สนช.เสนอโละ 'รมต.' ทุก1ปี เพื่อขับเคลื่อนงานปฏิรูป

สนช.เสนอโละ 'รมต.' ทุก1ปี เพื่อขับเคลื่อนงานปฏิรูป

"กอบศักดิ์" รายงานความคืบหน้าปฏิรูป ระบุพอใจจ่อส่งร่างกม.อีก100ฉบับให้สนช.พิจารณา ด้านสนช.เสนอให้ปฏิรูปราชการ ยกโมเดลยุโรปโละรมต.ทุกๆ 1ปี เพื่อเคลื่อนงานปฏิรูป

ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณารับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศ มาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ โดยไม่มีการลงมติ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่ง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฐานะคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เป็นผู้นำเสนอรายงาน

โดยนายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ผลงานการปฏิรูปประเทศที่ผ่านมา มีเนื้อหาที่น่าพอใจ และในนโยบายด้านการปฏิรูปต่างๆ เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย ขณะที่การขับเคลื่อนการปฏิรูปผ่านร่างกฎหมายนั้น พบว่ามีร่างกฎหมายปฏิรูปที่เตรียมเสนอให้ สนช. พิจารณา ประมาณ 100 ฉบับ ดังนั้นตนขอฝากความหวังที่ สนช. จะผลักดันร่างกฎหมายเพื่อสร้างความแข้มแข็งให้ประชาชนและพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่แท้จริง ทั้งนี้ใน 2 เดือนจากนี้ สนช. อาจมีความลำบาก เพราะมีร่างกฎหมายที่เตรียมเสนอให้พิจารณา ซึ่ง รัฐบาลขอร้องให้สนช. ช่วยขับเคลื่อนด้วย

รัฐบาลพยายามทำให้ดีที่สุดในเวลาที่เหลืออยู่ ทั้งนี้แนวคิดการปฏิรูป เพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง จะพยายามเปิดเวทีให้กว้างขวาง ให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่งแท้จริง นายกอบศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้สนช. ที่รับฟังอภิปราย ได้เสนอความเห็นต่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญ โดยมีความเห็นที่สำคัญ อาทิ พล.ร.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เชิดบุญเมือง สนช.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน กล่าวว่า กลไกทางราชการไม่สามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ หรือแผนงานปฏิรูปได้ดังนั้นควรปฏิรูปงานส่วนราชการ โดยเฉพาะกลไกออกกฎหมายที่ต้องเน้นไปที่ประชาชนมากกว่ากรเพิ่มอำนาจให้ส่วนราชการ นอกจากนั้นแล้วกรณีที่ สนช. เคยพบคือการขับเคลื่อนร่างกฎหมาย ที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องระบุว่าไม่สามารถทำได้ เพราะบางประเด็นติดมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะเดียวกันแนวทางของการขับเคลื่อนปฏิรูปให้สำเร็จ ตนขอให้พิจารณาใช้โมเดลบริหารที่ตนเคยไปศึกษาดูงานประเทศในทวีปยุโรปที่จะเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีทุกๆ 1 ปี เพื่อให้งาน และการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่นายตวง อันทะไชย สนช.ด้านการศึกษา เสนอว่า รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการปฏิรูปด้านการศึกษา โดยเน้นการเรียนเพื่อชีวิต ไม่ใช่เรียนเพื่อสอบ ขณะที่ปัญหาของการบริหารจัดการของหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งศึกษาจังหวัด และ เขตพื้นที่การศึกษาต้องแยกอำนาจและการบริหารออกจากกัน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน เช่น ศึกษาจังหวัด ควรทำเรื่องแผนงานด้านการศึกษาตามยุทธศาสตร์จังหวัด ขณะที่เขตพื้นที่การศึกษาควริจารณาเรื่องการเลื่อนขั้น เงินเดือน อย่างไรก็ตามต้องเร่งทำรัฐธรรมนูญการศึกษาให้สำเร็จ

ด้านนายสมชาย แสวงการ อภิปรายด้วยว่า สำหรับร่างกฎหมายที่รัฐบาลเตรียมเสนอให้ สนช. พิจารณานั้น ควรพิจารณาเลือกฉบับที่สำคัญและส่งให้ สนช. ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อให้พิจารณาให้เสร็จทันก่อนการเลือกตั้ง ส่วนกฎหมายที่ไม่สำคัญ ควรส่งให้รัฐบาลชุดต่อไปพิจารณา

"ผมเป็นห่วงว่าหากรัฐบาลเสนอร่างกฎหมายให้ สนช. พิจารณาแบบเร่งรีบ อาจเกิดความไม่รอบคอบได้ และอาจเป็นประเด็นที่บางกลุ่มนำไปเคลื่อนไหว เพราะ สนช. ออกกฎหมายไม่รอบคอบ" นายสมชาย กล่าว