เวทีปชช. จี้ "คสช." งดใช้อำนาจแทรกแซงเลือกตั้ง - "พรรคการเมือง" ทำสัตยาบรรณเลือกตั้งสุจริต-หาเสียงไม่ขัดแย้ง หวังเลือกตั้ง 62 แก้ปัญหาปชต.-ปัญหาปชช. ผ่านตัวแทนในสภา
เครือข่ายคนต้องการการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรมและเกิดผลเป็นรูปธรรม (FFFE- Free Fair & Fruitful Election) จัดเสวนา เรื่อง การเลือกตั้งที่เสรี และเป็นธรรมกับอนาคตสังคมไทยและการเมือง มุมมองจากภาคประชาชน และตัวแทนพรรคการเมือง
สำหรับเวทีแรก ในมุมมองภาคประชาชน เชื่อว่าการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และเกิดผลในทางปฏิบัติจะเกิดขึ้นได้ หากรัฐบาล คสช. ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนต่อการงดใช้อำนาจแทรกแซงการเลือกตั้ง ขณะเดียวกับพรรคการเมืองรวมทำข้อตกลงร่วมกันหรือทำสัตยาบรรณร่วมกันว่าจะเดินหน้าทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่จุดชนวนความขัดแย้ง
โดยนายเอกพันธุ์ ปิณฑวณิช นักวิชาการสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ขณะนี้ ประชาชนถูกความกลัวเข้าครอบงำ เพราะการใช้อำนาจจัดการกับคนที่เห็นต่าง ด้ังนั้นการเลือกตั้งที่จะมาถึงควรต้องทำให้สังคมปราศจากความกลัวจากอำนาจดังกล่าวด้วย สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2562 สถาบันสิทธิมนุษยชนฯ มีข้อเสนอถึงนักการเมืองและพรรคการเมืองร่วมสัตยาบรรณหรือประกาศข้อตกลงร่วมกัน โดยก่อนการเลือกตั้งต้องไม่ซื้อเสียง ไม่ใช่กลไก ทรัพยากรของรัฐเพื่อประโยชน์ หรือให้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง รวมถึงหลีกเลี่ยงสร้างความเกลียดชังของประชาชน ขณะเดียวกันต้องให้การหาเสียงเลือกตั้งไม่ตกภายใต้อิทธิพลหรือความกลัวใดๆ ขณะที่ระหว่างการเลือกตั้ง รวมถึงหลังการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกนายกฯคนนอกบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอชื่อ ต้องประกาศชัดเจนว่าจะไม่เลือกบุคคลที่ไม่อยู่ในบัญชีนายกฯ ที่พรรคการเมืองเสนอเป็นนายกฯคนต่อไป
"ผมเชื่อว่าหากการเลือกตั้งมีอิสระ เสรี และเป็นธรรม กระบวนการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลจะไม่เป็นไปตามหวัง แม้จะมีพรรคการเมืองตั้งขึ้นใหม่หลายพรรค อาจไม่ชนะ เพราะสิ่งที่ตอบโจทย์ได้คือผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง แม้จะมีความพยายามอำนาจรัฐ หรืออิทธิพลแทรกแซงกระบวนการหาเสียงเลือกตั้งก็ตาม" นายเอกพันธุ์ กล่าว
ด้านนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็คเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กล่าวว่าการเลือกตั้งปี 2562 ถือเป็นการเลือกตั้งของ คสช. เพราะ คสช. เป็นผู้เขียนรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ตีความเนื้อหา และเป็นผู้ที่จะลงเล่นในสนามการเมืองด้วยตนเอง ดังนั้นหากจะสร้างการเลือกตั้งที่เป็นธรรมและเสรีจริง ต้องยกเลิกคำสั่งหรือประกาศคสช.ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำกิจกรรมทางการเมือง ทั้งการชุมนุม, การควบคุมข่าวสารของสื่อมวลชน และ การทำกิจกรรมของพรรคการเมือง ขณะเดียวกันตนมองว่า คสช. ยังมีอำนาจที่จะตัดสินใจประกาศวันเลือกตั้ง แม้จะระบุว่าจะเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 แต่เมื่อสถานการณ์ที่คสช. ไม่พร้อมอาจเลื่อนเวลาดังกล่าวได้เพื่อให้ตนเองได้ผลเลือกตั้งตามที่ต้องการ
"การเลือกตั้งภายใต้บรรยากาศ และเครื่องมือ คสช.หากไม่เปลี่ยนหรือแก้ไข จะเป็นการเลือกตั้งของ คสช. โดย คสช. และ เพื่อ คสช. หากให้ คสช. กลับมาดำรงตำแหน่งอำนาจรัฐ ซึ่งผมมองว่าไม่ใช่การเลือกตั้งโดยชอบอย่างแน่นอน ดังนั้นการเคลื่อนไหวที่สำคัญคือร่วมลงชื่อยกเลิกคำสั่ง คสช. ล่าสุดนั้นมีผู้ร่วมสนับสนุน 5,000 คน นอกจากนั้นในวันเลือกตั้งทุกคนต้องออกไปเลือกตั้งภายใต้ความเข้าใจในกติกาที่ถูกต้องให้มากที่สุด" นายยิ่งชีพ กล่าว
ขณะที่นายบุญยืน สุขใหม่ ตัวแทนสมัชชาคนจน กล่าวว่าการเลือกตั้ง ปี 2562 ถือเป็นความหวังที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเรียกร้องตามสิทธิรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้แก้ปัญหากลุ่มผู้ใช้แรงงาน ทั้งการชุมนุม หรือ ผ่านตัวแทนในสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตามตนต้องการให้การเลือกตั้งยุติธรรม โดยรัฐต้องยุติการแทรกแซงทางการเมือง และ สืบทอดอำนาจรัฐบาลทหาร
ส่วนนายขุนกลาง ขุขันชิน เครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่ากติกาและกฎหมายที่เกี่ยวกับการเมืองถือเป็นกติกาที่จะสร้างความล้มเหลวให้กับการเมือง อาทิ กระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว. จำนวน 250 คนที่มาจากการแต่งตั้ง โดย คสช. ทั้งนี้การเมืองช่วงต่อไปตนมองว่าหากขาดการตรวจสอบ ถ่วงดุล จะทำให้เกิดปัญหา