ผบ.พล.ร.11 ลงพท.โยธะกายันที่ดิน4พันไร่ ไม่ใช้ในEEC

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 61 ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม ภายใต้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นำสื่อมวลชนหลายสำนัก ลงพื้นที่ทำข่าวที่บ้านท่าช้าง ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่มีปัญหาพิพาทกับกองทัพเรือมาตั้งแต่ปี 2557 และชาวบ้านกังวลว่าที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยจะนำไปใช้ประโยชน์ในโครงการอีอีซีด้วย

โดยการลงพื้นที่ของชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อมมีการจัดเวทีเสวนาปัญหาที่ดินโยธะกา โดยมีตัวแทนชาวบ้าน ตัวแทนกลุ่มจับตาปัญหาที่ดิน (Land Watch Thai) และนักวิชาการด้านที่ดินร่วมเสวนา แต่ระหว่างที่มีการเสวนาไปประมาณ 1 ชั่วโมงซึ่งการฉายภาพปัญหาของที่ดินโยธะกาจำนวน 4,000ไร่ ที่ชาวบ้านถูกกรมธนารักษ์ยกเลิกสัญญาเช่ามาตั้งแต่ปี 2557 เนื่องจากกองทัพเรือต้องการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ และมีการต่อสู้จากชาวบ้านนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ปรากฏว่ามีรถฮัมวี่ทหารมาและรถทะเบียนตราโล่อีกหลายคันมาจอดศูนย์บริการรับเรื่องราวร้องทุกข์บ้านท่าช้าง ซึ่งเป็นสถานที่จัดเวทีเสวนา โดยมีพลตรีวรยุทธ แก้วพิบูลย์พันธุ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่11 (พล.ร.11) นำคณะทหารมาในเวทีเสวนา ประกอบด้วย พันเอกจักรพงศ์ พันธุ์มงคล ผู้บัญชาการกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 111 พันเอก พณิช ศิริพละ รองผอ.กอ.รมน. ฉะเชิงเทรา รวมทั้งตัวแทนโยธาธิการและผังเมืองฉะเชิงเทรา ตัวแทนธนารักษ์พื้นที่ฉะเชิงเทรา นายอำเภอบางน้ำเปรี้ยว กำนันตำบลโยธะกา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาในคณะด้วย

โดยพลตรีวรยุทธ กล่าวว่า ตนเองเป็นตัวแทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อมารับฟังปัญหาของประชาชน และยืนยันกับชาวบ้านว่าที่ดิน 4,000 ไร่ไม่มีโครงการเกี่ยวกับอีอีซีมาใช้ที่ดินแน่นอนขอให้ประชาชนสบายใจได้ ส่วนกรณีที่มีปัญหาที่ดินกับทหารเรือนั้นจะประสานกับทหารเรือเพื่อมารับฟังปัญหาของชาวบ้านว่าจะมีทางออกอย่างไร โดยจะประสานให้เร็วที่สุด

ด้าน ตัวแทนธนารักษ์พื้นที่ฉะเชิงเทรา ยืนยันว่าขณะนี้กองทัพเรือยังไม่ได้ส่งมอบที่ดิน 4,000 ไร่ให้กับธนารักษ์ และยังไม่มีโครงการเกี่ยวกับอีอีซีในพื้นที่ดังกล่าวเสนอขอใช้พื้นที่เช่นกัน

ส่วนตัวแทนโยธาธิการและผังเมืองฉะเชิงเทรา ชี้แจงว่าปัจจุบันฉะเชิงเทรายังใช้ผังเมืองเดิมและพื้นที่บางน้ำเปรี้ยวยังเป็นผังสีเขียว ส่วนผังใหม่จะเป็นผังรวมของ EEC อยู่ระหว่างการจัดทำและร่างผังเมือง EEC จะแล้วเสร็จปลายเดือนพ.ย.นี้