เล่นในกรอบ

เล่นในกรอบ

SET Index วานนี้ปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ยังคงวิตกกังวลกับทิศทางเศรษฐกิจโลก

การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ โดยกลุ่ม Big Cap นำโดย AOT ปรับตัวลดลงจากประเด็นลบเรื่องนักท่องเที่ยวจีนเดือนก.ย.ที่หดตัว 15%YoY จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,695.04 จุด (-2.83 จุด) Volume 5.3 หมื่นลบ. จาก Foreign Net -3,433.03 ลบ. TFEX Net +1,835 สัญญาตราสารหนี้ +1,357 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ก.คลังสหรัฐเผยไม่มีประเทศคู่ค้ารายใหญ่บิดเบือนค่าเงิน แต่ขึ้นบัญชีจีน-ญี่ปุ่น-อินเดียถูกจับตานโยบาย FX โดยสหรัฐเผยจะเริ่มเจรจาการค้ากับญี่ปุ่นกลางเดือนม.ค.ปีหน้า

+"ทรัมป์"เล็งหั่นการใช้จ่ายของรัฐบาล หลังพบขาดดุลงบประมาณพุ่ง 17% ในปีงบประมาณ 2561และกล่าวหาว่าเฟดเป็นภัยคุกคามต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

-น้ำมันลดลงหลังคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.5 ล้านบาร์เรล

-ดาวโจนส์ลดลงจากรายงานการประชุมของเฟดเผยว่าคณะกรรมการสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ย

-รายงานประชุมชี้เฟดส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป มุ่งหนุนศก.เติบโตต่อเนื่อง

-ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสหรัฐลดลง 5.3% สู่ระดับ 1.201 ล้านยูนิต ขณะที่จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองสหรัฐร่วงลง 7.1% โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่พุ่งขึ้น

-บอนด์ยีลด์อิตาลีพุ่ง หลังมีข่าว EU คว่ำข้อเสนองบประมาณฉบับใหม่ของรัฐบาลอิตาลี

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.49 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.54 บาท/US

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบแม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะขายอย่างต่อเนื่องคอยกดดัน อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3 ช่วยพยุงดัชนี คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ  1,685-1,705 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

- KBANK KKP KTB TMB สินเชื่อเติบโต QTD

-หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE CPF SVI

- หุ้น MAI ที่ผลประกอบการ 2H61 เติบโตต่อเนื่อง XO CHAYO TACC SSP JKN AUCT

- AMATA, BBL, CPALL, STEC, PTT หุ้นแนะนำจากผลสำรวจของ IAA

หุ้นแนะนำพิเศษ

AUCT (ราคาปิด 6.95 ซื้อ ราคาเหมาะสม 8.25)

  • กำไร 1H61 อยู่ที่ 70 ลบ. เติบโต 56%YoY จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนรถปิดการประมูลจากยอดสินเชื่อเช่าซื้อคงค้างใน 1-2 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูง ทำให้ใน 1H61 จำนวนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ทำการประมูลผ่านบริษัทอยู่ที่ 26,808 คัน +2%YoY และ 18,592 คัน +15.8%YoY ตามลำดับ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 49.7% และ 22.4% ตามลำดับ ปรับตัวดีขึ้นจาก 1H60 ที่ 43.4% และ 16% ตามลำดับ เนื่องจากต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่
  • คาดกำไรปี 61 ราว 139 ลบ. +31%YoY โดยคาดว่ายอดขาย 2H61 จะเร่งตัวขึ้นจากการนำรถมาประมูลภายในสิ้นปีเนื่องจากจะได้ราคาสูงกว่าการประมูลในปีหน้า เพราะการนับอายุรถยนต์เป็นการนับตามปีปฏิทิน โดยเราปี 61 จะมียอดรถประมูลราว 5 หมื่นคัน(ปี 60 อยู่ที่ 4.9 หมื่นคัน)
  • มีโอกาสเติบโตจากกลยุทธ์ใหม่ “เพื่อนประมูล” โดยบริษัทจะจัดหารถยนต์ที่เข้าประมูลจากเจ้าของรถทั่วไปเพิ่มเติม (รถยนต์ที่ทำการประมูลมาจากสถาบันการเงินราว 90%) ซึ่งมีกลยุทธ์ในการจูงใจผู้ส่งรถเข้าประมูล โดยการให้เงินทันทีที่นำรถยนต์เข้ามาประมูลราว 60% ของมูลค่าประเมิน ช่วยหนุนให้บริษัทจะได้รับรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากทั้ง 2 ฝั่ง คือ ค่าธรรมเนียมจากฝั่งผู้มาประมูลรถ 8,500 บาท และจากผู้นำรถเข้ามาประมูลอีก 8,500 บาท โดยการประมูลแบบเดิมจะได้ค่าธรรมเนียมจากผู้ประมูลรถเท่านั้น
  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมสำหรับปี 62 ที่ 25 บาท : เราประเมินมูลค่าด้วยวิธี PE Ratio ราคาเหมาะสมที่ปี 62 โดยอิง PER อย่างอนุรักษ์นิยม (Conservative) ที่ 30 เท่า (ค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง) ได้ราคาเหมาะสมที่ 8.25 บาท มี Upside ราว 23%

หุ้นเริ่มซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก
ตลาด
SET/สินค้าอุตสาหกรรม

  • หุ้นเริ่มซื้อขายวันแรก : BGC(ราคา IPO 10.20 บาท)

บมจ. บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส(BGC) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้ว ให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ มีกำลังการผลิตรวมกว่า 3,095 ตัน/วัน ณ ช่วง 1H61 มีรายได้จากการขายรวม 5,120 ลบ. -7%YoY แบ่งได้เป็น 1)ขวดเบียร์ มีสัดส่วน 37% 2)ขวดเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอลล์ เช่น ขวดโซดา ขวดน้ำอัดลม มีสัดส่วน 35% 3)บรรจุภัณฑ์แก้วสำหรับบรรจุอาหาร เช่น ขวดรังนก ขวดซอสปรุงรส มีสัดส่วน 7% 4)บรรจุภัณฑ์แก้วสำหรับใส่ยาฆ่าแมลงและยา มีสัดส่วน 1% 5) บรรจุภัณฑ์แก้วสำหรับใส่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ และส่งออก มีสัดส่วน 17%

  • บริษัทมีรายได้รวมงวด 1H61 ที่ 5,120 ลบ. -7%YoY เนื่องจากยอดขายบรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ลดลง แต่กำไรขั้นต้นกลับมาดีขึ้นที่ 16% เพิ่มขึ้นจากช่วง 1H60 ที่ 13% เนื่องจากต้นทุนราคาเศษแก้วปรับตัวลดลง ส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวมลดลงจาก 8% เหลือ 8.6% เนื่องจากบริหารแผนการผลิตและขนส่งได้ดีขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิ 1H61 อยู่ที่ 257 ลบ. +122%YoY และอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสู่ 5.3% จากช่วง 1H60 ที่ 2.2%
  • จำนวนหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 4 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ  1,983 ลบ. ใช้เพื่อชำระเงินกู้ยืมสำหรับการขยายโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วแห่งใหม่ในจังหวัดราชบุรี  และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
  • ราคา IPO คิดเป็น Current PER ที่ 7 เท่า ต่ำกว่าหมวดสินค้าอุตสาหกรรมในตลาด SET ที่มีค่า PER เฉลี่ยเท่ากับ 19.7 เท่า

หุ้นมีข่าว   

·      TMB (ราคาปิด 2.26 Bloomberg Consensus 2.59)ในช่วง 3Q61 มีกำไรสุทธิ  5.59 พันล้านบาท +176%QoQ  +179%YoY  เนื่องจากการรับรู้กำไรจากดีลขายหุ้นบลจ.ทหารไทยออกไป 65% จำนวน 7.6 พันล้านบาท และกำไรจากการเปลี่ยนแปลงการควบคุมจากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วม 35% จำนวน 4.2 พันล้านบาท ทำให้ธนาคารถือโอกาสตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัวเพื่อปรับลดชั้นสินเชื่ออย่างรอบคอบและเตรียมพร้อมปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชี IFRS9 ส่งผลให้ Coverage ratio เพิ่มขึ้นเป็น 157% จากระดับ 140% ณ สิ้น 2Q61 สำหรับงวด 9M61 มีกำไรสุทธิ 9.9 พันล้านบาท +54%

       ความเห็น เป็นปกติที่เมื่อมีกำไรเติบโตสูงแล้วธนาคารจะตั้งสำรองเพิ่มขึ้นตามหลักความระมัดระวังซึ่งเป็นแนวนโยบายของธปท. จะเห็นได้ว่าระดับ Coverage Ratio ปรับดีขึ้นจากเท่ากับ peer ที่ระดับ 140% เล็กน้อย  ทั้งนี้ กำไร 9M61 ซึ่งรวมกำไรพิเศษสูงกว่ากำไรปกติเฉลี่ยตามคาดการณ์ของ Bloomberg Consensus ที่ราว 8.8 พันล้านบาท ขณะที่ทิศทางรายได้ค่าธรรมเนียมในอนาคตมีแนวโน้มเติบโตจากพันธมิตรที่เข้ามาถือหุ้นบลจ.ทหารไทย  จึงคาดว่า Consensus จะปรับประมาณการเพิ่มขึ้น

·      AQ รายงานว่าในวันที่ 17 ต.ค. 2561 ขายทอดตลาดที่ดินที่เป็นหลักประกัน 4,315 ไร่ได้ในราคา 8,914.07 ล้านบาท โดยผู้ซื้อเป็นบริษัทร่วมทุนที่ถือหุ้นโดย TICON 50% ROJNA 25% และนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย 25%  คาดทำสัญญาโอนสิทธิภายใน 1 ก.พ. 2562

ความเห็น : เป็นข่าวดีที่ KTB จะได้รับชำระคืนหนี้ที่ได้ตั้งสำรองหนี้สูญเต็มจำนวนไปแล้ว อย่างช้าที่สุดในปีหน้า (มูลหนี้ราว 1 หมื่นล้านบาท ได้รับชำระแล้ว 3.6 พันล้านบาท เหลืออีกราว 8.4 พันล้านบาท) ซึ่งเป็นอัพไซต์จากกำไรปกติ  ทั้งนี้ การที่ภาครัฐทยอยเปิดประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ช่วยสนับสนุนสินเชื่อภาครัฐเร่งตัวขึ้นในปีหน้า

·      + VCOM(ราคาปิด 3.18 ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่างการปรับประมาณการเชิงลบ) เซ็นสัญญาซื้อไอซีเคียวสำเร็จ บุ๊กรายได้เข้า Q4 ทันที ดันสัดส่วนธุรกิจบริการพุ่งขึ้นเป็น 40% ด้านแม่ทัพหญิง "ทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต" ใส่เกียร์ลุยงานตามแผน ปั๊มผลงานปีนี้วิ่งชนเป้า 1.6 พันล้านบาท จับตางบไตรมาสสุดท้ายสดใส จ่อรับทรัพย์เพียบ เล็งสยายปีกเวียดนามเพิ่ม

ความเห็น : การซื้อบริษัทไอซีเคียวเข้ามาเพิ่ม คาดจะช่วยสนับสนุนธุรกิจเดิมให้บริการได้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเป้ารายได้ทั้งปีที่ 1.6 พันลบ. อาจไม่เป็นไปตามคาด โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้ในช่วง 1H61 เพียง 676 ลบ. คิดเป็น 42% ของเป้าทั้งปี

·      + TOP แรงรับผลดีองค์การขนส่งทางทะเลบังคับใช้เชื้อเพลิงดีเซลแทนน้ำมันเตา ดันแนวโน้มค่าการกลั่นดี ขณะที่ราคาพาราไซลีนดีดสูงหลัง 3 โรงงานยักษ์ประกาศซาอุดีอาระเบีย-จีน-เวียดนาม เลื่อนผลิต ดันราคาพุ่งเกิน 70 (ที่มาทันหุ้น)   

·      + MONO กสทช. เผยเรตติ้งทีวีดิจิทัล เดือนก.ย. ช่อง 7HD ครองแชมป์อันดับ 1 ตามด้วย 3HD-MONO

·      + TRC ได้งานจ้างเหมาออกแบบและก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นของ PTTOR มูลค่า 600 ลบ.

·      IRPC จะลงทุน 650 ลบ. ซื้อหุ้น 15% ในธุรกิจเทรดดิ้งอุตสาหกรรมพลาสติกผ่านระบบ E-Commerce ในจีน