ชี้พลัง Social Media กระตุ้นคนออกใช้สิทธิ์เลือกตั้งเกิน 75%

ชี้พลัง Social Media กระตุ้นคนออกใช้สิทธิ์เลือกตั้งเกิน 75%

"ไอติม" เชื่อพลังคนรุ่นใหม่เปลี่ยนการเมืองได้ ชูประเด็นเฉพาะ ทำคนสนใจการเมือง ด้านพรรคอนาคตใหม่ ชี้ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ดึงคนเลือกตั้งมากขึ้น ขณะนักวิชาการระบุ พลัง Social Media กระตุ้นคนออกใช้สิทธิ์เลือกตั้งเกิน 75% เชื่อกกต.ออกกฎควบคุม

วันที่ 18 พ.ย.2561 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มีการเปิดตัว ELECT.in.th สื่อข้อมูลการเมืองการเลือกตั้งไทย พร้อมการเสวนาหัวข้อ “เปลี่ยนผลการเลือกตั้งด้วยพลังของข้อมูล” โดย ผศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ Social Media เข้ามามีบทบาทในประเทศไทย ในแง่กระจายข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้ง เป็นประโยชน์ทั้งส่วนของพรรคการเมือง และประชาชน เนื่องจาก Social Media เช่น เฟซบุ๊ค ไลน์ ไอจี ไม่มีใครเป็นเจ้าของ สามารถสื่อสารถึงประชาชนโดยตรง ถือเป็นการหาเสียงรูปแบบใหม่ๆ และจะมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น อย่างไรก็ตามควรเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น อยากเห็นนโยบายของพรรคการเมืองแบบใด นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางใหม่ๆ ให้กับประชาชน แทน กกต.ร่วมถึงสำนักโพลล์ต่างๆที่เสื่อมลง นอกจากนี้เชื่อว่าSocial Media จะกระตุ้นคนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง มากกว่า 75% และเป็นไปได้ว่า กกต.จะออกระเบียบมาควบคุมการสื่อสารที่มีผลกับการเลือกตั้ง

ขณะที่ สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ เชื่อว่า พลัง Social Media เป็นช่องทางหาเสียงของพรรคการเมือง และการสื่อสารโดยตรงต่อประชาชน นอกจากนี้ยังสามารถเป็นช่องทางตรวจสอบการทำหน้าที่ กกต.ว่ามีความยุติธรรมมากน้อยแค่ไหน

ด้าน ดร.สติธร ธนานิธิโชติ สถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า Social Media เป็นเครื่องมือให้พรรคการเมืองนำสู่ชัยชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีหลายระดับ ตนเห็นปรากฎการณ์ พรรคการเมืองเลือกใช้อาวุธใหม่ที่เรียกว่า Social Media และอินเตอร์เน็ต แต่เลือกใช้สิ่งทรงพลังที่สุด เนื่องจากไปได้ทั่วโลก เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ทำให้เขาชนะการเลือกตั้ง ทั้งนี้พรรคการเมืองไม่ได้ใช้Social Media ในการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังต้องมีการวิเคราะห์ ประเมินผล ก่อนจะเข้สหากลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ใครมีอำนาจเข้าถึงข้อมูลมากๆ สามารถใช้Social Media ดึงคะแนนนิยมได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า Social Media จะดึง ผู้เลือกตั้งหน้าใหม่ สนใจเลือกตั้งมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีเสวนาหัวข้อ "คนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงการเมืองได้อย่างไร" โดย นางสาวพรรณิการ์ วานิช ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่ บอกว่า ถือเป็นครั้งแรกที่คนรุ่นใหม่ถูกพูดถึงในทุกเวที เพราะมีความสำคัญ และ ทุกพรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกัน ว่าคนรุ่นใหม่สามารถเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยได้ เมื่อการเมืองเปิด เป็นประชาธิปไตย เชื่อว่า คนรุ่นใหม่สามารถเข้าสู่การเมือง นอกจากนี้ คนรุ่นใหม่ เบื่อในการเห็นสิ่งเดิมๆ เขาอยากเห็นนโยบายใหม่ๆ การเมืองแบบใหม่ เช่น หลายพรรคการเมืองเห็นตรงกันในการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวประชาชน ดึงคนออกมาใช้สิทธ์มากขึ้น

นาย พริษฐ์ วัชรสินธุ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เนื่องจาก 4 ปีผ่านมา คนรุ่นใหม่ถูกปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น คนรุ่นใหม่จึงมีความตื่นตัวในการเลือกตั้งมากขึ้น และถูกคาดหวังมากขึ้นเช่นกันเพราะสามารถเสนอสิ่งใหม่ๆ เนื่องจากโลกเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม อยากคนรุ่นใหม่ออกไปใช้สิทธิ์ ไม่ว่าจะเลือกใครก็ตาม นอกจากนี้การชูประเด็นเฉพาะในสังคม เช่น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การใช้กัญชาในการแพทย์ ทำให้คนสนใจการเมืองมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว และเป็นประเด็นพรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกัน สามารถทำร่วมกันได้