SCCC - ซื้อ

SCCC - ซื้อ

เล่นรับการฟื้นตัวภายในประเทศและการเติบโตแข็งแกร่งในเวียดนาม

บริษัทที่มีธุรกิจซีเมนต์เพียงอย่างเดียวอย่าง SCCC น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเล่นรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในประเทศไทย และแนวโน้วที่สดใสในเวียดนาม เราคาดว่า SCCC จะสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่สูงกว่าตลาดให้กับนักลงทุนใน 3-6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากเราคาดว่าหุ้นจะขึ้นไปซื้อขายในระดับ PER ที่สูงขึ้นในช่วงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 4/61 – 1/62 เราแนะนำ “ซื้อ” SCCC โดยมีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2562 ที่ 320 บาท

การดำเนินงานในประเทศกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง

แม้ว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศในช่วงครึ่งแรกปี 2561 จะอ่อนตัวลง แต่ราคาปูนซีเมนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้น การปรับปรุงประสิทธิภาพและการลดค่าใช้จ่ายทำให้อัตรากำไร EBITDA ในประเทศขยายตัวถึง 600bps มาอยู่ที่ 22.2% ในช่วงครึ่งแรกปี 2561 และทำให้ EBITDA ในประเทศเพิ่มขึ้นมากถึง 39.1% YoY มาอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท การดำเนินงานในประเทศน่าจะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องในครึ่งหลังปี 2561 แม้จะมีการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 4/61 เนื่องจากความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวในไตรมาส 3/61 และจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการกลับมาลงทุนภาคเอกชนอีกครั้ง ความต้องการที่แข็งแกร่งนี้น่าจะส่งผลให้ราคาปูนซีเมนต์ปรับตัวสูงขึ้นอีก ในขณะที่การปรับปรุงประสิทธิภาพและการลดต้นทุนจะช่วยให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง SCCC คาดว่าแผนการปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทจะทำให้ EBITDA เพิ่มขึ้นอีก 2 พันล้านบาทในปี 2561 ซึ่งมากกว่าที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านบาทในปี 2560

ธุรกิจในต่างประเทศจะหนุนการเติบโตในระยะยาว

EBITDA ของการดำเนินงานในต่างประเทศลดลง 7.3% YoY มาอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาทในช่วงครึ่งแรกปี 2561 เนื่องจากผลประกอบการที่ศรีลังกาอ่อนตัวลง (EBITDA หดตัวลง 50% YoY มาอยู่ที่ 343 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกปี 2561 จากความล่าช้าในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน) แม้ว่าเราจะไม่คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวในศรีลังกาจนถึงปี 2563 แต่เราเชื่อว่าการเติบโตในภาพรวมของธุรกิจในต่างประเทศจะเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป หนุนโดยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในเวียดนาม โดย EBITDA ของธุรกิจในเวียดนามเพิ่มขึ้น 13.2% YoY มาอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาทในครึ่งแรกปี 2561 และมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งต่อเนื่องอย่างน้อย 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง (ประมาณการไว้ที่ 5-6% ต่อปีในช่วงปี 2561-2562) และการขยายกำลังการผลิต ปัจจุบันโรงงานในเวียดนามผลิตเต็มกำลังการผลิต แต่ SCCC มีแผนปรับปรุงการผลิตเพื่อทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ในระยะสั้น รวมถึงสร้างโรงบดเพิ่มอีก 1.5 ล้านตันซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 7.8 ล้านตันในต้นปี 2563

สิ่งที่แตกต่างจากที่ตลาดคาด

เราคาดว่าการฟื้นตัวในประเทศและฐานที่ต่ำ จากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างธุรกิจจำนวน 629 ล้านบาทในช่วงครึ่งหลังปี 2560 จะผลักดันให้กำไรสุทธิในช่วงครึ่งหลังปี 2561 เพิ่มขึ้น 72% YoY มาอยู่ที่ 1.75 พันล้านบาท ส่วนแนวโน้มการเติบโตในปี 2562 นั้นยังดูสดใสแม้จะไม่มีผลกระทบจากฐานที่ต่ำ เนื่องจากการดำเนินงานทั้งในประเทศและต่างประเทศน่าจะช่วยกันผลักดันให้กำไรเติบโตถึง 22% เป็น 4.4 พันล้านบาท ทั้งนี้ประมาณการกำไรในปี 2561 และ 2562 ของเราสูงกว่าตลาดคาดการณ์อยู่ที่ 7% และ 13% ตามลาดับ เราคาดว่าจะเห็นการปรับเพิ่มกำไรของตลาดเนื่องจากผลกระทบจากการเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพการเติบโตในเวียดนามน่าจะสูงกว่าที่ตลาดประเมินไว้