‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 32.90 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 32.90 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดการเงินแกว่งตัวกรอบแคบ ไร้ทิศทางชัดเจน รอลุ้นผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐช่วงบ่ายหากพรรคเดโมแครตพลิกกลับมาครอง ตลาดมีความผันผวนได้ และบาทกลับมาเป็นขาขึ้นหากตลาดเปิดรับความเสี่ยง

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.90 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจาก 32.97 บาทบาทต่อดอลลาร์ในช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน ในคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินผันผวนในกรอบแคบ หุ้นสหรัฐปรับตัวบวกเล็กน้อย สวนทางกับฝั่งยุโรปที่ปรับตัวลง ขณะที่บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีทรงตัวที่ระดับ 3.20% 

เนื่องจากตอนนี้ทั่วทั้งตลาด จับตาไปที่การเลือกตั้งของสหรัฐซึ่งน่าจะเริ่มรู้ผลกันในวันนี้ ส่วนใหญ่มองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้สามารถขยับตลาดการเงินไปได้ทุกทาง

อย่างไรก็ตาม เรามองการเลือกตั้งสหรัฐเป็น “บวกมากกว่าลบ” ในอดีตของการเลือกตั้งมิดเทอม 11 ครั้งล่าสุด ตลาดทุนสหรัฐมักตอบรับในเชิงบวกหรือแย่ที่สุดก็เสมอตัวในช่วงสัปดาห์เลือกตั้งและไปจนถึงหกเดือนหลังเลือกตั้ง ในครั้งนี้มองเป็นสามกรณี

กรณีที่แรก พรรคริพับลิกันรักษาเสียงข้างมากในทั้งสองสภาได้ เทียบได้กับช่วงปี 2002 ที่ริพับลิกันกลับมาชนะหลังเหตุการณ์ 911 น่าจะตามมาด้วยการลดภาษี เร่งจ้างงาน และกีดกันคู้ค้าต่างประเทศ ตลาดการเงินสหรัฐจะได้รับแรงกระตุ้น เฟดจะต้องขึ้นดอกเบี้ยเกิน 3.0% ในอนาคต บอนด์ยิลด์จะปรับตัวขึ้น 0.5-1.0% พร้อมกับดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

กรณีที่สอง พรรคเดโมแครตจะกุมเสียงข้างมากใน House ได้แต่ไม่ชนะใน Senate ใกล้เคียงกับเหตุการณ์นี้ที่สุดคือปี 1990 ถ้าเกิดขึ้น เชื่อว่าการขยายเพดานหนี้จะเป็นนโยบายอย่างเดียวทรัมป์ผลักดันไดั แต่การผ่อนคลายกฏเกณฑ์ทางการเงินจะหยุดลง ตลาดจะลดความเสี่ยงก่อน หุ้นสหรัฐอาจพักฐานต่อ 2-5% บอนด์ยิลด์สหรัฐปรับตัวลง 0.1-0.2% และดอลลาร์จะอ่อนค่าลง

กรณีสุดท้าย เดโมแครตชนะทั้งสองสภาผลที่ตามมาอาจเป็นเหมือนปี 2006 ที่ริพับลิกันเสียสภาให้กับเดโมแครต กรณีนี้ อาจลดแรงกดดันเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ความหวังที่จะมีการลดภาษีหรือเพิ่มการลงทุนภาครัฐก็จะหมดไป และถ้าเดโมแครตหาทาง “ถอดถอนทรัมป์” ตลาดก็จะเจอกับกับความเสี่ยงรูปแบบใหม่ หุ้นสหรัฐจึงก็มีโอกาสปรับฐาน 10-20% เช่นเดียวกับดอลลาร์ ที่จะอ่อนค่าได้จากความผิดหวังทางการเมือง

ในส่วนของค่าเงินบาท เชื่อว่ามีโอกาสแข็งค่ากลับขึ้นมาได้ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ถ้าตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยง และการเลือกตั้งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ (พรรคเดโมแครตจะกุมเสียงข้างมากใน House ได้แต่ไม่ชนะใน Senate)  มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้ 32.75-33.05 บาทต่อดอลลาร์

ด้านนักบริหารเงินธนาคารทหารไทย มองว่า ค่าเงินดอลลาร์ยังคงทรงตัวใกล้ระดับเดิมต่อ โดยดัชนีดอลลาร์(DXY)แกว่งตัวใกล้ระดับ 96.3  หลังตลาดยังคงรอลุ้นผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ ซึ่งรายงาน Exit poll ล่าสุดบ่งชี้ว่า พรรครีพลับริกันได้ 42ที่นั่งในวุฒิสภา ในขณะที่พรรคเดโมแครตได้ 24ที่นั่ง(เหลือผลการนับคะแนนอีก 33ที่นั่ง) ซึ่งพรรครีพลับริกันต้องการเพียงแค่ 9 เสียงก็จะคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาได้  ส่วนผลการนับคะแนนสภาผู้แทนที่ตลาดต่างรอคอยนั้น มีการนับคะแนนไปแล้ว 8ที่นั่งจาก 435ที่นั่ง (รีพลับริกัน 6ที่นั่ง เดโมแครต 2ที่นั่ง)  จากผลการเลือกตั้งกลางเทอมที่ยังมีรายงานไม่มากนัก โดยเฉพาะสภาผู้แทน เป็นไปได้ว่า ตลาดจะยังคงไร้ทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากผู้เล่นในตลาดอาจรอผลการเลือกตั้งที่ชัดเจนก่อน  ทำให้ในช่วงบ่ายที่ผลการเลือกตั้งอาจจะชัดเจนมากขึ้น ว่าพรรคใดจะครองสภาผู้แทนและวุฒิสภา ตลาดอาจจะกลับมาคึกคักและผันผวนมากขึ้นได้  นักลงทุนและผู้ประกอบการจึงควรเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้ หากพรรคเดโมแครตสามารถพลิกกลับมาครองสภาผู้แทน หรือ สามารถพลิกกลับมายึดสภาคองเกรสได้    

มองกรอบค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.85-33.00บาทต่อดอลลาร์ในวันนี้