กังวลสหรัฐ-จีน

กังวลสหรัฐ-จีน

SET Index วานนี้ปรับตัวลงแรง ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค รับข่าวที่ว่าสหรัฐฯและจีน ยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า

ประกอบกับแรงเทขายทำกำไรจากนักลงทุนสถาบัน และต่างประเทศ โดยเฉพาะ PTTEP ที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ ตามทิศทางราคาน้ำมันโลก รวมถึงแรงเทขายในกลุ่ม Big Cap. ตัวอื่นๆ อาทิ SCC AOT และ PTT ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,748.09 จุด (-12.38 จุด) Volume 6.4 หมื่นลบ. จาก Foreign Net -3,273.83 ลบ. TFEX Net -6,032.00 สัญญา ตราสารหนี้ +5,188 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น โดยตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์และหุ้นโบอิ้ง อย่างไรก็ตามหุ้นเฟซบุ๊กที่ดิ่งลงเกือบ 2% จากความวิตกกังวลปลอดภัยของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก

+มูดี้ส์คาดระบบธนาคารจีนมีเสถียรภาพในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า เหตุรัฐบาลดำเนินนโยบายผ่อนคลาย

+ดัชนีราคาผู้ผลิตยูโรโซน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค.โดยได้รับปัจจัยหนุนจากต้นทุนด้านพลังงานที่สูงขึ้น

+กกร. คาดเศรษฐกิจไทย H2/61 โตชะลอจาก H1/61 ตามท่องเที่ยว-ส่งออก จับตาข้อพิพาทการค้าส่อรุนแรง-ราคาน้ำมันสูงขึ้น

+ ฟิทช์ประเมินเศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโต 3.3% และ 3.1% ในปีหน้า  กลุ่มตลาดเกิดใหม่เสี่ยงสูงขึ้นแต่เชื่อประเทศไทยรับมือได้

-น้ำมันดิบปิดขยับลงจากคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐจะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน

-"พาวเวล"เผยเฟดยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนธ.ค. และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า และอีก 1 ครั้งในปี 2563

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.12 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.33 บาท/US

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้กังวลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่บรรลุข้อตกลงเหมือนกับทวิภาคีคู่อื่น และราคาน้ำมันปรับลง โดยมีปัจจัยหนุนจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ดี คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ  1,740-1,759 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

- KBANK KKP KTB TMB สินเชื่อเติบโต QTD

- ดัชนีค่าระวางเรือ +14% ติดต่อกัน  10 วันทำการสู่ 1,555 จุด PSL  TTA

- HMPRO, CPALL, ROBINS, BJC  คืน VAT เป็นเงินสดให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ

- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE CPF SVI

- หุ้น MAI ที่ผลประกอบการ 2H61 เติบโตต่อเนื่อง XO CHAYO TACC SSP

- กลยุทธ์การลงทุนเดือนก.ย. แนะนำกลุ่มธนาคาร กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แนะนำ KKP CK SSP

หุ้นแนะนำพิเศษ

MTC Analyst Meeting (ราคาปิด 48.75 ราคาเหมาะสม Bloomberg 50)

  • กฏหมายกำกับดูแลสินเชื่อทะเบียนรถที่จะประกาศใช้ราวเดือนพ.ย. 61 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น (hearing) ภายใน 12 ต.ค. มีแนวทางเป็นไปตามที่ผู้บริหารคาดและบริษัทไม่มีปัญหาในเชิงการดำเนินงาน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 2,120 ล้านบาทสูงกว่าขั้นต่ำ 50 ล้านบาท และเก็บดอกเบี้ย+ค่าธรรมเนียม+ค่าทวงถามหนี้ตามจริงไม่เกิน 28% ตามข้อกำหนดเรื่องเพดานดอกเบี้ย โดยบริษัทคิดดอกเบี้ยรถยนต์ 20.5% จักรยานยนต์ 23%
  • การดำเนินงานในช่วง Q3 เป็นไปตามแผนโดยเฉพาะการเปิดสาขาใหม่ คาดสิ้นปีมีสาขา 3,200 สาขาจากแผนเปิดสาขาในภาคใต้ ภาคอิสานด้านริมน.โขง และภาคเหนือด้านบนสุด ผู้บริหารเชื่อว่าเป้าเติบโตทั้งปี 40% สามารถทำได้ ครึ่งแรกปี 61 เติบโต 50% ส่วนเป้าเติบโตในปี 62 ราว 35% จากฐานที่ใหญ่ในปี 61 ด้าน NPL ปี 61 มีเป้าไม่เกิน 1.5% ปัจจุบัน 1.3% ปี 62 มีเป้าไม่เกิน 2% 
  • ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวจากการเติบโตต่อเนื่องตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น และความชัดเจนของกฏเกณฑ์สินเชื่อจำนำทะเบียนรถช่วยปลดล็อกความเสี่ยงด้านกฏหมายและลดความกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ MTC โดย Bloomberg consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 3,711 ลบ. +48% ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER 33 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 23 เท่า PBV 10 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 3.3 เท่า แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว

 

หุ้นมีข่าว   

AU ราคาปิด 9.00 บาท แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 9.20 บาท

·         รายงานข่าว AU อนุมัติการจัดตั้ง After You Hong Kong Limited ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีทุนจดทะเบียน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะจดทะเบียนบริษัทได้ในเดือนตุลาคม 2561 ทั้งนี้ เพื่อรองรับการดำเนินงาน หรือ การทำสัญญารองรับธุรกิจแฟรนไชส์ในหลายประเทศนอกราชอาณาจักรไทย

·         ความเห็น : ตั้งแต่ต้นปี 61 จนถึงปัจจุบัน เราเห็นถึงการรุกตลาดและขยายฐานธุรกิจอย่างต่อเนื่องของ AU เช่น การ Co-Branding กับ Starbuck และร้านอาหารอื่นๆ อีกทั้งการขายแฟรนไชส์ให้กับทางประเทศมาเลเซีย จนกระทั่งปัจจุบัน เพิ่งมีประกาศตั้งบริษัทย่อยที่ฮ่องกง ซึ่งเรามองว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดี เนื่องจากแบรนด์ AU ติดตลาดสำหรับคนจีนเป็นอย่างมาก อีกทั้งการเติบโตจากการขยายสาขาต่อเนื่องภายในประเทศ ที่คาดว่าภายในปีนี้จะเปิดเพิ่มราว 8 สาขา เป็นทั้งหมด 35 สาขา ณ สิ้นปี เราคาดกำไรปี 61 ที่ราว 153 ลบ. +19%YoY (1H61 กำไร 60 ลบ.)  ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยเตรียมปรับประมาณการเพิ่มขึ้น จากสมมติฐาน Co-Branding และ การขยายฐานธุรกิจในฮ่องกง

·         CHEWA (ราคาปิด 1.43 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 1.61 บาท) เผยไตรมาส 4/2561 เตรียมเปิด 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,650 ล้านบาท มั่นใจหนุนรายได้ปีนี้ตามนัด 2,400 ล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อก 800 ล้านบาท จ่อบุ๊กรายได้ทั้งหมดในครึ่งปีหลัง และมีสต๊อก 2,100 ล้านบาท ส่วนปี 2562 ตั้งเป้าโกยรายได้ 2,800 ล้านบาท โต 20% เล็งเปิดใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,200 ล้านบาท

·         ความเห็น สำหรับ 2 โครงการดังกล่าว ได้แก่ 1) ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ มูลค่า 950 ลบ. (คอนโด Low Rise 8 ชั้น ราคาขายเฉลี่ย 1.9 แสนบาท/ตร.ม.) เปิดให้จองรอบ VIP วันที่ 6-7 ต.ค.61 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 10-11 พ.ย.61 โดยกำหนดการสร้างเสร็จอยู่ที่ 4Q62 2) ชีวาโฮม วงแหวน-ลำลูกกา มูลค่า 700 ลบ. (บ้านทาวโฮม 2 ชั้น 272 ยูนิต ราคาประมาณ 2-3 ลบ.ต่อยูนิต) เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน คาดว่า ทั้ง 2 โครงการจะผลักดันรายได้ให้ถึงเป้าที่ 2.4 พันลบ. และส่วนที่เหลือจะเติมเป็น Backlog สำหรับปี 62 ขณะที่คาดกำไรปี 61 อยู่ที่ราว 232 ลบ. +50%YoY ( กำไร 1H61 อยู่ที่ 150 ลบ.) แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 1.61 บาท

·         + TRC ลุ้นผลประมูลงานคลังสินค้าอัจฉริยะมูลค่า 600-700 ล้านบาท ภายในปี 2561 โชว์ Backlog ในมือที่ 6,000 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้ปีนี้ 1,500 ล้านบาท เดินหน้าประมูลงานเพิ่มไตรมาส 4/2561 อีกราว 7,000 ล้านบาท (ที่มาทันหุ้น)

·         + JMT เผยดีลซื้อหนี้อีก 5 ดีลคาดสิ้นปีดันพอร์ตโตเป็น 1.7 แสนลบ.ตั้ง J COLLECTION CENTER เพิ่มยอดเก็บ-ลดต้นทุนหนุนโต

·         + CKP ปรับเป้ารายได้รวมปี 61 โต 15% จากเดิมโต 10% มั่นใจกำไรสูงขึ้น,ผลงาน Q3/61 โตเด่นจากน้ำงึม 2 มีปริมาณน้ำมาก

·         - BEM ขยายเวลาใช้อัตราค่าโดยสารเดิมจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระประชาชน

·         GL แจ้งศาลนัดไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวคดี J Trust ฟ้อง 8 พ.ย.นี้

·         ประเด็นลบกลุ่มที่อยู่อาศัย : ธปท.จ่อออกมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) ก่อนประกาศมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย เนื่องจากพบว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน ทำให้เกิดพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (search for yield) และทำให้เกิดการประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร และพบว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังมีแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPzl) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

·         + JMT ตั้งศูนย์รวมบริหารหนี้ กลุ่มเจมาร์ท เปิดตัว J COLLECTION CENTER ศูนย์รวมการบริหารหนี้ของกลุ่มบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บหนี้ของกลุ่มบริษัท ทำให้แผนการตั้งสำรองและลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลดีต่อกำไร