โบรกฯ คาดหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวด์

บริษัทหลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ระบุว่า วานนี้ (25 ต.ค.) ดัชนี SET Index เกิด Technical rebound จากที่ร่วงแรงกว่า 75 จุด (-4.4%) ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา หุ้น Big Cap ปรับขึ้นหนุนตลาดนำโดย PTT, PTTEP, PTTGC และ OSP ส่งผลให้ SET เพิ่มขึ้น 21 จุด (+1.29%) ปิดที่ 1,644 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 76,086 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามต่างชาติยังขายสุทธิ 4,114 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 16 แต่พลิก Net long TFEX เป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ 6,021 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,763 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

            สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (26 ต.ค.) มีมุมมองเป็นกลางคาดดัชนีรีบาวด์ขึ้นปิด Gap 1,655 จุดก่อนจะอ่อนตัวลง ตาม Sentiment เชิงบวกตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นแรงตอบรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ประกอบกับ ECB ระบุจะคงดอกเบี้ยที่ 0% ต่อไปจนถึงต้นปีหน้า และใช้ QE วงเงิน 1.5 หมื่นล้านยูโร/เดือนจนถึงสิ้นเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ดัชนีหุ้นไทยอ่อนตัวลงมาสู่ Valuation ที่น่าสนใจที่ P/E 16 เท่า รวมถึงแรงซื้อจากกองทุน LTF/RMF ในช่วงปลายปีซึ่งเป็นแรงหนุนต่อภาวะตลาด

อย่างไรก็ตามความกังวลปัญหา Trade war ระหว่างสหรัฐ-จีนยังกดดันหลังสหรัฐจะยังไม่เจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับจีนจนกว่าจีนจะเสนอแผนยุติการขโมยเทคโนโลยีของสหรัฐ นอกจากนี้ควรระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังดัชนีรีบาวด์ขึ้นแรงเมื่อวานนี้

ด้านกลยุทธ์การลงทุนวันนี้  Selective Buy ทยอยสะสมหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการ 3Q18 จะออกมาดี MTC, SAWAD, ROBINS, ANAN, SVI, BCH, CHG, CKP, EA, GULF และ PYLON

กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL, MINT, ERW) ทยอยสะสมคาดได้ผลบวกจากภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (ฟรีวีซ่า ออน อาร์ไรวัล) ในช่วงเดือน พ.ย.ถึง ม.ค.

กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และคาดหวังภาครัฐกระตุ้นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ชดเชยการส่งออกและท่องเที่ยวที่ชะลอตัว