วันแดงเดือด

วันแดงเดือด

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นแรง สวนกับตลาดเพื่อนบ้าน คาดว่าเป็นแรงรีบาวด์ระยะสั้น หลังจากที่ตลาดร่วงติดต่อกันหลายวัน

โดยตลาดปรับตัวขึ้นหนุนด้วยกลุ่ม ENERG อาทิ PTT PTTEP และ PTTGC จากฝั่งนักลงทุนสถาบันที่กลับเข้ามาซื้อสุทธิที่ 4,711.81 ลบ.  ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,721.82 จุด (+24.90 จุด) Volume 4.7 หมื่นลบ. จาก Foreign Net -1,806.47 ลบ. TFEX Net +548.00 สัญญาตราสารหนี้ +4,859 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

-ประธานเฟดนิวยอร์กส่งสัญญาณเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย รับศก.สหรัฐแข็งแกร่ง

-ดาวโจนส์ปิดร่วง 831.83 จุด หลังบอนด์ยีลด์พุ่ง วิตกเฟดเร่งขึ้นดบ.หลังเงินเฟ้อดีดแรง

-น้ำมันปรับตัวลงเกือบ 2 $/bbl จากบอนด์ยิลด์สหรัฐปรับตัวขึ้นและ IMF หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก

-บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังสหรัฐเผยดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น 0.2% แตะระดับสูงสุดรอบ 8 เดือน

-เฟดสาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก จากภาพรวมเศรษฐกิจค่อนข้างสดใส

-จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองสหรัฐลดลง 1.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่พุ่งขึ้น

-'ทรัมป์’ ตอกย้ำคำขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 267,000 ล้านดอลลาร์ หากจีนตอบโต้มาตรการภาษีและมาตรการอื่นๆ

-เงินทุนต่างชาติไหลออกตั้งแต่ต้นปี 61 เรียงจากมากไปน้อยตามลำดับ ไทย ไต้หวัน อินโดนีเซีย เกาหลี อินเดีย และฟิลิปปินส์

-สภาธุรกิจตลาดทุน ศึกษาแผนรองรับเงิน LTF 3.9 แสนลบ.ไหลออกหากคลังไม่ต่ออายุสิทธิทางภาษีเมื่อครบกำหนดในปลายปี 62 หวั่นตลาดเกิด panic

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.29 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.96 บาท/US

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงแรงจากกังวลเฟดอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมันปรับลง และสงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่มีแนวโน้มบานปลาย รวมทั้ง fund flow ไหลออก ทำให้ปัจจัยบวกเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจปลายปีที่มีแนวโน้มขยายตัวดีมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นน้อยมาก  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ  1,680-1,700 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

- KCE SVI XO กลุ่มส่งออกค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.96 บาท/$

- KBANK KKP KTB TMB สินเชื่อเติบโต QTD

-หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE CPF SVI

- หุ้น MAI ที่ผลประกอบการ 2H61 เติบโตต่อเนื่อง XO CHAYO TACC SSP JKN AUCT

- AMATA, BBL, CPALL, STEC, PTT หุ้นแนะนำจากผลสำรวจของ IAA

หุ้นแนะนำพิเศษ

WPH Analyst Meeting (ราคาปิด 2.82 บาท แนะนำ “ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว”)

  • ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนมากว่า 60 ปีในจังหวัดตรัง สามารถรองรับผู้ป่วยใน 120 เตียง และผู้ป่วยนอก 34 ห้องตรวจ โดยมีสัดส่วนผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ราว 66% และ 34% ตามลำดับ และมีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ ราว 20% จากผู้ป่วยทั้งหมด
  • 1H61 มีรายได้ 309 ลบ. +13.3%YoY เติบโตจากทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก เนื่องจากการกลับมาของโรคระบาด อาทิ โรคระบบทางเดินอาหาร และโรคไข้เลือดออก ตลอดจน โรคที่มีความซับซ้อน เช่น โรคหัวใจ และสมอง เป็นต้น ขณะที่กำไรอยู่ที่ 30.7 ลบ. +78.7%YoY ปรับตัวดีขึ้นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และการลดลงของต้นทุนการเงิน สะท้อนอัตรากำไรสุทธิของ 1H61 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 9.89% จาก 6.27% ใน 1H60 โดยเราคาดว่า 2H61 รายได้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจโรงพยาบาล
  • โครงการขยายโรงพยาบาล แบ่งเป็น 2 แห่ง คือ 1) รพ.วัฒนแพทย์ อ่าวนาง จ.กระบี่ งบลงทุน 450 ลบ. คาดเปิดเฟสแรก 4Q61-1Q62 โดยมี 29 เตียง 10 ห้องตรวจ และ 2 ICU และคาดว่าจะเปิดเฟสสอง ช่วง 2Q63 อีก 28 เตียง และ 6 ห้องตรวจ สำหรับโครงการนี้มีเป้าหมายจับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ เน้นอาการป่วยที่ไม่รุนแรง เช่น อาการท้องเสีย และอุบัติเหตุ และ 2) โครงการ รพ.วัฒนแพทย์ สมุย จ.สุราษฎร์ธานี งบลงทุน 425 ลบ. คาดเปิดดำเนินการ 4Q62 มี 25 เตียง 8 ห้องตรวจ และ 4 ICU เน้นกลุ่มลูกค้าทั้งคนภายในพื้นที่และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
  • ความเห็น เราชื่นชอบกลยุทธ์การขยายโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมองว่าโรงพยาบาลแห่งเดิมมีรายได้ที่ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว อย่างไรก็ตาม WPH ยังอยู่ในเฟสของการลงทุน ซึ่งอาจทำให้ในช่วงปี 62-63 หลังจากเปิดโรงพยาบาลใหม่กำไรสุทธิของบริษัทอาจไม่เติบโตเนื่องจากมีการรับรู้ค่าเสื่อมราคาของโรงพยาบาลใหม่แต่คาดว่ารายได้จะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นจากการใช้บริการของผู้ป่วย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาราว 1-2 ปีเพื่อให้คุ้มทุน ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ เพื่อลงทุนระยะยาว”

หุ้นมีข่าว   

·        KBANK ตั้งเป้าสินเชื่อปี 62 โต 6.5-7% จากปีนี้เป้าโต 5-7% เน้นกลุ่มสินเชื่อรายย่อยและรายใหญ่ เนื่องจากโครงการลงทุนของภาครัฐช่วยกระตุ้นให้มีการลงทุนต่าง ๆ ตามมาส่งผลต่อความต้องการใช้สินเชื่อของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนกลุ่มสินเชื่อรายย่อยปัจจุบันมีสัดส่วนน้อยที่สุดในพอร์ทที่ 24% ของสินเชื่อรวม โดยจะเน้นไปที่กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ พร้อมรุกสินเชื่อส่วนบุคคลในช่องทาง K PLUS ที่ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ส่วนสินเชื่อบ้านจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้ารีไฟแนนซ์ คาด NPL ปี 62 ทรงตัวจากสิ้นปีนี้ 3.3-3.4% หลังคุณภาพหนี้ดีขึ้นและไม่ค่อยมีหนี้เสียใหม่เพิ่มขึ้น

·        KTC (ราคาปิด 34.75 Bloomberg Consensus 34.40) มีกำหนดส่งงบ Q3 วันนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไร 3Q61 เฉลี่ย 1,270 ล้านบาท ลดลง 2.7%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 50%YoY ขณะที่คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 4,915 ล้านบาท เติบโต 49% 1H61 บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66%

·        TISCO (ราคาปิด 80.50 Bloomberg Consensus 95) Bloomberg Consensus คาดกำไรในช่วง 3Q61 เฉลี่ย 1,690 ล้านบาท เติบโต 7.5%YoY แต่ลดลง 3.7%QoQ โดยมีรายงานสินเชื่อสุทธิในช่วง 8M61  ลดลง 5.4%YTD

·        + WHART คาดเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 3 เข้าลงทุนในทรัพย์สินมูลค่าไม่เกิน 4,464.50 ลบ.ภายใน พ.ย.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินรวมเติบโตแตะ 32,800 ล้านบาทจากเดิม 28,192 ลบ. ขณะที่ขนาดพื้นที่เช่าคลัง/โรงงาน จะเพิ่มขึ้นแตะ 1,128,000 ตรม.จากเดิม 971,000 ตรม. ทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมประมาณ 86% เป็นโครงการ WAREHOUSE ในรูปแบบ BUIT-TO-SUIT ปัจจุบันมีผู้เช่าแล้วอายุสัญญาเช่าเฉลี่ย 7.5 ปี ทำให้ระยะเวลาคงเหลือของสัญญาเช่าเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นสนับสนุนการเติบโตของรายได้ให้กับกองทรัสต์ WHART ในระยะยาว

·        + BGRIM ประกาศข่าวดี! วานนี้โซลาร์ฟาร์มที่ฟูเยี้ยน 257 เมกะวัตต์ เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าเวียดนามแล้ว คาด COD ตามแผน 30 มิ.ย.62 หนุนรายได้ปี 62 โตตามเป้า 15-20% พร้อมเดินหน้าเจรจาเข้าลงทุนเวียดนามต่อเนื่อง หลังมองเห็นโอกาสเติบโตสูง (ที่มา ข่าวหุ้น)   

·        - AOT สภาวิศวกร ยื่นนายกฯขอทบทวนสร้างอาคารเทอมินอล 2 สนามบินสุวรรณภูมิ หลังไม่เป็นไปตาม Master Plan

·        ECF ผู้บริหารลั่นเกี่ยวข้องกับ SUPER TRADER แค่ดีลธุรกิจ พร้อมปฏิเสธไม่เกี่ยวปั่นหุ้น ECF พร้อมเดินหน้าสร้างรายได้-กำไรให้ ECF เล็งชงบอร์ดอนุมัติดีลลงทุนโปรเจกต์ใหญ่วันที่ 9 พ.ย.นี้ ฟากราคาหุ้นวานนี้ดิ่งหนักติดฟลอร์ หลังนักลงทุนแพนิกเทขายหลังผู้บริหารพัวพันปั่นหุ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        GFPT ชี้กรณีโรคไข้หวัดนกระบาดในฟาร์มไก่จีน จะกระตุ้นความต้องการไก่มากขึ้น ดันโอกาสส่งออกไปจีนสูงขึ้นต่อเนื่อง เล็งผลงานครึ่งปีหลัง 2561 โตแจ่ม ราคาไก่ยังดี (ที่มา ทันหุ้น)