'สมคิด' จี้ฟิทช์ฯ ปรับขึ้นเรทติ้งไทยหลังศก.โต การเมืองชัดเจน

'สมคิด' จี้ฟิทช์ฯ ปรับขึ้นเรทติ้งไทยหลังศก.โต การเมืองชัดเจน

“สมคิด” จี้ฟิทช์ฯ ปรับขึ้นเรทติ้งไทยหลังเศรษฐกิจเติบโต สร้างความสมดุล การเมืองชัดเจน ระบุไม่แฟร์หากพิจารณาแต่ปัจจัยการเมือง

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายเจมส์ แมคคอร์แมก (Mr. James McCormack) กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายประเมินความเสี่ยงความน่าเชื่อถือระดับประเทศและระหว่างประเทศ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ว่าตนได้ยืนยันกับฟิทช์ เรตติ้งส์ว่าสถานะเศรษฐกิจของประเทศไทยมีความแข็งแรงมาก โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจมหาภาคซึ่งมีการสร้างสมดุล (balance) ที่ดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลกแม้ในขณะนี้เงินทุนกำลังไหลเข้าเราก็ยังดูแลได้ดี ขณะที่การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจต่างๆของรัฐบาลก็มีความต่อเนื่องทั้งการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

นายสมคิด กล่าวว่า ที่ผ่านมาฟิทช์ยังไม่ปรับเรทติ้งของไทยขึ้นเนื่องจากปัจจัยทางการเมือง แต่ขณะนี้เรื่องการเมืองก็มีการชัดเจนเนื่องจากจะมีการเลือกตั้งซึ่งก็จะสนับสนุนให้ปัจจัยเศรษฐกิจดีต่อเนื่องด้วย ส่วนเรื่องปัญหาความเหลื่อมล้ำที่มีปัญหาก็ได้ชี้แจงว่าปัญหาเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ทุกประเทศมีปัญหาทั่วโลกและประเทศที่มีปัญหามากที่สุดก็คือในสหรัฐฯ

ขณะที่รัฐบาลไทย พยามแก้ปัญหาโดยการทำนโยบายที่ให้เงินลงไปในระดับรากฐานของเศรษฐกิจ ซึ่งได้ย้ำว่าไม่ใช่นโยบายประชานิยม (populism) แต่เป็นนโยบายที่แก้ปัญหาเรื่องปากท้องให้กับผู้มีรายได้น้อย ขณะที่เรื่องหนี้ครัวเรือนก็ได้ชี้แจงว่าต้องแยกระหว่างหนี้ที่เป็นทรัพย์สิน ซึ่งเป็นหนี้เพื่อการลงทุนกับหนี้เพื่อการบริโภค

“ได้บอกกับฟิทช์ว่าถ้าเทียบกับปี 40 ควรจะปรับเรทติ้งส์ของไทยขึ้นได้แล้วเพราะการคงเรทติ้งส์ของเราไว้ในระดับต่ำเป็นคอร์สในการทำธุรกิจ ที่ผ่านมาตัวชี้วัดทางการเงินของไทยทุกตัวปรับขึ้นหมด แต่เหตุผลที่ไม่ปรับเรทติ้งส์เราขึ้นเป็นเพราะเหตุผลทางการเมือง ซึ่งไม่แฟร์กับเรา” นายสมคิดกล่าว