บังคับคดี เผยธนาคารโลกประเมินไทยยังเป็นที่ 1 อาเซียนแก้ปัญหาล้มละลาย คะแนนยังดีแม้หล่นจากอันดับที่ 26 มาเป็น 27 เตรียมดันร่างพ.ร.บ.ล้มละลาย 2 ฉบับ พัฒนาระบบ e insolvency เชื่อมโยงฐานข้อมูลบุคคลล้มละลายกับนายทะเบียน เริ่มใช้ทั้งระบบครั้งแรกปี 62
น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า ธนาคารโลกได้ประกาศผลการประเมิน Ease of Doing Business ของประเทศไทยพบว่าโดยภาพรวมมีคะแนนดีขึ้น แม้ว่าเป็นอันดับที่ 27 จากปีที่แล้วในอันดับที่ 26 และยังคงยังรักษาตำแหน่ง 1 ใน 30 สำหรับส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมบังคับคดีรับผิดชอบขอรายงานผลมีการระบุว่าตัวชี้วัดที่ 10 การแก้ไขปัญหาล้มละลายของไทยมีคะแนนดีขึ้น โดยคะแนนห่างจากประเทศดีที่สุด (DTF) ก็ดีขึ้นและที่สำคัญด้านการแก้ไขปัญหาล้มละลายไทยยังเป็นที่ 1 ของอาเซียน โดยรักษาตำแหน่งนี้มาได้เป็นปีที่สามแล้ว ซึ่งไทยได้อันดับที่ 24 ใน 190 ประเทศ โดยคะแนนเพิ่มขึ้นผลมาจากการรวบรวมทรัพย์สินคืนให้กับเจ้าหนี้ ได้ 69.8 เกือบ 70% (ปีที่แล้วได้ 68%) นอกจากนี้ในตัวชี้วัดที่ 9 ที่กรมบังคับคดีร่วมรับผิดชอบกับสำนักงานศาลยุติธรรมในส่วนของการบังคับคดี ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดีปีหน้าเชื่อว่าตัวชี้วัดที่ 9 ที่เกี่ยวกับการบังคับคดีในช่วงระยะเวลา 100 วันดังกล่าวจะลดลง เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในส่วนของการบังคับตามคำพิพากษาและคำสั่งของศาลหรือปวิพภาคบังคับคดีที่กรมฯและสำนักงานกฤษฎีกาได้ปฎิรูปแก้ไขใหม่ และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 5 กย 60ได้กำหนดเวลาประกาศขายชัดเจน 60 วันนับแต่ยึด ลดจาก 6 รอบเหลือ 4 รอบ จึงทำให้เวลาลดลงได้จริงทั้งนี้จากการทำการประเมินและมีหลักฐาน เหลือ 75 วันแต่ธนาคารโลกระบุว่าตอนมาสัมภาษณ์/เก็บข้อมูลปีนี้ ยังไม่เห็นจำนวนคดีในประ มวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในส่วนของการบังคับตามคำพิพากษาและคำสั่งของศาลใหม่อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากระยะเวลากฎหมายมีผลกับการประเมินห่างเพียง 5 เดือนเท่านั้น
อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวถึงการประชุมทางไกลเรื่องผลการประเมินความยากง่ายในการประกอบธุรกิจว่า ธนาคารโลก ระบุชัดว่า ตัวชี้วัดด้านการแก้ไขปัญหาล้มละลายที่รัฐบาลมอบหมายให้กรมบังคับคดีรับผิดชอบ เป็นประเด็นที่ท้าทายประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากที่สุด ซึ่งประเทศไทยได้คะแนนในด้านการแก้ไขปัญหาการล้มละลายเพิ่มขึ้นจาก 75.64 ในปีที่ผ่านมา เป็น 76.64 ในปีนี้ ซึ่งคะแนนด้านนี้อันดับดีขึ้น คะแนนดีขึ้น และเป็นที่ 1 ของอาเซียน โดยสามารถรักษาตำแหน่งที่ 1 ของอาเซียนได้มาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยก่อนนี้ ไทยเป็นที่ 3 ของอาเซียน และเป็นที่ 4 ของเอเชีย อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการดำเนินการต่อไป กรมบังคับคดีได้เสนอร่างพ.ร.บ.ล้มละลาย 2 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการล้มละลายระหว่างประเทศ และเจ้าพนักงานพิทักษ์เอกชน การพัฒนาระบบ e insolvency ที่จะเริ่มใช้ได้ทั้งระบบเป็นครั้งแรกในปี 2562 เป็นการเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลล้มละลายกับนายทะเบียนต่างๆ และการเสริมสร้างศักยภาพของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อย่างต่อเนื่อง