'รองโจ๊ก' นำทีมขยายผลตรวจซ้ำคอนโดโวยระฆังวัดไทร

'รองโจ๊ก' นำทีมขยายผลตรวจซ้ำคอนโดโวยระฆังวัดไทร

"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" นำทีมขยายผลตรวจซ้ำคอนโดโวยระฆังวัดไทร พบความผิดผู้ให้เช่าไม่แจ้งการเข้าอยู่ต่างชาติ 12 ห้อง

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ประวิทย์ ศิริธร ผกก.2 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.พิพัฒน์ บุญพิทักษ์ รอง ผกก.ป.สน.วัดพระยาไกร พร้อมเจ้าหน้าที่ สตม.และ สน.วัดพระยาไกร เข้าตรวจสอบภายใน สตาร์วิว คอนโดมิเนียม พระรามสาม ถ.พระราม3 ซึ่งเป็นคอนโดเดียวกันกับที่มีประเด็นร้องเรียนเสียงระฆังวัดไทร โดยการตรวจเป็นการขยายผลหลังจากเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าคนเมือง ได้มีการจับกุม นาย ลี ซึง กึน อายุ 42 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ผู้ต้องหาหลบหนีคดีฉ้อโกงกว่า7คดี มูลค่าความเสียหาย 190 ล้านวอน หลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 6 ปี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำโดย พ.ต.อ.พนัญ ชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.ตม. เป็นการเข้าสำรวจผู้พักอาศัยที่เป็นชาวต่างชาติ เพื่อตรวจพาสปอร์ตว่าหมดอายุหรือไม่ และตรวจสอบเอกสารเรื่องการแจ้งที่อยู่ถูกต้องตามที่แจ้งไว้กับ สตม.หรือไม่ สำหรับการตรวจสอบวันนี้ มีจำนวน 12 ห้อง พบว่าชาวต่างชาติเข้าพักอาศัยถูกต้องตามกฎหมายทั้ง 12 ห้อง แต่ผู้ให้เช่าหรือเจ้าของไม่แจ้งการเข้าอยู่อาศัยของคนต่างชาติ ผู้ให้เช่าจึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 38 ซึ่งมีโทษปรับ โดยจะเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แก้ไขอัตราโทษให้เพิ่มสูง

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การตรวจค้นคอนโดครั้งนี้ไม่ได้จำเพาะเจาะจง ที่ผ่านมาก็มีการตรวจค้นหลายคอนโด และหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่ามีชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศ อยู่ในประเทศไทยเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือโอเวอร์สเตย์มากถึง 40,000 ถึง 50,000 ราย จึงต้องเอกซเรย์ทุกพื้นที่