“ทรัมป์”ชูข้อตกลง"ยูเอสเอ็มซีเอ"หนุนจ้างงานในสหรัฐ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกย่องความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐ เม็กซิโก และแคนาดา ที่เรียกว่าข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา(ยูเอสเอ็มซีเอ)

โดยระบุว่า เป็นข้อตกลงที่มีความสำคัญมากที่สุดเท่าที่รัฐบาลของเขาเคยทำมา และความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงนี้ มาจากการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าของเขา โดยระบุว่า หากไม่มีคำขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า ก็จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ข้อตกลงยูเอสเอ็มซีเอ จะช่วยสร้างงานจำนวนหลายแสนตำแหน่งในสหรัฐ และจะทำให้เกษตรกรสหรัฐสามารถส่งออกข้าวสาลี สัตว์ปีก ไข่ และผลิตภัณฑ์นมได้มากขึ้น ขณะที่ทำให้ภูมิภาคอเมริกาเหนือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ และทำให้แรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์มีค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น

ปธน.ทรัมป์ กล่าวด้วยว่า เขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำของเม็กซิโกและแคนาดาแล้ว โดยผู้นำของทั้ง 3 ประเทศจะลงนามในข้อตกลงยูเอสเอ็มซีเอ ภายในสิ้นเดือนพ.ย. หลังจากนั้นจะมีการนำข้อตกลงดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาคองเกรสเพื่อให้การอนุมัติต่อไป

ทั้งนี้ ข้อตกลงยูเอสเอ็มซีเอ จะเข้ามาแทนที่ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) ซึ่งถูกใช้มานานกว่า 24 ปี

ขณะที่นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับจีนยังคงไม่มีความคืบหน้า แม้ว่าสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าฉบับใหม่กับเม็กซิโกและแคนาดาแล้ว

“ข้อตกลงนี้ถือเป็นการส่งสาส์นที่สำคัญไปยังจีน ขณะที่เรากำลังเจรจาการค้า ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่พอใจสถานการณ์การเจรจาในขณะนี้กับจีน แต่ประธานาธิบดีทรัมป์อาจพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในการประชุมจี20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งจะจัดการประชุมในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.นี้"นายคุดโลว์ กล่าว