ธนาคารพบหลักฐานเงินครึ่งล้านแล้ว ไม่ชัดจนท.เอี่ยวหรือถูกแฮก

ธนาคารพบหลักฐานเงินครึ่งล้านแล้ว ไม่ชัดจนท.เอี่ยวหรือถูกแฮก

คืบหน้า! ธนาคารฉาว แจงคาดพบหลักฐานเงินครึ่งล้านแล้ว ไม่ชัดใครเบิกเงินซื้อสินค้าทางออนไลน์ ไม่ชัดจนท.เอี่ยวหรือถูกแฮก ด้านตร.ลั่นหาตัวผู้กระทำผิดได้แน่

ความคืบหน้า หลังสาวไทยชาวชัยภูมิ พร้อมสามีชาวสวีเดน ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อทางธนาคารแห่งหนึ่งให้ช่วยตรวจสอบกรณีมีเงินหายจากบัญชี หลังได้พยายามติดตามสอบถามต่อทางธนาคารดังกล่าว มานานนับเดือน เรื่องกลับยังไม่คืบหน้า

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ต.ค.2561 ผู้จัดการธนาคารต้นสังกัดในจ.ชัยภูมิ ได้ประสานงานกับ พ.ต.ท.จิตติพัฒน์คำรังสี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่ สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อนำผลการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินที่หายออกจากบัญชี จำนวน 480,000 บาท เบื้องต้นพบว่ามีการนำไปใช้จ่ายทำธุรกรรม นำไปใช้ซื้อสินค้าทางออนไลน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นลักษณะของการจ่ายเงิน เพื่อสั่งซื้อสินค้าที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดจากฝ่ายกฎหมายสำนักงานใหญ่ว่า มีการสั่งจ่ายอย่างไรและผู้ใดสั่งซื้อสินค้า คาดทราบผลการตรวจสอบทั้งหมดเร็วๆนี้

“ระหว่างนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยาน หลักฐาน ภาพกล้องวงจรปิด ช่วงที่มีการบันทึกไว้หน้าตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ชัยภูมิทั้งหมด ว่าช่วงระหว่างคนไปกดเงินออกจากธนาคาร และหลักฐานทางเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ส่งรหัสเบิกเงินจากบัญชีไปจ่ายซื้อสินค้า ว่าเป็นของใคร ซึ่งจะสามารถให้คำตอบได้ว่าเป็นของใคร จะได้รู้ว่าใครเป็นคนเบิกถอนเงินออกจากบัญชี” ผู้จัดการธนาคาร กล่าว

พ.ต.ท.จิตติพัฒน์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งยืนยันมาเพื่อรวมกับหลักฐานที่ทานธนาคารส่วนกลางตรวจสอบที่พบว่ามีการนำไปซื้อสินค้าที่มีที่มาที่ไปทั้งหมดออกมาอย่างชัดเจนในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งหลักฐานสำคัญก็คือเบอร์โทรที่ใช้ทำการเบิกถอนเงินทางออนไลน์ครั้งนี้เป็นของใครมายืนยันอีกครั้ง และจะสามารถติดตามเงินที่หายออกจากบัญชี หรือหากมีเจ้าหน้าที่ในธนาคารเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องตรวจสอบ หากพบความผิดจะต้องดำเนินการทางกฎหมาย หรือหากพบว่า ถ้าเป็นการสั่งซื้อสินค้าที่มาจากการถูกแฮ็ก เข้าไปในระบบบัญชี ที่เข้าข่ายถูกฉ้อโกง ถูกลักทรัพย์ หรือถูกยักยอกทรัพย์ โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ทราบมาก่อน หากเป็นเช่นนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เอง ก็เตรียมที่จะต้องเร่งดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาได้ทันที