กลยุทธ์เลี้ยงกระแส 'พปชร.' มีผลต่อ 'คะแนนกาบัตร'
ผ่านมาประมาณหนึ่งสัปดาห์ สำหรับการเปิดรับสมัครสมาชิก "พรรคพลังประชารัฐ" ตั้งแต่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา เรียกว่าแต่ละวัน หัวกระไดไม่แห้งของแท้
บรรดาผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานกับพรรค ต่างทยอยกันมาไม่ขาดสาย “อดีตส.ส.” จากแทบทุกพรรค วางคิวแวะเวียนเข้ามากรอกใบสมัครต่อเนื่อง ชนิดที่ไม่ยอมให้ความเคลื่อนไหวของพรรคห่างหายจากหน้าสื่อ
กลยุทธ์เลี้ยงกระแสของพรรค นัยหนึ่งอาจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาด (บางพรรคก็ใช้วิธีนี้ในอดีต) เป็นการโหมภาพตอกย้ำให้เกิดการจดจำในแบรนด์ของพรรคนี้
เมื่อได้เห็นบ่อยเข้าๆ ว่าคนนั้นคนนี้ต่างก็เปิดหน้าเข้ามาร่วมชายคากับพรรค ตรงนี้อาจมีผลทางจิตวิทยา ส่งผลต่อการตัดสินใจ ให้ “อดีตส.ส.” อีกหลายคนที่กำลังคิดไม่ตก ว่าจะมาเข้ากับพรรคนี้ดีหรือไม่เเละต้องรับเจรจาเพราะเวลาน้อยลงๆ
เหลียวมองการให้สัมภาษณ์ของ “อดีตส.ส.” แต่ละคนที่มาเปิดตัวเเล้วนั้น เหมือนเป็นแพตเทิร์นเดียวกันเป๊ะ!!! หลายคนตอบทำนองว่า เชื่อมั่นในฐานเสียงตัวเอง เชื่อว่าประชาชนในพื้นที่จะตอบรับเป็นอย่างดี จะได้เป็น “รัฐบาล” หลัง “เลือกตั้ง” หรือแม้แต่การคุยคำโต ว่ากระแสของพรรคดีวันดีคืน และจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในที่สุด
โดยเฉพาะบรรดาขาใหญ่ในหลายจังหวัด พูดถึงขนาดว่า จะกวาดส.ส.เกลี้ยงจังหวัด!!! คงเป็นธรรมดาสำหรับการโปรโมทตัวเอง เเต่คนอยู่ในพื้นที่ย่อมรู้กระแสความนิยมดีอยู่แล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร อีกอย่างเรื่องตัวบุคคล รวมถึงสรรพกำลังต่างๆ ที่คนของพปชร.ได้มานั้น ย่อมทำให้มั่นใจได้แบบนี้
ใครได้ฟังมากเข้าๆ อาจมีอาการเคลิบเคลิ้ม ทำให้ต้องเร่งตัดสินใจตามมาก็ไม่แน่ แม้มีบางคนแอบกระซิบมาว่า เสบียงกรังเที่ยวนี้ยังไม่ถูกแจกจ่ายเเบบเต็มสูบก็ตาม
ล่าสุด เมื่อ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา พรรคมีนัดประชุมใหญ่ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ก็เริ่มเห็นหน้าเห็นหลังกันมากขึ้น “กลุ่มสามมิตร” จากที่ยึกยักอยู่นาน ก็ถึงคราวหอบสมาชิกมาผนึก “พปชร.” กันกว่าครึ่งร้อยชีวิต
แถมโยนทิ้งความเป็น “กลุ่มสามมิตร” เหลือเพียงภาพความเป็น “พลังประชารัฐ” เพื่อลดภาพความเป็นกลุ่ม เป็นก๊ก หรือการขบเหลี่ยมกันภายในพรรค หลอมให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน ก็ต้องตามดูกันต่อ ว่าดีลทั้งก่อนและหลัง “เลือกตั้ง” จะยิ่งสร้างความแน่นแฟ้นหรือตรงกันข้ามหรือไม่อย่างไร
แต่ถ้าดูในวันนี้ กระแสทุกอย่างกำลังเกาะไปกับพรรคนี้ หัวหน้าพรรค “อุตตม สาวนายน” เปิดหัวบนเวทีถึงนโยบายพรรคไว้แล้ว เช่น ล้างหนี้นอกระบบให้คนทุกกลุ่ม, ต่อยอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภาค 2 ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทุกมิติ
ต้องเรียกว่า พรรคนี้เตรียมจะต่อยอดจากนโยบายเดิม “รัฐบาล คสช.” ก็ได้ และแว่วมาว่ามีอะไรอื่นอีกที่พรรคฝันอยากจะทำ
เรียกได้ว่า นอกจากนโยบายที่กินและจับต้องได้แล้ว กระแสของพรรคย่อมมีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนน “กาบัตร” ไม่น้อย เผลอๆ อาจจะมากเหมือนที่บางพรรคก่อนหน้านี้ ใช้กวาดส.ส.เหนือ-อีสาน เป็นกอบเป็นกำ ชนิดที่ตัวผู้สมัครแทบไม่ต้องเหนื่อยอะไรมาก ก็ได้เข้าสภาอย่างเฉิดฉาย