กกต.รับรอง '436องค์กร' เสนอชื่อส.ว. ตัดออก40องค์กร

กกต.รับรอง '436องค์กร' เสนอชื่อส.ว. ตัดออก40องค์กร

ประกาศ กกต. เปิดรายชื่อ 436 องค์กร มีสิทธิเสนอชื่อผู้สมัคร ส.ว. ตัดสิทธิ 40 องค์กรขาดคุณสมบัติ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสหกรณ์โดนวินิจฉัยเป็นองค์กรมุ่งแสวงหาผลกำไร ด้านผอ.กกต.จังหวัดทั่วประเทศแจ้งองค์กรถูกตัดสิทธิยื่นคัดค้านใน 3 วัน

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 6 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิทธิพร บุญประคองประธาน กกต. ได้ลงนามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องรายชื่อองค์กรที่มีสิทธิแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แล้ว หลังจากที่ประชุมกกต.ในวันที่ 5 พ.ย. ได้ตรวจสอบคุณสมบัติและให้ความเห็นชอบ โดยมีองค์กรที่ยื่นลงทะเบียนทั้งสิ้น 476 องค์กร ได้รับการประกาศชื่อให้มีสิทธิแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครเป็นส.ว.ทั้งสิ้น 436 องค์กร แบ่งเป็น กลุ่มวิชาชีพ 10 กลุ่ม ดังนี้ 1 กลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง 52 องค์กร 2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 15 องค์กร 3 กลุ่มการศึกษาและการสาธารณสุข จำนวน 88 องค์กร

4 กลุ่มอาชีพกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทำนา ทำสวน ทำไร่ ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง 57 องค์กร 5 กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้าง หรือบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ จำนวน 18 องค์กร
6 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม 15 องค์กร 7กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และผู้ประกอบกิจการอื่น ๆ ผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว 35 องค์กร 8 กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์ 83 องค์กร 9 กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา สื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์ วรรณกรรม จำนวน 38 องค์กร และ 10 กลุ่มอื่น ๆ จำนวน 35 กลุ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนอีก 40 องค์กร ที่ไม่ได้รับการประกาศชื่อในจำนวนนี้มากถึง 23 องค์กรเป็นกลุ่มสหกรณ์ โดยกรรมการกกต.มีมติตามที่สำนักงาน กกต.เสนอว่า แม้ตามกฎหมายจัดตั้งสหกรณ์จะไม่เป็นองค์กรที่มุ่งแสวงหาผลกำไร แต่พฤติการณ์ที่มีการนำผลประโยชน์มาแบ่งปันกันจึงถือเป็นองค์กรที่มุ่งแสวงหาผลกำไร เข้าลักษณะต้องห้ามขององค์กรที่มีสิทธิจะแนะนำชื่อบุคคลสมัครเป็นส.ว.ตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการเลือกส.ว. 2561 ส่วนที่เหลือเป็นสมาคม สหภาพแรงงาน ที่ยื่นเอกสารไม่ครบตามระเบียบกกต.หรือจัดตั้งองค์กรมายังไม่ครบ 3 ปี อย่างไรก็ตามในกรณีมติกกต.วินิจฉัยว่าสหกรณ์เป็นองค์กรที่มุ่งแสวงหาผลกำไรจึงขาดคุณสมบัติในการเสนอชื่อผู้สมัครส.ว.นั้น อาจมีปัญหาโต้แย้งตามมาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังประธานกกต.ได้ลงนามประกาศกกต.ดังกล่าวแล้ว สำนักงานฯได้มีหนังสือด่วนที่สุดแจ้งไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ให้ปิดประกาศรายชื่อองค์กรที่มีสิทธิแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครรับเลือกเป็นส.ว. ทั้ง 436 องค์กรให้ประชาชนทราบซึ่งจะเริ่มปิดประกาศตั้งแต่วันนี้ (6 พ.ย.) และหากจังหวัดใดมีองค์กรที่ไม่ได้รับการประกาศรายชื่อเป็นองค์กรที่มีสิทธิแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครรับเลือกเป็นส.ว. ให้ผอ.กกต.จังหวัดแจ้งให้องค์กรนั้นทราบ โดยให้ระบุถึงเหตุผลของการขาดคุณสมบัติ เพื่อที่องค์กรนั้นๆ จะได้ยื่นคำร้องคัดค้านมาภายใน 3 วัน เมื่อผอ.กกต.จังหวัดได้รับคำร้องคัดค้านแล้วให้เร่งตรวจสอบและเสนอความเห็นกลับมายังกกต.ภายใน3 นับแต่วันได้รับคำร้องคัดค้านเพื่อให้กกต.พิจารณาวินิจฉัยต่อไป

(เอกสาร-รายชื่อ 436 องค์กร มีสิทธิเสนอชื่อผู้สมัคร ส.ว.)