ภูเขาไฟเกาะสุลาเวสีปะทุ

ภูเขาไฟเกาะสุลาเวสีปะทุ

เกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซียเผชิญภัยธรรมชาติครั้งใหม่จากภูเขาไฟปะทุพ่นเถ้าถ่านสูง 4 กม.ขึ้นสู่ท้องฟ้าช่วงเช้าวันนี้ เพียงไม่กี่วันหลังจากเพิ่งเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิบนเกาะแห่งนี้ ที่ยังคงทำให้มีตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นเป็นกว่า 1,300 คน

ภูเขาไฟโซปุตัน บนเกาะสุลาเวสี ซึ่งคุกรุ่นมากขึ้่นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเกิดปะทุพ่นเถ้าถ่านสูงถึง 4 กม.ขึ้นสู่ท้องฟ้าช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียงไม่ชั่วโมงกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย เพิ่งออกประกาศเตือนด้านการบินให้เฝ้าระวังผลกระทบจากภูเขาไฟ  พร้อมทั้งยกระดับคำเตือนจากระดับสีเหลืองเป็นสีส้ม สืบเนื่องจากมีแรงสั่นสะเทือนและความร้อนเพิ่มสูงขึ้นช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คำเตือนระบุว่า ภูเขาไฟอาจมีแนวโน้มปะทุ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินได้ว่าการปะทุจะอันตรายมากร้อยแค่ไหน

แต่หลังจากการปะทุล่าสุด มีคำเตือนใหม่ว่า การปะทุและการพ่นเถ้าภูเขาไฟจะยังดำเนินต่อไป โดยกลุ่มเมฆจากเถ้าภูเขาไฟอาจปลิวลอยไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และขอให้ชาวบ้านอยู่ห่างจากปากปล่องภูเขาไฟในรัศมี 4 กม. นอกจากนี้ในรัศมี 6.5 กม.จากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของภูเขาไฟให้หลีกเลี่ยงกลุ่มเถ้าภูเขาไฟและอาจมีลาวาไหลทะลักชาวบ้านที่อาศัคยอยู่ในรอบภูเขาไฟควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจจากเถ้าภูเขาไฟ

การปะทุของภูเขาไฟลูกนี้เกิดขึ้นหลังเพิ่งเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.5 แมกนิจูดและสึนามิที่จังหวัดสุลาเวสีกลาง บนเกาะสุลาเวสีเมื่อวันศุกร์ โดยภูเขาไฟอยู่ทางตอนเหนือของเกาะสุลาเวสี ห่างจากเมืองปาลู ที่ได้รับความเสียหายหนัก ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 600 กม. และยังไม่รู้ว่าสองเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกันหรือไม่ ส่วนความพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตในสุลาเสวีกลางริบหรี่ลงทุกขณะ โดยยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1,347 คน และมีผู้สูญหาย 113 คน

เจ้าหน้าที่ประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติเตือนว่า ผู้ประสบภัยเกือบ2 แสนคนกำลังต้องความช่วยเหลือเร่งด่วน ซึ่งรวมถึงเด็กหลายหมื่นคน และบ้านเรือนราว 66,000 หลังพังย่อยยับหรือได้รับความเสียหาย

ทางการอินโดนีเซียกำลังเร่งจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปไปแจกจ่ายผู้ประสบภัยที่กำลังหิวโหย ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม โดยเครื่องบิน 7 ลำนำสิ่งของบรรเทาทุกข์หลายตันไปถึงสนามบินเมืองปาลูเช้านี้ และขณะนี้มี 25 ชาติเสนอให้ความช่วยเหลือ ซึ่งออสเตรเลียประกาศจะส่งบุคลากรการแพทย์กว่า 50 คนและมอบสิ่งของช่วยเหลือ อีก 5 ล้านดอลลาร์