สธ.เดือดปมโยกย้ายผอ.รพ.ใหญ่

จากกรณีที่ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2561 ในวันดังกล่าวได้ลงรามในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายนายแพทย์สาธารณสุข(นพ.สสจ.)และผู้อำนวยการโรงพยาบาล(ผอ.รพ.) 4 ฉบับ โดยเฉพาะในตำแหน่งผอ.รพ.จำนวนรวม 42 ตำแหน่งซึ่งเป็นรพ.ขนาดใหญ่ระดับรพ.ศูนย์และรพ.ทั่วไป ต่อมาบุคลากรในรพ.ที่ผอ.ถูกโยกย้ายออกมาแต่งดำและคัดค้านคำสั่งดังกล่าว เช่น ที่รพ.ศูนย์ขอนแก่นที่ย้ายผอ.คนเดิมไปเป็นผอ.รพ.พระปกเกล้า และย้ายนพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติจากผอ.รพ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ที่เป็นระดับรพ.ทั่วไปเข้ามารับตำแหน่งในระดับรพ.ศูนย์ หรือ ผอ.รพ.กาฬสินธุ์คนเดิมที่ถูกย้ายไปรพ.เลยทั้งที่รับตำแหน่งมาเพียง 1 ปีทำให้ตัดสินใจยื่นใบลาออก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นพ.สุขุม ให้เหตุผลของการลงนามคำสั่งนี้ว่า ไม่อยากให้เป็นผอ.ในรพ.ใดเกิน 2 -4 ปี หรือมากสุดไม่เกิน 6 ปี

ล่าสุด วันที่ 5 ต.ค. 2561 ศ.คลินิก เกียรติคุณ.นพ.ปิยะสกล​ สกลสัตยาทร​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข​(รมว.สธ.)​กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า​ การโยกย้ายเป็นเรื่องของนพ.สุขุม​ แต่การแต่งตั้งผอ.รพ.ศูนย์ สธ.มีนโยบายและดำเนินการมา2ปีแล้ว​ คือ​ ต้องให้มีการสรรหา​ โดยมีปลัดสธ.เป็นประธานสรรหา​ แต่ก็ต้องมีคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยหลายภาคส่วน​ และในการแต่งตั้งครั้งนี้​ นพ.สุขุม​ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง​ และเดินเรื่องไปเลย​ จึงอยากให้มีการทบทวน เพราะว่า​ รพ.ศูนย์เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่​ และการทบทวนหลังนโยบายทำมา​ 2​ ปีแล้ว​ น่าจะมีการทบทวนได้​ แต่ไม่ได้ให้เลิก  แต่เป็นเฉพาะการแต่งตั้งผอ.รพศ.เท่านั้นไม่เกี่ยวกับฉบับอื่น​

"เรื่องนี้ได้คุยกับปลัดสธ.แล้ว​ ส่วนขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อจากนี้ก็เป็นอำนาจของปลัดสธ.​ ยืนยันว่าที่ผ่านมารมว.สธ.ไม่เคยล้วงลูกแต่ครั้งนี้รู้สึกว่าลำบากนิดหน่อยเพราะมีผลกระทบ​ อย่างกรณีที่อดีตผอ.รพ.กาฬสินธุ์ก็เป็นหนึ่งที่มีผลกระทบจึงอยากให้ปลัดสธ.มีการทบทวนว่าจะดำเนินการอย่างไร​ แต่ก็ขอให้เป็นวิจารณาญาณ​ของท่าน"ศ.คลินิก เกียรติคุณนพ.ปิยะสกลกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ชมรมแพทย์ชนบทจะไปร้องนายกรัฐมนตรี ว่ารมว.สธ.เข้าไปล้วงลูก ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า การไปร้องนายกรัฐมนตรีก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการล้วงลูก เพราะที่ให้ตั้งกรรมการสรรหานั้นเป็นนโยบายมาก่อนแล้ว ในนโยบายก็ไม่ได้มีการล็อกสเปค ว่าต้องเป็นใคร อย่างไร

เมื่อถามต่อว่าไม่ว่าจะเดินทางไหนก็กังวลว่าจะเป็นการปลุกม็อบหมออีกระลอกหรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ก็กังวล ที่จริงกระทรวงก็อยู่สงบมาระยะหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตามยืนยันอีกครั้งว่าตนไม่ได้ล้วงลูก

ต่อข้อถามกรณีผอ.รพ.ยื่นลาออกไปก่อนหน้านี้ต้องมีการพิจารณาชะลอการอนุมัติก่อนหรือไม่​ ​ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล​ กล่าวว่า​ เรื่องนี้ต้องไปดูรายละเอียดก่อน​ เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริง

วันเดียวกัน  เวลา 11.00 น.  นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ ประธานชมรมสาธารณสุขจังหวัด และ นพ.โมลี วนิชสุวรรณ ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์(รพศ./รพท.) พร้อมตัวแทนราว 20 คน เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ ศ.คลินิกเกียรติคุณนพ.ปิยะสกล  เพื่อขอคัดค้านคำสั่งการโยกย้าย ผอ.รพ.ของ นพ.สุขุม ที่ไม่เป็นธรรมและไม่มีธรรมาภิบาล ผ่าน นพ.กิตติศักดิ์ กลับดี ที่ปรึกษา รมว.สธ.โดยนพ.โมลี กล่าวว่า คำสั่งโยกย้ายบางตำแหน่งไม่เหมาะสม ขาดธรรมาภิบาลใน 4 เรื่อง คือ 1.ขาดเหตุผล เช่น ผอ.บางท่านถูกย้ายไป รพ.ขนาดเล็กลง ลดระดับโรงพยาบาล เพิ่งเริ่มทำงานได้เพียง 1 ปี และกำลังพัฒนาไปได้ด้วยดี แต่กลับถูกย้ายโดยไม่ทราบสาเหตุ ย้าย ผอ.รพ.อำเภอที่เพิ่งยกฐานะ ข้ามขั้นไปโรงพยาบาลศูนย์ของเขต  2.ขาดความรอบคอบรอบด้าน เช่น ไม่ฟังความเห็นจากรองปลัด สธ. ผู้ตรวจราชการ หรือสาธารณสุขนิเทศก์ ชมรม สสจ. ชมรม รพศ./รพท. ซึ่งอยู่ในพื้นที่  3.ไม่ปฏิบัติตามนโยบาย เช่น ไม่มีการแสดงวิสัยทัศน์เพื่อประเมินคัดเลือกในรูปคณะกรรมการสำหรับ ผอ.รพศ. และ 4.ถูกครอบงำและมีเงื่อนงำ เช่น แต่งตั้งโยกย้าย นพ.สสจ.และ ผอ.รพ.ทั่วไป จากผู้ที่ใกล้ชิดบางกลุ่ม โดยมิได้ให้ความสำคัญกับบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ จึงขอเสนอแนวทางแก้ปัญหาต่อ รมว.สธ.ให้ทบทวนคำสั่งโยกย้ายเพื่อความเหมาะสมเป็นธรรม มีธรรมาภิบาล รับฟังรอบด้าน ตามเป้าหมายประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน
  
"ที่มาเรียกร้องไม่ได้เป็นเรื่องของขั้วอำนาจใดๆ แต่การโยกย้ายไม่ได้ผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นหรือการสรรหา ซึ่งพวกผมไม่ได้มองเรื่องตัวบุคคลแต่อย่างใดว่าใครเหมาะสม ไม่เหมาะสม หากถามว่าคนที่จะมาเป็น ผอ.รพศ.มีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่ ก็ต้องทำตามกระบวนการสรรหา ถามคนในพื้นที่ คนรอบข้างที่ทำงานด้วย จึงจะชัดเจนว่ามีคุณสมบัติพอจริงหรือไม่ที่จะมาเป็น ผอ.รพศ. ไม่ได้เกี่ยวว่าเป็นพรรคพวกใครหรืออะไร เพราะคนมีอำนาจตัดสินใจสุดท้ายก็คือ ปลัด สธ." นพ.โมลี กล่าว

ด้าน นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า จากนี้ปลัด สธ.น่าจะมีการทำหนังสือคำสั่งชะลอการรับตำแหน่งใหม่ไปก่อน เพื่อพิจารณาสรรหา ผอ.รพศ. ตามกระบวนการ ซึ่งหากผลออกมาเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับ เพราะครั้งนี้เป็นการทำตามกระบวนการที่วางไว้ 2-3 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยถึงเหตุผลของปลัด สธ.ที่ลงนามคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายหลังเข้ารับตำแหน่งเพียง 2 วัน ท่านชี้แจงว่า ตั้งแต่ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ก็ได้เตรียมข้อมูลจากทั้งชมรมต่างๆ หน่วยงานในกระทรวง โดยมีเจตนาดีว่าเพื่อให้สามารถสานต่องานอย่างรวดเร็วหลังรับตำแหน่ง แต่ไม่อาจทราบถึงเหตุผลว่าเพราะอะไร ใครถึงเหมาะสมกับพื้นที่ไหน เพราะเป็นอำนาจของปลัด สธ.
     

เมื่อถามถึงกระแสการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้อาจเป็นการสลายขั้วแพทย์ชนบท  นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า สธ.ไม่มีขั้วมา 2-3 ปีแล้ว คำว่าสลายขั้วคงไม่มี ส่วนคนที่แต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้แล้วไปได้ตำแหน่งที่ดีขึ้น ยืนยันว่าหลังจากทบทวนและสรรหาตามกระบวนการแล้ว ผลออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ

นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า กรณีที่มีบุคลากรออกมาแต่งชุดดำคัดค้านเรื่องการโยกย้ายนั้น เป็นการคัดค้านการโยกย้าย ผอ.รพ.ขอนแก่นคนเก่า ไม่ได้คัดค้านที่ตนจะเข้ามาเป็น ผอ.รพ. อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้เดินทางเข้าไปทำงานที่ รพ.ขอนแก่น เนื่องจากเพิ่งทราบคำสั่ง ทั้งนี้ การแต่งตั้งดังกล่าวตนไม่ได้ขอ แต่เป็นการพิจารณาของปลัด สธ.ที่ดูตามความเหมาะสม ซึ่งตนตั้งใจว่าหากมาบริหาร รพ.ขอนแก่นก็จะเดินหน้าเรื่องระบบส่งต่อไร้รอยต่อ เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลใหญ่ เพราะจากการที่บริหาร รพ.ชุมแพมา จนปัจุบันเป็น รพ.ขนาด 400 เตียง ถือว่ามีศักยภาพ ซึ่งโหนด รพ.ชุมชนหลายแห่งของขอนแก่นมีศักยภาพในการรับผู้ป่วยพักฟื้นไปดูแลต่อ ก็จะเดินน้าเรื่องเหล่านี้

เมื่อถามถึงกระแสหลายฝ่ายมองว่ายังไม่เหมาะสมที่จะเป็น ผอ.รพ.ศูนย์  นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า การเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ ตนมองว่าไม่จำเป็นต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็สามารถบริหารได้ อย่างไรก็ตาม ตนก็จบแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ครอบครัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊กเพจชมรมแพทย์ชนบท ซึ่งนพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติเป็นประธานชมรม มีการระบุถึงกรณีมีกระแส นพ.เกรียงศักดิ์ ไม่เหมาะสมที่จะเป็น ผอ.รพ.ศูนย์ว่า จะโวยวายไปทำไม เพราะ นพ.เกรียงศักดิ์ จบแพทย์จุฬา เป็นรุ่นพี่ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ที่จบจาก ม.ขอนแก่น ทั้งนี้ มีรายงานว่า หากนับรุ่นที่จบ นพ.เกรียงศักดิ์ อาวุโสกว่า นพ.ชาญชัย 2 ปี เรื่องความอาวุโสจึงไม่ใช่ข้ออ้าง รวมทั้ง ยังระบุด้วยว่า  เตรียมบุกยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อทีมเลขานุการรัฐมนตรีและทีมที่ปรึกษาล้วงลูกการแต่งตั้งโยกย้าย