IVL - ซื้อ

IVL - ซื้อ

แนวโน้มกำไรหลักเติบโตแข็งแกร่ง YoY ต่อเนื่อง

คาดการณ์การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกำไรหลักจนถึงไตรมาส 4/61, ประมาณการกำไรหลักปี 2562 ขยายตัว 23% YoY และอัพไซด์ต่อแนวโน้มการเติบโตกำไรของ IVL จากการเข้าซื้อกิจการใหม่ในอนาคต ทำให้ IVL เป็นหุ้นที่น่าลงทุน มูลค่าหุ้นยังคงถูก โดยซื้อขายที่ PER ปี 2562 ที่ 11 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 16.6 เท่าอย่างมีนัยสำคัญ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วย ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2562 ประเมินด้วยวิธี DCF ที่ 86 บาท

คาดกำไรหลักไตรมาส 3/61 จะเป็นอีกไตรมาสที่แข็งแกร่ง

เราคาดว่า IVL จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/61 ที่ 7.97 พันล้านบาท สูงขึ้น 127% YoY หนุนโดยการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง แต่กำไรสุทธิน่าจะลดลง 3% QoQ เนื่องจากกำไรพิเศษลดลง เราประมาณการกำไรหลักจากการดำเนินงานขยายตัว 49% YoY มาอยู่ที่ 6.98 พันล้านบาท หนุนโดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น, ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โดยรวมสูงขึ้นและส่วนแบ่งกำไรจากสินทรัพย์ที่ได้มาใหม่ (โรงงาน PTA ในโปรตุเกส และส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสจากโรงงาน PET ในบราซิลและอียิปต์) แต่กำไรหลักคาดว่าจะทรงตัว QoQ เนื่องจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจะกลบกับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง ปริมาณขายคาดว่าจะเติบโตขึ้น 15% YoY และ 8%QoQ มาอยู่ที่ 2.8 ล้านตัน core EBITDA ต่อตันในไตรมาส 3/61 คาดว่าอยู่ที่ 150 ดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้น 20% YoY หนุนโดยส่วนต่างราคา PTA (เอเชีย&ตะวันตก) และส่วนต่างราคา PET (ตะวันตก) ที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง
2% QoQ เนื่องจากส่วนต่างราคา PET (เอเชีย) และส่วนต่างราคา EO/EG (สหรัฐอเมริกา) อ่อนตัวลง

คาดกำไรหลักจะเติบโตแข็งแกร่ง YoY ในไตรมาส 4/18

การปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์/อุปทานของอุตสาหกรรมจะผลักดันการขยายตัวของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ให้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง YoY ในไตรมาส 4/61 อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่สูงผิดปกติในเดือน ก.ค., อุปสงค์ในช่วงโลว์ซีซันและความล่าช้าของการปรับราคาขายมีแนวโน้มกดดันส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ให้ลดลง QoQ อย่างไรก็ตาม อุปทานที่ตึงตัวจะช่วยลดผลกระทบต่อการปรับตัวลดลงของส่วนต่างราคาได้บางส่วน ในด้านปริมาณขาย คาดว่าปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ในไตรมาส 4/61 หนุนโดยส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากโรงงาน PTA แห่งใหม่ในโปรตุเกส รวมทั้งมีส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสจากสินทรัพย์เส้นใย HVA ใหม่ และส่วนแบ่งกาไรของ PET preform และโรงงาน HVA  สำหรับยานยนต์ ดังนั้น IVL น่าจะคงรายงานการเติบโตของกำไรหลัก YoY ได้ในไตรมาส 4/61 (ลดลงเล็กน้อย QoQ)

ในขณะที่เรายังคงประมาณการกำไรหลักปี 2561 ไว้ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 เพิ่มขึ้น 5% เป็น 2.8 หมื่นล้านบาท เพื่อสะท้อนกำไรพิเศษที่คาดไว้สำหรับไตรมาส 3/61 นอกจากนี้เรายังได้ปรับระยะเวลาการลงทุนเป็นสิ้นปี 2562 และได้ราคาเป้าหมายประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF ที่ 86 บาท

ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ & กำไรอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องในปี 2562

แนวโน้มขาขึ้นของตลาดผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์คาดว่าจะดำเนินต่อไปในปี 2562 หนุนโดยอุปสงค์ที่เติบโตแข็งแกร่ง ขณะที่การขยายตัวของกำลังการผลิตลดลง ดังนั้น ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ในปี 2562 หรือที่แย่ที่สุดทรงตัว นอกจากนี้ปัญหาทางการเงินของผู้ผลิตบางรายอาจนำไปสู่การเลื่อนดำเนินงานเและ/หรือการหยุดโรงงาน ซึ่งอาจจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุปทานและเป็นอัพไซด์ต่อส่วนต่างราคา นอกจากนี้ปริมาณขายของ IVL จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า จากผลกระทบเต็มปีของสินทรัพย์ที่ได้มาในระหว่างปี 2561 ดังนั้น กำไรหลักของปี 2562 คาดว่าเติบโต 23% YoY มาอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท