ถึงเวลา ‘เอชพี’ ทวงบัลลังก์ผู้นำ ‘พีซี’
หลังผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ จุดยืนของยักษ์เทคโนโลยีมะกัน “เอชพี อิงค์” ในตลาดพีซีเริ่มมีทิศทางเป็นบวก ทว่าอุตสาหกรรมไอทีมีการแข่งขันที่รุนแรง เส้นทางของเอชพีจึงไม่ง่าย และเป็นความท้าทายที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง
โก๊ะ คง เม็ง ผู้จัดการทั่วไป และกรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี เอชพี อิงค์ กล่าวในงาน “เอชพี โฮม แพลนเน็ต 2018(HP HOME PLANET 2018)” อีเวนท์โชว์เคสเทคโนโลยีและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ระดับภูมิภาคว่า หลังจากแตกธุรกิจเพื่อโฟกัสลูกค้าอย่างชัดเจน 3 ปีมานี้ธุรกิจของเอชพีอิงค์สามารถเติบโตได้ดีมาต่อเนื่อง
ความสำเร็จมาจาก 3 กลยุทธ์หลักคือ 1.รักษาฐานลูกค้าพร้อมสร้างการเติบโตให้ได้มากขึ้นในธุรกิจหลัก กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ พีซี (Core Strategy) 2.สร้างการเติบโตใหม่ๆ ในธุรกิจที่มีโอกาสสูงเช่น เครื่องพิมพ์ขนาดเอสามและมัลติฟังก์ชั่น (Growth Strategy) และ 3.ลงสนามเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างการพิมพ์สามมิติ สนับสนุนการใช้เออาร์, วีอาร์ ร่วมปฏิวัติซัพพลายเชน ยกระดับภาคการผลิต เพิ่มความยืดหยุ่น และลดต้นทุน (Future Strategy)
“ไม่ใช่แค่การนำเสนอฮาร์ดแวร์ แต่เราจะผลักดันให้เกิดการเติบโตไปทั้งอีโคซิสเต็มส์ ขณะนี้เริ่มทำงานกับพันธมิตรธุรกิจ รวมถึงพัฒนาบุคลากรร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆ”
’ไทย’ตลาดทำเงิน
เขากล่าวว่า ไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเอชพีในระดับอาเซียน ประเมินขณะนี้การใช้จ่ายด้านไอทียังคงขยายตัว รับอานิสงส์เศรษฐกิจเติบโต การเมืองมีเสถียรภาพ ที่ผ่านมาธุรกิจของเอชพีเองเติบโตได้แบบคงเส้นคงวา กล่าวได้ว่าตลาดไทยมีเสถียรภาพมากกว่าประเทศในภูมิภาคเดียวกันและตลาดเกิดใหม่อื่นๆ
“เราแข็งแรงทั้งในธุรกิจพีซีและพรินเตอร์ ไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจที่จะเข้ามาทำธุรกิจ จากนี้มีแผนเข้ามาลงทุนต่อเนื่องโดยเฉพาะออมนิแชนแนล(โอทูโอ)”
เบื้องต้นได้เริ่มขยายช่องทางจำหน่ายบนออนไลน์ โดยร่วมมือกับลาซาด้า ชอปปี้ และเจดีเซ็นทรัล ทั้งกำลังเจรจากับพันธมิตรใหม่ๆ ตัวอย่างความสำเร็จเมื่อไม่นานมานี้ เช่น แคมเปญชอปปิงออนไลน์ 11.11 ที่ร่วมกับลาซาด้า ยอดขายเอชพีเติบโตได้มากกว่า 100% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทิศทางธุรกิจปี 2562 เตรียมลงทุนอย่างหนักเพื่อบุกเอสเอ็มอี เชื่อว่ามีโอกาสมหาศาลรออยู่ แนวทางจะเข้าไปแบบครบวงจร รูปแบบ “แอส อะ เซอร์วิส” ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กนำเทคโนโลยีไปยกระดับการบริหารจัดการ มีโอกาสใช้เทคโนโลยีเทียบเท่าองค์กรขนาดใหญ่ ภายใต้งบการลงทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด
นอกจากนั้น ที่ให้ความสำคัญอย่างมากคือ “ซิเคียวริตี้” ซึ่งมั่นใจว่าความพร้อมและประสบการณ์ที่มีอยู่เดิมจะเป็นจุดแข็งทำให้เอชพีสามารถให้บริการลูกค้าในส่วนนี้ได้ดี
’อาเซียน’โอกาสมหาศาล
ผู้บริหารเอชพีกล่าวว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่มีความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นจากภัยธรรมชาติ ภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สถานการณ์ทางการเมือง แต่ทั้งนี้ก็เป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมากเช่นกันเดียว
ปัจจัยบวก เนื่องจากเป็นตลาดเกิดใหม่จึงมีโอกาสขยายตัวได้สูง ขนาดจีดีพีใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกด้วยมูลค่ากว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ จากประชากรทั้งหมด 1.1 พันล้านคน ผู้ที่อายุน้อยกว่า 40 ปีมีสัดส่วนมากถึง 70% ที่น่าสนใจและคาดว่าจะสร้างโอกาสให้กับทุกธุรกิจยังมาจากมีเมืองที่มีประชากรสูงกว่า 1 ล้านคนมากกว่า 150 เมือง
นอกจากนี้ การใช้งานอินเทอร์เน็ตเติบโตแบบก้าวกระโดด เช่น ประเทศไทยในแต่ละวันมีสัดส่วนผู้ใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตสูงมาก ทั้งมีการคาดการณ์ไว้ว่าเมื่อถึงปี 2563 อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซอาเซียนจะมีมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เติบโตเฉลี่ยต่อปี 18% โดยรวมทั้งภูมิภาคจะมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 480 ล้านราย
ขณะที่ ปี 2568 โอกาสทางการตลาดของอินเทอร์เน็ตอีโคโนมีจะมีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ ปี 2573 ครัวเรือนที่เป็นชนชั้นกลางมีจำนวนไม่น้อยกว่า 138 ล้านครัวเรือน
“ปัจจัยบวกมาจากทั้งการเติบโตของโมบาย สัดส่วนการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต อีคอมเมิร์ซบูม รวมถึงจำนวนเอสเอ็มอีที่มีสัดส่วนกว่า 99% ทว่ายังไม่มีผู้เล่นรายใดสามารถเข้าถึงความต้องการทั้งหมดได้อย่างแท้จริง”
โหนเมกะเทรนด์ดิจิทัล
ส่วนของเอชพีในกลุ่มประเทศนี้ทำตลาดอยู่ใน 18 ประเทศ ปัจจุบันครองอันดับ 1 ในผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียลพีซีและเครื่องพิมพ์
ปี 2561 ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างมาก มาจากการวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วขึ้น สามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดมาได้มากขึ้น ขณะเดียวกันมุ่งทำตลาดเชิงออมนิแชนแนล พยายามออกไปให้ได้หลายๆ แพลตฟอร์ม
มากกว่านั้นเพิ่มโฟกัสเอสเอ็มอีทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การบริการ และโซลูชั่นซิเคียวริตี้ สนับสนุนการพัฒนาออฟฟิศแห่งอนาคตที่มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนการเติบโต ที่สำคัญพยายามทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อหาวิธีการที่จะทำให้เข้าถึงความต้องการระดับท้องถิ่นให้ได้มากที่สุด
เอชพีระบุด้วยว่า 4 เมกะเทรนด์ที่สำคัญประกอบด้วย 1.การเติบโตที่รวดเร็วของสังคมเมือง 2.รูปแบบการทำงานยุคใหม่ที่เป็นแบบโมบายมากขึ้น 3.การปฏิวัติทางดิจิทัลที่ผลักดันให้รูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยน 4.มีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาผสมผสาน เกิดการดิสรัปในหลากหลายมิติ
เป็นมากกว่าแค่’พีซี’
โจเซฟิน ตัน รองประธาน สายงานบริหารสินค้า คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค กลุ่มคอนซูเมอร์ เอพพี อิงค์ กล่าวว่า เอชพีมุ่งทรานส์ฟอร์มพีซีให้เป็นมากกว่าแค่เครื่องคอมพิวเตอร์ ตอบโจทย์การทำงาน การใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่ ให้ความสำคัญกับการดีไซน์ ไปพร้อมๆ กับเทคโนโลยี ฟีเจอร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
“เรามุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยเน้นความพรีเมียม ทำให้ได้เกินไปกว่าความคาดหวังที่ลูกค้าตั้งไว้ พร้อมๆ ไปกับพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดต่อเนื่อง”
ล่าสุด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลีใต้ โดยที่จำหน่ายในไทยประกอบด้วย “เอชพี สเปคเตอร์(HP Spectre)” ขนาด 13 นิ้ว, เอชพี อีลีทบุ๊ค(Elitebook), แซดบุ๊ค(Zbook), แซด4 จี4 เวิร์คสเตชั่น, วีอาร์แบ็คแพ็คและที่สวมหัว, พรินเตอร์ รวมมีทั้งหมดกว่า 14 โมเดล
อย่างไรก็ตาม อีกรุ่นไฮไลต์ที่ยังไม่มีกำหนดจำหน่ายในไทย “เอชพี สเปคเตอร์ โฟลิโอ(HP Spectre Folio)” ผลิตจากหนังแท้เครื่องแรกของโลก มาพร้อมการยกเครื่องใหม่หมด สเปคแรง สมบูรณ์แบบทั้งการดีไซน์และใช้งาน