M61 มีกำไร 181 ลบ. คิดเป็น 80% ของประมาณการทั้งปี

  • CHO อวดโปรเจ็กต์ในมือเพียบ จับตาส่งมอบรถเมลล็อตสุดท้ายไม่เกินมีนาคม 2562 ส่วนธุรกิจปกติคาดโต 5-10% เชื่อผลงานปี 2562 โตก้าวกระโดด ส่งซิกแนวโน้มรายได้ปี 2561 เข้าเป้า 20% ชัวร์ (ที่มา ทันหุ้น)
  • S ยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต. เตรียมเปิดตัวทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท หรือ "SPRIME" เข้าลงทุนครั้งแรกในสิทธิการเช่าอาคารสำนักงานซันทาวเวอร์ส เป็นระยะเวลา 30 ปี บนทำเลจุดเชื่อมต่อทางธุรกิจแห่งอนาคตของประเทศไทย

หุ้นมีข่าว   

·         +PTTEP (ราคาปิด 132.50 Bloomberg Consensus 161.27) มั่นใจชนะประมูล “เอราวัณ-บงกช” ลั่นรู้ผลภายในธ.ค.นี้ ตุนเงินสดแสนล้านบาทพร้อมลงทุน กางแผนเข้าซื้อหุ้นในโครงการโมซัมบิกเพิ่ม เสริมโอกาสเติบโตระยะยาว (ที่มาข่าวหุ้น)

·         +SSP (ราคาปิด 7.80 ซื้อ ราคาเหมาะสม 11.20)  คาดรายได้ปี 62 โตไม่ต่ำกว่า 20% กำไรสุทธินิวไฮต่อเนื่อง จาก COD จากสิ้นปีนี้คาดจะอยู่ที่ 90  MW เพิ่มเป็น 157 MW นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่มเติมอีก ทั้งพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นไปได้ทั้งการเข้าร่วมลงทุน และการพัฒนาโครงการด้วยตนเอง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้ในปี 62 อย่างน้อย 1 ดีล (ที่มา : IQ)

·         BA มีแผนจับมือพันธมิตรจากยุโรปที่มีความชำนาญด้านธุรกิจดิวตี้ฟรีจำนวน 1-2 ราย ประมูลสัมปทานบริหารพื้นที่ดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ และมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออก และท่าอากาศยานอู่ตะเภา ในเขต EEC โดยมีทั้งงานอาคารผู้โดยสาร ลานจอดภาคพื้น เขตฟรีโซน คลังสินค้า เป็นต้น พร้อมทั้งมีแผนที่จะลงทุนในศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา (ที่มา : IQ)

·         ประเด็นบวกหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม : BOI เผยยอดขอส่งเสริมการลงทุน 9 เดือนโต 10% ที่ 3.77 แสนล้านบาท พร้อมอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 3 โครงการใหม่ เงินลงทุนรวมกว่า 21,774.6 ล้านบาท "ROJNA-WHA-AMATA" โดดรับอานิสงส์ ขณะที่ WHA ตั้งเป้ารายได้ปี 2562 โต 10% มียอดขายที่ดินทั้งในและต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 1.1 พันไร่ พร้อมอัดฉีดงบลงทุนกว่า 6.6 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

·         ประเด็นบวกกลุ่มสื่อสาร : “กสทช.” ชงบอร์ดอนุมัติ ADVANC-TRUE ทดสอบ 5G บนคลื่น 26 GHz วันที่ 22 พ.ย.นี้ ดีเดย์ทดสอบที่เอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์ ตั้งแต่ 22 พ.ย.-15 ธ.ค.นี้

·         BGC คาดรายได้ปี 62 โตหลักเดียว หลังรับแรงกดดันศก. ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นดี และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงโดยเฉพาะนทท.จีนส่งผลกระทบต่อการสั่งผลิตขวดแก้วที่ลูกค้าสั่งกับบริษัท ทำให้รายได้ของบริษัทในช่วงตั้งแต่ไตรมาส 3/61 ไปจนถึงปี 62 อาจจะยังโตได้ไม่มากนัก ทำให้บริษัทปรับแผนโดยการตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ตปท.เป็น 10% จากการขายไปยังลูกค้าในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะเวียดนาม บริษัทเบียร์รายใหญ่ในออสเตรเลีย คือ Lion Beer   อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าในประเทศอินเดียที่มีศักยภาพในการบริโภคเครื่องดื่มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนประชากรเป็นจำนวนมาก (ที่มา : IQ)