‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 32.85 บาทต่อดอลลาร์
ตลาดการเงินยังไม่เปิดรับความเสี่ยงเต็มที่ จับตาการเมืองในยุโรปและการหารือสหรัฐกับจีน
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.85 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจาก 33.02 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน
ภาพรวมเงินบาทในสัปดาห์นี้ แม้จะมีตัวช่วยจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นบวก แต่ความคาดหวังของตลาดก็อยู่ในระดับสูง
นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่า เมื่อตลาดการเงินไม่เปิดรับความเสี่ยงเต็มที่ ก็จะมีกระแสการแข็งค่าของดอลลาร์เข้ามากดดันตลาดทำให้เงินบาทแกว่งตัวในกรอบ 32.80-33.10 บาทต่อดอลลาร์
ช่วงนี้จึงต้องจับตาไปที่การเมืองในยุโรป โดยเฉพาะเรื่อง Brexit และโอกาสการหารือระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งถ้าหาข้อสรุปได้ ตลาดการเงินจะพลิกกลับมาเปิดรับความเสี่ยงทันที
มองกรอบเงินบาทระหว่างวัน 32.80-32.90 บาทต่อดอลลาร์ และกรอบเงินบาทในสัปดาห์ 32.75-33.25 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับในสัปดาห์นี้ต้องจับตาจีดีพีไทยและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐเป็นหลัก เริ่มจากวันจันทร์ การประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่สามของไทย คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 0.70% จากไตรมาสก่อน หรือคิดเป็น 4.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าด้วยแรงหนุนหลักจากการบริโภคในประเทศ
วันพุธ การรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (US Durable Goods Order) เดือนตุลาคมในสหรัฐคาดว่าจะหดตัว 3.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากการชะลอการสั่งซื้อในธุรกิจอากาศยานจากปัญหาความไม่ชัดเจนของนโยบายการค้า
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาลัยมิชิแกน (Consumer Sentiment) คาดว่าจะปรับตัวลงมาที่ระดับ 97.9จุด หลังจากตลาดหุ้นปรับตัวลง ขณะที่ความคาดหวังเงินเฟ้อ (Expected Change in Prices) ในช่วง 5 ถึง 10 ปีอยู่ที่ระดับ 2.60%ต่อปี
วันพฤหัส รายงานตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานในญี่ปุ่น (CPI ex.Fresh Foods and Energy) คาดว่าจะขยายตัว 1.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายงานการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของสิงคโปร์คาดว่าจะชะลอตัวลงมาที่ระดับที่ 2.60% เมื่อเทียบกับปีก่อนจากแนวโน้มการส่งออกที่ชะลอตัว