พ่วงเบรกแตกชนท้ายรถยับเยิน 8 คัน เจ็บ 3 ราย

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ร.ต.อ.กันตภณ สักขาพรม รองสว.(สอบสวน)สน.บางชัน รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุกชนท้ายรถยนต์จำนวนหลายคัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณ 3 แยกทางเข้าซอยมีสทีน ถนนรามคำแหงขาเข้า แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มไทร

ที่เกิดเหตุอยู่ช่องทางขวาสุดพบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 82-9891 นนทบุรี ชนท้ายรถคันอื่นๆ ในลักษณะคล้ายเบรกแตกมีรถได้รับความเสียหายหลายคันจอดกระจัดกระจายเต็มถนน ในจุดเกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เจ้าหน้าที่นำส่งรพ.โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคําแหง และปิดกั้นจุดเกิดเหตุเพื่อเคลื่อนย้ายรถออกไป และเร่งระบายการจราจรเนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวมีงานก่อสร้างรถไฟฟ้าทำให้เหลือถนนวิ่งได้เพียง 1 ช่องทางเท่านั้น

จากการตรวจสอบพบรถได้รับความเสียหายทั้งหมด 8 คัน คือรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น E250 CDI สีเทา หมายเลขทะเบียน 5กฌ4165 รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเอ็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กฮ8976 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นเอ็นวี สีเทา หมายเลขทะเบียน ลอ2702 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา หมายเลขทะเบียน ฎถ507 กรุงเทพมหานคร รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒศ8036 กรุงเทพมหานคร รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา (ยังไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเอ็กซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน 4กฬ6056 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอ็คคอร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน 5จพ4269 กรุงเทพมหานคร

จากการสอบสวนคนขับรถบรรทุก ให้การว่าตนขับรถบรรทุกมาเอาดินซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ขณะขับอยู่ในเลนขวาสุดเตรียมจะกลับรถความเร็วประมาณ 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเห็นสัญาณไฟแดงจึงเหยียบเบรกแต่กลับไม่มีการตอบสนองใดๆ ตนตกใจมากลุกขึ้นยืนเหยียบเบรกหลายครั้งแต่รถไม่หยุดจึงชนท้ายรถที่จอดติดไฟแดงอยู่เต็มๆ หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปที่สน.บางชัน แต่รถกลับเบรกได้ปกติ ซึ่งตนก็งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกันยืนยันว่าไม่ได้หลับ ไม่ได้เสพหรือดื่มอะไรมาแน่นอน

พ.ต.อ.อดิศักดิ์ ชูพันธ์ ผกก.สน.บางชัน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนนำตัวคนขับรถบรรทุกไปสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้ตรวจปัสวะหาสารเสพติด และเป่าแอลกอฮอล์ เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท ส่วนสาเหตุต้องดูที่พยานหลักฐานอีกครั้ง